การประสบผลสำเร็จในการเปิดตลาดยุโรปและอเมริกาของฮอนด้า


....ผมไม่เคยลืมว่า accord 1988 - 1989 เป็นที่สุดของความภูมิใจของฮอนด้าที่ได้ เปิดตลาดออสเตรเลียและอเมริกา ทำให้รุ่นนี้เรียกว่า ตั้งใจผลิตให้สมศักดิ์ศรี ดีกรียุ่นกันเรยทีเดียว ทำให้มีข้อดี มากมาย จนได้รับรางวัล 

Car of the Year ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1985 - 1986 

Car of the Year อเมริกา ในปี 1986 (นิตยสารCar Driverรวาม10อันดับสุดยอดแห่งปี)

จุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่

1.ฮอนด้าคือเบนซ์ญี่ปุ่น ที่สุดความหรูหราของรถเมืองญี่ปุ่นคือ ฮอนด้า

2.ฮอนด้าคือบริษัทที่ทำเครื่องยนต์พัฒนาเครื่องยนต์ที่ผลิตรถด้วย เพราะฉนั้นเครื่องยนต์ฮอนด้า เทียบกับ จำนวนความจุที่เท่ากันซีๆต่อซีๆแล้ว เครื่องยนต์ฮอนด้าให้ประสิทธิภาพสูงกว่าประมาณ 20 แรงม้าในเครื่องทุกบล้อค

3.เทคโนโลยีวีเทค(ปุ่มวิเศษ) ทำให้ฮอนด้าชนะเลิศ F1 เพราะสามารถเรียกพลังจากการยกวาวล์ที่นานขึ้นป้อนไอดีให้เครื่องได้เพิ่มขึ้น รอบจึงจัดจ้านเวลาวาวล์วีเทคทำงาน

4.เปนรถที่ประหยัดในรอบต่ำเพราะ เกียร์โอเวอร์ไดร เกียร์สุดท้าย ฮอนด้าได้ทดไว้ต่ำขนาด 0.7 เพราะเครื่อง 2000 จึงทำให้ทดต่ำได้ จึงประหยัดที่ความเร็วสูง ยิ่งเกิน 120 ตกเกียร์ 4 แล้วยิ่งเบา รอบต่ำมาก  ในขณะที่ยี่ห้ออื่นเครื่อง 1600-1800 CC. ไม่สามารถทดเกียร์สุดท้ายในอัตราทดต่ำเท่านี้ เพราะจะไม่มีกำลังทำความเร็วปลายได้(0.8ขึ้นไป) และแรงในรอบสูงได้เหตุเพราะรองเครื่องที่จัดจ้านนั่นเอง แต่ก้อต้องแลกด้วยอัตรากินน้ำมันถึงระดับ 7 km/l ซึ่งถือว่าสูงมากที่เดียว แต่ถ้าค่อยๆนวดคันเร่ง ก็มีให้เห็นได้ 8-9 km/l ก็กำลังดี

5.ฮอนด้าดึงแรง(ทอร์คสูงบ้ารอบ) รอบสูงขึ้นได้เร็วแซงง่าย รอบเครื่องและวัดรอบตอบสนองได้ไว แรงบิดสูง

6.รุ่นเดียวในโลกที่ช่วงล่างเปนดับเบิ้ลวิชโบนทั้งหน้าหลัง แบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง Formular1 ซึ่งขณะนั้นยี่ห้ออื่นหลังเปนแมกเฟอร์สันซึ่งประหยัดแต่ไม่นิ่มนวลเท่า

7.ระบบไฟฟ้าทั้งคัน 

moonroof ตัดหมอกหลัง

 ฉีด-ปัดน้ำฝนหน้า-หลัง

 เสาโพลพร้อมไฟที่ปลายเสาติดในกันชนหน้าปรับขึ้นลงไฟฟ้า 

ไฟหรี่ในโคมไฟหน้า

 กระจกปรับ-พับไฟฟ้า 

ไฟส่องแผนที่ซ้ายขวา

 ช่องเก็บของคนนั่งข้างคนขับแบบมีไฟส่อง 

ช่องเก็บของวางแขนหน้า 

เสาวิทยุปรับขึ้นลงไฟฟ้า 

เฟรชแอร์เฉพาะคนขับ เฟรชแอร์ทั้งหมดทุกช่อง แอร์ระบบดิจิตอล

 เรือนไมล์ดิจิตอล วัดรอบดิจิตอล วงจรเตือนไฟเบรคขาด 

ไฟเตือนประตูแยกระบุประตู ไฟมุมประตู 4 บาน ไฟส่องกุญแจหน่วงเวลา 

คาบูเรเตอร์แวคคัมอัจฉริยะ

 ระบบกระจายแรงเบรควาล์วอัจฉริยะ

 ครูสคอนโทรลพร้อมสวิทควบคุมที่พวงมาลัย 

กุญแจรีโมท เซ็นทรัลล้อค กุญแจมาสเตอร์คีย์ เวลาซ่อม ของช่างไม่สามารถเปิดล้อคฝากระโปรงท้ายและที่เก็บของคนนั่งหน้าได้ 

กระจกสีชารอบคัน

 เบาะกำมะหยี่อย่างดี พรมกำมะหยี่อย่างดี แผงข้างประตูบุกำมะหยี่ 2 แบบ และบุผ้าอย่างดี 1 แถบเดินคิ้วสแตเลสเดินเก็บขอบผ้า บุหลังคาด้วยกำมะหยี่อย่างดี บังแดดหนังเทียมบุกำมะหยี่อย่างดี บังแดดด้านคนขับมีกระจกและไฟส่องหน้าอัตโนมัติเทียบเท่าspec ยุโรป

เครื่องเสียง pioneer ลำโพง Alpine ติดมาจากโรงงาน 

ล้อยางเดิม 185/70R13 พร้อมฝาปิดล้อลายคลาสสิคภูมิฐาน ความนิ่มนวลที่ลงตัวที่สุดของยางซีรี่ย์ 70 แล้ว

‎8.กระโปรงหน้าเทลาดต่ำ จนต้องยอมเสียช่วงยุบของโช้คหน้าไป เพื่อเพิ่มแรงกดหน้าขณะความเร็วสูง ตลอดความยาวตัวรถต่ำ low CG ทำให้ความเร็วสูงจะขับนิ่งหน้าไม่ลอยไม่เบา ควบคุมง่าย

9.ใช้วัสดุที่คุณภาพสูงในการประกอบภายในห้องโดยสาร (ตัวนอกแผงข้างไม่แพ้รถเบนซ์ นะจ้ะ)

‎10.เปนความภูมิใจของฮอนด้าและคนญี่ปุ่นทุกคนที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เพราะยุโรปต้องการรถที่ประหยัดแต่สมรรถนะสูง

11.Honda Accord คือรถแห่งปี Car of the Year 1985-1986 ACCORD and VIGOR

11.ฮอนด้าภูมิใจ ในการเปิดตลาดและทำยอดได้สำเร็จ จนถึงขนาดทำนาฬิกาแขวนผนัง ขนาดใหญ่รูปรถฮอนด้าแอคคอร์ด ACCORD และลิเจนท์ LEGENT แจกโชว์รูมและสปอนเซอร์ กระทั่งห้างร้านต่างๆอย่างมากมาย อย่างไม่เคยมีมาก่อน ในไทยเมื่อเปิดตัว Accord ในปี 1988 ในเครื่อง A20A คาร์บูร์ LX เกียร MT และ EX เกียร์ AT 

12.สมัยนั้นมีฮอนด้าสาขาเดียวคือประมวล สาขาแรกและสาขาเดียวในไทยแลนด์ ฮอนด้าสาทร และลาดพร้าว เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการแรกๆในช่วงปี 1988 นั้น

13.คนไทยรักฮอนด้าและฮอนด้าก็รักคนไทย เช่นกัน เพราะคนไทยต้องการเทคโนโลยีที่ดีกว่า สูงกว่า แม้ว่าต้องจ่ายมากกว่าก็ตาม  ซึ่งฮอนด้าผลิตรถที่เน้นสมรรถนะและเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ลืมความหรูหราจากภายในห้องโดยสาร โดยไม่อิงการแข่งขันด้านการตลาดมากเกินไปนั่นเองที่ตอบโจทย์คนไทยกลุ่มคนทำงานบริษัทได้ตรงจุดพอดี 

.....การดูแลรถก้อเหมือนคุณปลูกต้นไม้ หรือ ดูแล ญ คนหนึ่งๆ ซึ่งต้องมีภารกิจปฏิบัติบำรุงให้ดี  โดยความสุขอยู่ตรงที่  การบริหารจัดการเรื่อง เวลา เงิน การหาวัสดุอุปกรณ์มาปรนนิบัติบำรุงรักษา  สิ่งที่ละเอียดอ่อนหรือบางครั้งบอบบาง  ทำให้คุณมีจิตใจที่อดทน มั่นคง มีสมาธิ  รู้จักทำใจให้เย็น  รักเป็นเห็นคุณค่า  ที่สำคัญคือต้องอดทน เพียรพยายามต่อการขวนขวายให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เรารักต้องการ  ได้อย่างทันเวลาทันเหตุการณ์  มาทะนุบำรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันเลิกรา  ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งซึมซับความสุข  ที่คุณได้พิสูจน์ตัวคุณเองว่า  คุณได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมา  ได้โดยรู้เท่าทัน   เมื่อนั้นคุณก็ย่อมสุข  แต่ก็นับว่าเป็นกิเลสในทางโลก เหมือนกันนะ  แต่เมตตากรุณาก็จะเกิดได้เมื่อคุณมีความรักนี่แหละครับ เมื่อคุณสะสมมันมากๆเข้า นานๆเข้า ในท้ายสุด  มันก้อจะเป็นตัวเล่าประะวัติศาสตร์ของคุณ ของครอบครัว หรือของเพื่อนๆร่วมรุ่น  ในเวลานั้นๆได้ดีที่สุด  เปรียบเหมือนคุณได้แต่งวรรณกรรมชั้นดีเล่มหนึ่งเรยทีเดียว.....
....ดูพวกชิ้นส่วนพวกนั้นซิ กว่าจะหามาได้ต้อง........ต่างล้วนเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำในการอดทน  และรอ  อย่างยากเย็น......กว่าจะได้มา... เชื่อเถอะว่า... อะไรที่ได้มาง่าย... อาจมีค่า.... แต่ไม่มีประวัติศาสตร์ที่ได้พยายาม...ขวนขวาย.. เก็บหอมรอมริบ.. กว่าจะได้มาหรอกครับ.....
...... I'm Change many part modification to JDM Specification some part from USA VIGOR swap A20A.  Engine to H22A DOHC VTEC 2.2 lite 190 HP with skyline break ,Traction Bars and 4 discbrake ... powerfull!!!...
.....เรารุ้สึกสนุกและมีความสุข...เวลาไปหาอะไหล่รถรุ่นนี้ ...ซึ่งหายากมาแล้วไปเจอเข้า...คงมีความสุขคล้ายๆกับที่สตรีเดินช้อปปิ้งกระเป๋าหลุยส์ ....อ่ะ ....มันไม่ได้เพื่อคุยว่า... เก่ง...ว่า...สามารถ....หา..เจอ ...แต่มันบอกให้รุ้ว่า...เรามีเทคนิคการสังเกตุ ....คุณลักษณะของอุปกรณ์ ...ของรถ... ที่รุ้ว่า... อะไรเปนอะไร ...เพราะเราชอบมันเราเรยศึกษาเรียนรู้และแยกแยะออก....ถ้ามองผ่านๆอาจเห็นแค่ว่าอยากเอาไปโชว์...แต่ถ้ามองให้ลึกๆๆ...คือสิ่งที่หามาสิ่งนั้น... มันมี.. ข้อดี...เช่น..ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพ .....หรือประโยชน์โดยรวม.... อีกทั้งเพิ่มความทนทาน ...และการอดทนในการรอ...เฝ้าสืบ..เสาะหา...ตามแหล่งอะไหล่รถเก่าๆที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องสกปรก... เสียเวลา... แต่มันคือ... เศษชิ้นส่วนแห่งวิศวกรรมยานยนตร์ในสมัยนั้น... ที่สร้างมาด้วยความต้องการให้เกิดความพึงพอใจ ของมนุษย์มากที่สุด .... เหมือนกับสินค้าแบรนด์เนมที่ยังคงรักษาคุณภาพ วัสดุ มากกว่า  ที่จะพยายามลดต้นทุนการผลิตลง เหมือนสินค้าในปัจจุบัน  ดังนั้นการรักษาคุณภาพของการผลิตสำคัญกว่ากลไกตลาด  การรักษาคุณภาพที่ดีในการผลิตนี่เองทำให้เกิดแบรนด์ที่นิยมมาอย่างยาวนานในตลาดสมัยนี้นั่นเอง..... ผู้ที่ดูถูกอดีตของตนหรือทนไม่ได้ มองว่าเป็นสิ่งไม่น่าพิศมัย....ก็คือผู้ที่กำลังหลงกลในปัจจุบันกาลนั่นเองครับ.....

ว่าที่ร้อยตรีโสตถิทัศน์ เอี่ยมลำเนา วิศวกรไฟฟ้าชำนาญการ กรมการบินพลเรือน

1986 Honda Accord

1986 10Best Cars

        Nine and a half years ago, Honda pinned a target on the wall in the form of the original Accord, and every other manufacturer hoping to compete in the compact class has since been taking its best shot at the mark. Mercedes-Benz has done a commendable job with its 190 line, and others have nipped around the edges of Honda’s hot-selling sedan, but no one has yet matched the Accord’s combination of poise, performance, and price.

       9 ปีครึ่งที่ฮอนด้าผลิตรถยนต์มา  หมุดที่ปักบนกระดาษเขียนเป้าหมายบนบอร์ดกำแพงของเรา(เป้าประสงค์) จากแอคคอร์รุ่นแรก สู่ความตั้งใจในสายการผลิตรถคอมแพคคาร์ให้เป็นรถที่ดีที่สุดให้เร็วที่สุด   ในขณะที่ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งคือ  เมอร์ซีเดส-เบนซ์ ที่มีสายการผลิตถึง 190 สายการผลิตที่สั่งสมการประสบผลสำเร็จด้านการขายมายาวนาน  และฮอนด้าก็ยังค่อยๆจรดปลายปากกาค่อยๆวาดวงกลมให้เต็มสมบูรณ์(น่าจะหมายถึงกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อรถ ที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก) สามารถทำให้แอคคอร์ดมียอดขายที่สูงอย่างร้อนแรง รวดเร็วเป็นประวัติการณ์ในรถเก๋งซีดาน  และถ้าเทียบกันกับเบนซ์แล้ว การที่แอคคอร์ดมายืนอยู่ในจุดนี้ เทียบกันไม่ได้ ในเรื่องคุณภาพต่อราคา (ที่ถูกกว่าในคุณภาพเทียบเคียง , ที่เรามักได้ยินว่าฮอนด้าคือเบนซ์ญี่ปุ่นคือตรงนี้นั่นเองครับ)

      For 1986, Honda has for the second time thrown away a very successful Accord and introduced a brand new design. You should not be surprised to hear that there are major improvements on all fronts. The new 2.0-liter engine hums contentedly, even at 100 mph. The bodywork is a seamless blend of covered headlamps, hidden wipers, nearly flush glass, and concealed drip moldings. The door frames fold into the roof, and the hoodline is as low as possible, enhancing aerodynamic penetration. The result is a Cd of just 0.31 (for the hatchback). To optimize the tradeoffs between ride and handling, there are control arms rather than struts at all four corners. Roominess and cargo volumes have been increased appreciably in both three-door and four-door body styles.

      ในปี 2530 ฮอนด้ามีการปรับปรุงการออกแบบใหม่ คุณจะไม่แปลกใจเลยที่จะได้ยินว่า ด้านหน้าถูกปรับปรุงในส่วนหลักๆให้ดีขึ้น  เสียงเครื่องยนต์บล็อค 2.0 ลิตร ครางอย่างสบายๆในความเร็วที่ 160 กม./ชม. การที่ตัวถังไร้รอยตะเข็บรอยต่อเชื่อมเพิ่มความแข็งแรง ไฟหน้าแบบมีฝาปิด-เปิดได้ (Pop-Up) ก้านปัดน้ำฝนที่เก็บซ่อนบริเวณรังผึ้งช่องอากาศหลบข้างฝากระโปรงหน้า  ที่ฉีดน้ำล้างกระจกใกล้มากขึ้น  การเชื่อมใช้วิธีเชื่อมแบบรูปทรงหยดน้ำ(บ้านเราเรียกว่าเชื่อมแบบเกล็ดปลา , รอยเชื่อมจะต่อเนื่องและมีความหนาที่สม่ำเสมอเท่ากันตลอดแนวเชื่อม) กรอบประตูครอบคลุม(ประตูและกระจก)ตลอดแนวถึงหลังคา และมีช่องเปิดทำให้อากาศไหลผ่านทะลุไปได้เกิดการไหลเวียนตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเหลือเพียง 0.31 ในรุ่นแฮทชแบค เราสร้างทำให้เกิดดุลยภาพและประโยชน์สูงสุดระหว่างการขับขี่และการบังคับควบคุมรถ เพราะด้วยปีกนกควบคุมการทรงตัวทั้งหมด 4 แกนทำมุมต่างกัน (ช่วงล่างระบบ Double Wishbone , คล้ายแขนกระดูกคู่วางคู่ขนานกัน) และการขยายพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขึ้น ทั้งในรุ่น 3 ประตูแฮทชแบค และ 4 ประตูซีดาน 

he men and women of Honda will now stand politely aside while the competition resumes its fusillade.

กลยุทธของฮอนด้า ก็เปรียบได้ว่า.....

เสมือนชายหญิงยืนตรงอย่างสุภาพ.....  มองดูและหลีกเลี่ยง ...การแข่งขันที่เป็นอยู่ทั่วๆไป .... เราได้เดินกลับไปที่เดิมที่เรามาและเริ่มระดมยิง .... อย่างจริงจัง !!! .....

Specifications:

VEHICLE TYPE: front-engine, front-wheel-drive, 5-passenger, 3- or 4-door sedan

BASE PRICE: $8429-13,125

ENGINE TYPE(S): 4-in-line, iron block and aluminum head, 1x2-bbl Keihin carburetor or Honda electronic fuel injection

Displacement: 119 cu in, 1955cc

Power (SAE net): 98-110 bhp

TRANSMISSION(S): 5-speed, 4-speed auto

DIMENSIONS:

Wheelbase: 102.4 in Length: 174.8-178.5 in

Curb weight: 2450-2600 lbs

FUEL ECONOMY:
EPA city driving (est.): 23-27 mpg

ว่าที่ร้อยตรีโสตถิทัศน์  เอี่ยมลำเนา - แปลไทย

30 เมาายน 2557

ที่มา : http://www.caranddriver.com/features/1986-10best-c...

หมายเลขบันทึก: 532655เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2013 01:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2017 01:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)


สังเกตว่า...ฐานการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นขนาดใหญ่...1.มุ่งมาที่ประเทศในแถบเอเซียที่มีประชากร70-80 กว่าล้านคน ซึ่งหมายถึงจำนวนยอดขายที่สูง อันเป็นที่มาของโครงการรถยนต์คันแรกของไทยด้วย ในการทำยอดขายให้เพิ่มขึ้น ...2.มาตรฐานการผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตจะแตกต่างจากฮอนด้าที่ผลิตขายในประเทศแถบยุโรปมากด้วยสภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศและลูกค้า ...โดยมีราคาเท่ากันหรือถูกกว่าในรุ่นเดียวกัน...แต่คุณภาพต่างกันมาก...เรียกว่าคนไทยไม่รักกันจริง...ปัจจัยที่จำเป็นแพงมาก ทั้งรถ ทั้งบ้าน แต่ไม่มีคุณภาพ...คนไทยจึงมีแต่หนี้สิน...รวยกันเป็นตระกูลเป็นกลุ่มเพราะมีช่องทางหากิน...ราคาต้นทุนไม่มากแต่กินกันมาตลอดเส้นทาง...

ขอบคุณครับ ดร. พจนา แย้มนัยนา สำหรับมุมมองดีดี ที่สะท้อนให้เห็นความแตกต่างของอุปกรณ์และวัสดุในการผลิตคุณภาพงานต่างประเทศจะดีมาก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ราคาขายในประเทศเองน่าจะลดลงได้อีกแยะ ในขณะนั้น ประมาณปี 2531-2532 รถญี่ปุ่นญี่ห้ออื่นราคาแค่ประมาณ 3-5แสนบาท แต่ฮอนด้าเปิดตัวรถเก๋งซีดานในราคาสูงถึง 6-7แสนบาท (เทียบกับตอนนี้ก็ ล้านต้นๆ) ซึ่งน่าจะใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ Full Option มากกว่านี้ก็จริงครับ ...

......ซึ่งรถเป็นปัจจัยที่จำเป็นไปแล้ว คนไทยต้องยอมซื้อรถราคาสูงมากเพื่อให้ได้อุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย ในขณะที่ยุโรปนั้นบังคับให้ติดตั้งครับ ได้แก่ ดิสเบรคหลัง ระบบเบรคป้องกันล้อล้อคABS  ระบบควบคุมการลื่นไถล Traction Control ซึ่งไม่บังคับกับรถที่จดทะเบียนไทย ระบบเพิ่มความปลอดภัยจึงถูกถอดออกในบางรุ่น นำมาทำเป็น Option ให้เฉพาะรุ่นย่อยออกไป ซึ่งก็ทำให้ราคาลดลงได้มาก .....

....แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคก็ต้องบริหารความเสี่ยง ในการเลือกรุ่นย่อยระดับรองลงมาเอง แต่ไม่มีระบบความปลอดภัยบางอย่าง ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากเพิ่มขึ้น ซึ่งเจตนาของoptionนั้น น่าจะเน้นในเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ไม่ควรนำอุปกรณ์ความปลอดภัยมาใฃ้ด้วยเหตุผลทางการตลาด โดยการตัดอุปกรณ์ความปลอดภัยออกเลยจริงๆครับ

Generation ที่ 3 (รุ่นปี พ.ศ. 2529-2532)ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 3

โฉมที่ 3 นี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2529 - พ.ศ. 2532 เปิดตัวครั้งแรกมิถุนายน1985ที่ญี่ปุ่นในยุโรปและอเมริกาตามมาภายหลังนักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นท้ายดำแดงสองชั้นใช้แพลตฟอร์มเดียวกับโดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ใช้ช่วงล่างดับเบิลวิชโบนอิสระทั้ง4ล้อและมีระบบเบรกABSให้เลิอกด้วยในรุ่นดิสก์เบรก4ล้อเป็นรุ่นเดียวที่ไฟหน้าเป็นไฟแบบpopupรุ่นแรกและรุ่นเดียวแต่รุ่นที่ขายในไทยเป็นแบบธรรมดามีรุ่นเครื่องยนต์ 1600cc 1800ccและ2000cc นอกจากนี้ยังมีตัวถังหลายแบบ3ประตูhatchback 3ประตู shootingbrake เรียกว่า Accord Aerodeck และ2ประตู มาในปี 2530 และขายกันถึงปี 2532 ได้รับรางวัลรถยนต์นั่งยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นประจำปี 2529 อีกด้วย

ในไทยนั้นเป็นเครื่อง2000cc (1955cc)105แรงม้า โดยมี 2 แบบ คือ

LX เกียร์ธรรมดา 5 สปีด กระจกหน้าต่างและกระจกส่องข้างแบบปรับมือ ล้อกระทะเหล็ก 13 นิ้วพร้อมฝาครอบ ยางขนาด 185/70R13EX เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด กระจกหน้าต่างไฟฟ้าและกระจกส่องข้างปรับไฟฟ้า ล้อกระทะเหล็ก 13 นิ้วพร้อมฝาครอบ ยางขนาด 185/70R13 (เฉพาะรุ่นท้ายๆ จะได้ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย 14 นิ้ว ยางขนาด 195/60R14)

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่น จะได้พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรง, เซ็นทรัลล็อก, ไฟส่องข้างประตู, เสาอากาศไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งถือว่าเป็นความล้ำหน้าในเทคโนโลยีไม่น้อย ส่วนเบาะจะเป็นเบาะสังเคราะห์ หรือเบาะหนังเทียม (ไวนิล) รอบคันแม้แต่รุ่นท็อป ซึ่งเป็นจุดอ่อนเนื่องจากคู่แข่งใช้เบาะกำมะหยี่หรูหรากว่า

ในอดีต รถญี่ปุ่นนี่ละ โค่นรถยุโรป เยอรมันมาหมดละ Honda เคยได้ F1 , Nissan ก็กวาดไปไม่รู้กี่ถ้วย NSX Gen1 นี่ก็เป็นรถที่สอนเฟอรรารี่เลย ว่า Supercar มันควรจะเป็นรถแบบไหน ยุคนั้น Fer นี่ยังเป็น 355 อยู่เลยมั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด Lemans ปีล่าสุดนี่ เหมือนโตโยต้าตาม Porsche นิดเดียวเอง ดันมามีปัญหาเสียก่อน GTR ทุก Gen นี่ก็สมญานาม Godzilla เดินหน้าฆ่าทุกค่ายมานานละ

ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ฮอนด้าได้ย้ายไปตั้งวงการการผลิตในสหรัฐฯให้สอดคล้องกับปรัชญา “การสร้างผลิตภัณฑ์ในตลาดที่พวกเขาขาย” ต่อมาฮอนด้าออฟอเมริกาแมนูแฟคเจอริ่ง (HAM) ได้เปิดตัว Accord รุ่นที่สองที่ผลิตในประเทศในปีพ. ศ. 2525 ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นรถฮอนด้าคันแรกที่ผลิตในสหรัฐฯ

นอกจากการผลิตแล้วฮอนด้ายังให้ความสำคัญกับกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาด้วยการปรับโครงสร้างสาขาการวิจัยและพัฒนาในแคลิฟอร์เนียและจัดตั้ง บริษัท ฮอนด้ารีเสิร์ชออฟอเมริกาอิงค์ (HRA) ในเดือนกันยายนปีถัดไป รถเก๋ง Accord สองประตูซึ่งการผลิตเริ่มต้นที่ HAM ในปีพ. ศ. 2531 ได้กลายเป็นแบบจำลองที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกของ บริษัท โดยใช้กระบวนการออกแบบทั้งหมดที่ดำเนินการโดย HRA หลังจากที่มีรถสองประตูฮอนด้าได้พัฒนา Accord wagon 5 ประตูในปีพ. ศ. 2534 ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามของ HRA ซึ่งทำให้ครอบครัวแอคคอร์ดในสหรัฐฯขยายออกไป

ฮอนด้าได้เริ่มส่งออก Accord Coupe ที่ผลิตโดย HAM ไปยังประเทศญี่ปุ่นในปีพ. ศ. 2531 ในฐานะที่เป็นรถคันแรกของญี่ปุ่นที่ผลิตในสหรัฐฯที่นำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นการย้ายดังกล่าวได้รับการรายงานโดยสื่อต่างๆของโลก ในช่วงปีแรก ๆ เดียวมีการนำเข้าและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 10,000 สัญญา รถ Accord ของสหรัฐฯซึ่งเริ่มนำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในเดือนเมษายนปี 1991 กลายเป็นรูปแบบที่เป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของบูม RV (รถเพื่อการสันทนาการ) ใหม่ในญี่ปุ่น ดังนั้นยอดขายของเกวียนแปรปรวนเกินกว่าเป้าหมายเริ่มต้นที่ 5,000 หน่วยต่อเดือน

In the early 1980s Honda had moved to localize production in the U.S., in keeping with the philosophy of “building products in the markets where they are sold.” Subsequently, Honda of America Manufacturing (HAM) turned out the first locally made second-generation Accord in November 1982. In fact, this was the first car Honda produced in the U.S.

Honda began exporting the HAM-manufactured Accord Coupe to Japan in 1988. As the first Japanese nameplate U.S.-made car imported to Japan, the move was reported in a sensational manner by the world’s media. In the first year alone, more than 10,000 U.S.-made Accords were imported and sold in Japan. The U.S.-version Accord wagon, which began importing to Japan in April 1991

Accord coupe 1988 , Aerodeck Export 1991

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท