เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองกันได้ ขอให้ตั้งใจฝึกฝน...บทที่ 1

มีคำถามจากน้องที่น่ารักเสมอๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ตอบกันไปตอบกันมา น้องบอกว่าอยากให้สอนพิเศษให้ แนะนำน้องไปแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเอามาเผยแพร่สำหรับพวกเราชาว GotoKnow ที่อยากจะพัฒนาตัวเองกันด้วยน่าจะดี ประกอบกับมีนศ.ที่มาฝึกงานก็ปรารภว่าอยากพูดได้สบายๆเหมือนอาจารย์บ้าง (เพราะอยากให้เขาฝึก เราก็ต้องพูดกับพวกเขาก่อน นศ.บอกว่าฟังอาจารย์พอรู้เรื่อง แต่พอพูดเองมันไม่ได้สบายๆง่ายๆเหมือนที่อาจารย์พูดเลย ก็เลยแนะนำด้วยวิธีเดียวกันนี้เหมือนกันค่ะ) 

บทที่ 1

เริ่มจากการฝึกพูดตามและฟังน่าจะใช้งานได้เร็วที่สุดค่ะ ฟังเจ้าของภาษาเลยดีกว่าฟังครูคนไทยค่ะ เราจะได้ทั้งเสียงที่ถูกต้องและออกเสียงตามนั้นเลย เข้าไปที่นี่เลยค่ะ http://www.englishclub.com/listening/index.htm  

เข้าไปตรงลิงค์แล้วก็เลือกข้อแรก What Is Listening? แล้วก็เปิดอีกหน้าต่างไปที่ http://www.oddcast.com/home/demos/tts/tts_example.php?sitepal ซึ่งจะเป็นที่ออกเสียงให้เราฟัง 

จากนั้นก็ copy จากหน้า what is listening ทีละประโยคไปใส่ในหน้า Text-to-speech ตรงช่อง "Enter text" คลิก "say it" แล้วก็ฟังแล้วก็คิดตามไปด้วยนะคะ ประโยคมันจะค่อนข้างง่ายทำความเข้าใจได้ง่าย จบหน้านี้แล้วก็กลับไปที่หน้า http://www.englishclub.com/listening/index.htm อีกที 

แล้วทีนี้ก็ต่อที่หัวข้อ How to Hear English Everywhere อันนี้คลิกเข้าไปเขามีให้เลือกฟังเลยค่ะ ก็ง่ายมาก แค่คลิกฟังและทำความเข้าใจไปเลย เขาจะอธิบายว่าทำไมเราถึงควรจะเรียนด้วยการฟังก่อน เหมือนเวลาที่เราเรียนรู้ภาษาของตัวเอง เกิดมาก็ฟังๆๆๆๆ แล้วพอสองสามขวบก็พูดได้ไม่ต้องเรียน พูดแบบสั้นๆแล้วก็ค่อยพูดยาวๆเป็นประโยค ก็เหมือนที่เรากำลังจะทำในการเรียนภาษาอังกฤษนี้เองค่ะ ฟังทุกย่อหน้าแล้วก็กลับไปที่เดิม http://www.englishclub.com/listening/index.htm เลือกหัวข้อต่อไป

Dictation เข้าไปอ่านหรือทำเหมือนหัวข้อแรกคือ copy ทีละประโยคไปใส่ที่ http://www.oddcast.com/home/demos/tts/tts_example.php?sitepal .ให้เขาอ่านให้ฟัง  แล้วก็เริ่มทำแบบฝึกหัด Short online dictations จะมีหัวข้อย่อย 10 ข้อค่ะ เข้าไปทีละข้อ 

ข้อแรก Questions  อ่านแล้วก็ทำตามคำสั่งที่เขามีคือ 

• Click A to listen at normal speed. Do not write. (คลิก A เพื่อฟังในความเร็วปกติ ยังไม่ต้องเขียน ฟังกี่รอบก็ได้) 

• Click B to listen again at slow speed and write what you hear in C. (คลิก B เพื่อฟังอีกครั้งแบบช้าๆและพิมพ์สิ่งที่ได้ยินในช่อง C อันนี้ก็เหมือนกัน คลิกกี่รอบก็ได้)
• Click D to hear again at normal speed. Make corrections to what you have written in C. (คลิก D เพื่อฟังอีกครั้ง แก้ไขสิ่งที่เราพิมพ์ตามในช่อง C ส่วนไหนที่เราคิดว่าเราพิมพ์ไว้ผิด เขียนให้มีเครื่องหมายต่างๆตามที่ควรจะมี เช่น full stop, question mark, comma อันนี้จะช่วยให้เรานึกถึงเวลาที่เราต้องอ่าน)
• Click "Show" to see the answer in F. Compare F to C. (คลิก Show เพื่อดูเฉลยในช่อง F เปรียบเทียบกับที่เราพิมพ์ในช่อง C ว่าเราเขียนถูกต้องหมดมั้ย ใส่เครื่องหมายต่างๆถูกครบถ้วนหรือไม่ แล้วก็คลิก Next ด้านล่างเพื่อทำข้ออื่นๆต่อไป)

ทั้งหมดนี้เป็นบทที่ 1 นะคะ ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ รับรองจะใช้ได้แน่ ขอเพียงให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกสม่ำเสมอเท่านั้นเอง ทำตามไปแล้วมีอะไรสงสัยยังไง เขียนมาถามได้เลยค่ะ รับรองว่าถ้าทำตามขั้นตอนนี้จนครบแล้ว ทุกท่านจะพูด เขียนและฟังได้ดีขึ้นจากปัจจุบันแน่นอนค่ะ พี่โอ๋-อโณ รับประกัน

 

ใครสมัครเป็นนักเรียนก็มาลงชื่อบอกกันได้เลยค่ะ เพราะหากมีปัญหาตรงไหน อ่าน ฟังอะไรตามที่ลิงค์ไว้ให้ไม่เข้าใจ อยากให้ช่วยแปลขยายความอะไร ถามมาที่นี่ได้เลย จะมาตอบขยายความให้ ถ้ามีคนสมัครเป็นนักเรียนและมีการรายงานต่อเนื่อง เมื่อนักเรียนทำครบข้อ Dictation จนหมดทั้ง 10 หัวข้อแล้ว บทที่ 2 ก็จะตามมานะคะ 

[tuknarak]

ขอบคุณบทความดีๆ ค่ะ คุณหมอ

[Lioness_ann]

สุดยอดเลยค่ะพี่โอ๋.....เจ๋งเด็ดไปเลยค่ะ.....ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ นะคะ พี่สาว

[krutoiting]

ขอบคุณค่ะ  

จะได้ทบทวนฝึกไปด้วยค่ะ

[พ.แจ่มจำรัส]

ลองเข้าไปทดสอบฟังแล้วครับ...แต่อย่างผมคงต้องฝึกอีกเยอะครับ

[ขจิต ฝอยทอง]

ขอบคุณพี่โอ๋มากๆครับ

[krutoiting]

วันก่อนแวะเข้าไป วันนี้ลองฟังๆดู คิดว่าคงต้องใช้ความพยายามค่ะ

[โอ๋-อโณ]

ต้องอาศัยการฟังบ่อยๆค่ะ รับรองว่าถ้าฟังเรื่อยๆเหมือนเด็กๆที่เขาเรียนรู้การพูดโดยธรรมชาติ เราก็จะออกเสียงได้เป็นอัตโนมัติค่ะ

[กิจกรรมบำบัดจิตสังคม]

แวะมาฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยคนครับ ขอให้พี่โอ๋ พี่เล็ก และสามหนุ่มมีความสุขมากๆนะครับ รักและคิดถึงเสมอ

[kunrapee]

ขอบคุณค่ะ