ทัศนศึกษา..เรียนรู้อย่างไม่ประมาท


ปัจจุบันกิจกรรมทัศนศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในทุกโรงเรียน ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติระบุให้ทุกโรงเรียนต้องนำเด็กนักเรียนไปเรียนรู้ยังแหล่งเรียนรู้ต่างๆนอกสถานศึกษา อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง จึงพบว่า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วทั้งประเทศไทย ในช่วงเปิดภาคเรียน จะมีนักเรียนเนืองแน่นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

โดยทั่วไปไม่นิยมจัดทัศนศึกษาในช่วงปิดภาค เมษายน ทั้งที่จริงแล้วก็จัดได้ แต่อาจเนื่องจากครูมีภารกิจ และเด็กบางชั้นต้องเตรียมตัวไปสอบเรียนต่อ ที่สำคัญ อากาศร้อนมาก จึงไม่น่าท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ใดๆ ทั้งสิ้น

จริงๆแล้ว ทัศนศึกษา นอกสถานที่ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่แปลกใจที่กระทรวงศึกษาธิการพยายามออกมาตรการต่างๆนานา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด จำได้ว่าเมื่อตอนอยู่ชั้นประถมฯ ตั้งแต่ป๑ ถึง ป.๗ ครูพาไปเที่ยวที่ไกลๆ รวม ๒ ครั้ง แต่ละครั้งดีใจและตื่นเต้นมาก ก่อนจะออกเดินทาง ครูซักซ้อมเตรียมการอยู่หลายวัน เราเตรียมตัวสนุก แต่ครูดูเป็นกังวลและสีหน้าหนักใจตลอด

พอมาเป็นครูจึงรู้ วันที่นำเด็กไปทัศนศึกษาวันเดียว หนักหนาสาหัส และเหนื่อยกว่าสอนหนังสือไปทั้งอาทิตย์ เพราะต้องคอยดูแลตลอดเส้นทาง ต้องหูไวตาไว เกาะติดสถานการณ์ตลอดเวลา

วันนี้ มาเป็นผู้บริหารโรงเรียนขนาดเล็ก เด็ก ๕๐ คน แม้เด็กไม่มากนัก แต่ครูก็น้อยตามจำนวน พยายามบอกครูเสมอว่า ช่วยกันดูแลเด็กด้วยนะ ดูแลให้ใกล้ชิด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นครูประจำชั้น หรือไม่ได้เป็นเจ้าของโครงการทัศนศึกษา ก็ต้องกำชับเด็กให้ดี  ให้มีระเบียบวินัยในการเที่ยวชม ห้ามปรามเด็กไม่ให้ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย พูดจาให้สุภาพเรียบร้อย สถานที่ที่ไป เป็นที่สาธารณะ คนมาก การทำอะไรไม่ถูกต้องดีงาม นอกจากจะเสียชื่อโรงเรียนแล้ว อาจเสียหายไปถึงต้นสังกัดด้วย

พอลงจากรถทุกครั้ง ต้องเตือนให้นักเรียนตั้งแถว ไม่ให้วิ่งกรูกันเข้าไป แล้วให้นับจำนวนทันที ว่าลงจากรถกี่คน ครบหรือไม่ จากนั้นก็เตือนเรื่องสิ่งของที่ลงจากรถ หรือวางลืมอยู่บนรถหรือเปล่า ผมมักจะบอกให้รุ่นพี่ช่วยครูดูน้องๆ ด้วย ไปเที่ยวชมจุดไหน ไปพร้อมๆกัน เดินเป็นกลุ่ม อย่าแยกไปเดี่ยวๆตามลำพัง หากจะต้องแยกย้ายกันไปบ้าง ก็ต้องมีคนคุมและทราบจำนวนที่แน่นอน ขณะที่อยู่ในบรรยากาศของการเรียนรู้นั้น อาจต้องมีการประสานกันตลอด โดยเฉพาะจุดนัดพบหรือ จุดต่อไป...การใช้เวลาเที่ยวชม... รวมทั้งต้องรอคอยกันบ้าง เพราะนักเรียนบางคนต้องเข้าห้องน้ำ

ผมจะให้คณะครูเดินไปกับนักเรียนอย่างใกล้ชิด ส่วนผมตั้งหลัก ในจุดที่มองเห็นง่าย เพื่อกำกับเด็กไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง หรือเดินแตกกลุ่มแตกแถว จากนั้นจะคอยบอกเปลี่ยนสถานที่ที่ต้องไปเรียนรู้ต่อไป โดยให้นับจำนวนก่อนว่าครบไหม จึงจะให้ออกเดิน หรือขึ้นรถ

ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง..นักเรียนโรงเรียนเล็ก เด็กส่วนใหญ่มาจากครอบครัวยากจน แต่วันที่ไปทัศนศึกษา จะดูไม่ยากจนเลย นักเรียนแต่ละคน พกเงินแบบลืมความพอเพียง และก็มีความพยายาม ที่จะถลุงเงินให้หมดในพริบตา ประเภทซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมพบบ่อยจึงต้องเตือน ครูบางคนก็บอกผมว่า...ให้เด็กมีความสุขในการจับจ่ายซื้อของบางเถอะ ผมก็บอกว่า มองกันคนละมุมแล้ว

ผมมองว่า ของที่ขายริมถนน และตามสถานที่ท่องเที่ยว บางครั้งอาจจะสกปรก ทำให้ปวดท้องได้ และของที่จำหน่ายทั้งของกินของใช้ก็ดูจะแพงเกิน อยากให้นักเรียนดูให้ดีๆ บางครั้งไปหลายที่ ก็ต้องคำนวณเงินให้ดี ไม่ใช่ซื้อคราวเดียวหมดเกลี้ยง หรือบางครั้งถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อตามเพื่อน ซื้อแล้วอิ่มแล้ว ก็ควรจะพอเพียงด้วย

ผมคิดเสมอว่า ลูกเขาลูกเราสำคัญเหมือนกัน ลูกชาวบ้านยิ่งสำคัญกว่า ตรงที่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ที่เป็นเรื่องเสียหาย หรือสูญเสีย อาจทำให้ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความดี ที่เราสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต ต้องมาพังในวันเดียว คือวันที่ไปทัศนศึกษา..มันก็คงไม่คุ้ม พาให้องค์กรล่มสลายไปด้วย ผู้ปกครองก็คงไม่เชื่อมั่นไม่ศรัทธาครู  ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ดีกว่า จึงบอกครูว่า เรายอมเหนื่อยกันเถอะ ยอมหิว ยอมเสียเวลา เด็กอยู่ตรงไหน เราอยู่ตรงนั้น เด็กกินข้าวกล่อง เราก็กินได้ ...แค่วันเดียว..กิจกรรมผ่านไปด้วยดี..ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จ

ทัศนศึกษาจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  ทุกปี..จะต้องจัดการเรียนรู้อย่างไม่ประมาท..กระบวนการที่เราตระหนักอย่างห่วงใยและรอบคอบ เชื่อว่า เด็กเขารู้เขาเข้าใจ พอเขาเติบโตขึ้น เขาจะเข้าใจดียิ่งขึ้น และไม่ลืมว่าครูห่วงเขาอย่างไร และเขาควรจะนำไปใช้อย่างไรในชีวิตประจำวัน

 

 


 

หมายเลขบันทึก: 532147เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2013 20:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2013 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ต้องจัดกิจกรรมนี้ทุกปี  

พอมาเป็นครูจึงรู้ วันที่นำเด็กไปทัศนศึกษาวันเดียว หนักหนาสาหัส และเหนื่อยกว่าสอนหนังสือไปทั้งอาทิตย์ 

เห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ  ท่าน ผอ.

ชอบๆแนวคิดท่าน ผอ.ชลัญมีเพื่อนเป็นครู เคยร่วมไปทัศนศึกษากับเด็กๆ โอ๊ยเหนื่อยชะมัด  ไอ้เรากะได้เที่ยว เปล่าเลย ต้องวิ่งดูแลเด็กๆ ที่พอลงรถทีก็เหมือนกับมดแตกรังเลย เหนื่อยมั๊กมาก

เข้าใจอาจารย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ เคยดูแลนักเรียนประจำด้วย เวลาพาไปทัศนศึกษา พวกเขาสนุก เราเครียดค่ะ ความรับผิดชอบสูงมากๆ แต่ก็มีความสุขนะคะเพราะทำด้วยใจ

ความรับผิดชอบ การดูแลเอาใจใส่เด็กๆมีมากกว่าปกติหลายเท่าค่ะ

เอาใจช่วยให้ผ่านไปด้วยดีค่ะ

น่าสนุก แต่คงเหนื่อยน่าดูเลยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท