...
ปลายปีก่อนฉันได้รับข้อความบอกกล่าวถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เขาล้มทั้งยืนหลังจากออกจากห้องประชุมที่เคร่งเครียด ด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมอง เขาถูกนำส่งโรงพยาบาล เพื่อนร่วมงานมากมายผลัดกันไปเยี่ยมเยียนเขาที่โรงพยาบาลเพื่อให้กำลังใจเขาและครอบครัว
หลังจากการผ่าตัด ปรากฏว่าร่างกายซีกขวาของเขาไม่ทำงาน จากคนที่กระฉับกระเฉง ทำงานหนักโดยไม่เคยคิดถึงความสบายส่วนตัว งานมาก่อนเสมอสำหรับเขา จากคนที่เป็นหัวหน้าทีม เป็นที่นึกถึงของทุกคนที่ทำงาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นพึ่งของทุกคนในบ้าน เขากลับต้องมานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงขยับเขื้อนไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้
โปรเจคล่าสุดที่เราทำด้วยกัน ฉันรู้ว่าเขาทุ่มเทให้ทีมงานมากกว่าร้อย หากไม่มีเขา ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเราจะนำโปรเจคให้ปิดตัวลงด้วยความสำเร็จแบบนี้ไหม ฉันแอบร้องไห้ทุกครั้งที่ไปเห็นเขาในสภาพนั้น
ทุกครั้งที่ไปยืนข้างเตียง ฉันพยายามคุยกับเขา จับมือเขา ให้ความหวัง ให้กำลังใจเขา บ่อยครั้งที่ฉันมองเห็นสายตาแห่งความหงุดหงิด สับสน ทดท้อ ของเขา บ่อยครั้งที่เขาโวยวายจนเราต่างไม่กล้าไปเยี่ยมเขาตามลำพังอีก เราจะนัดกันไปเป็นกลุ่มทุกครั้ง
จนกระทั่งเขาออกจากโรงพยาบาล ไปพักฟื้นและทำกายภาพบำบัดอยู่ที่บ้าน เราได้รับคำบอกเล่าว่าที่จริงแล้วเขาจำอะไรไม่ได้เลย ห้วงหนึ่งในความคิดฉันรู้สึกว่าการที่เขาจำอะไรไม่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจเจ็บปวดมากกว่านี้ก็เป็นได้ที่ตอนนี้เขาต้องเริ่มหัดทุกอย่างใหม่หมด เริ่มหัดพูด หัดเดิน หัดอ่าน หัดเขียน หัดจำ
ร่างกายเขาดูแข็งแรงขึ้น แต่ภายในแล้วฉันก็ไม่อาจรู้เลยว่าเขารู้สึกเลวร้ายแค่ไหน เพราะเขายังถ่ายทอดความรู้สึกจริงๆ ไม่ได้ นอกจากบางครั้งภาษากายและสายตาที่ดูเหมือนว่าเขาจะยิ้ม บางครั้งดูว่าเขาหงุดหงิด
เราต่างไปเยี่ยมเขาที่บ้านประมาณเดือนละสองครั้ง เราต้องแนะนำตัวกันทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเพราะเขายังจำเราไม่ได้ นอกจากคนในครอบครัวเขามีคนรับใช้คอยดูแลอีกหนึ่งคน แต่ทว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีลูกน้องที่สนิทกันมากสองสามคนที่แวะเวียนไปช่วยเหลือครอบครัวและเยี่ยมเยียนเขาแทบทุกวัน วันก่อนฉันไปเจอลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่บ้าน เราทักทายกันตามปกติ ฉันถามลูกน้องเขาว่า "มาบ่อยๆ แบบนี้เขาจำคุณได้ไหม?" ลูกน้องของเขาส่ายหัว แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร แค่เราจำเขาได้...ก็พอแล้ว"
นั่นสินะ... ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว
ในเมืองที่ผลสำรวจชี้ชัดว่าคนในเมืองนี้ไร้อารมณ์ความรู้สึก ฉันกลับมองเห็นความรัก ความห่วงใย ความผูกพัน โดยไม่มีเงื่อนไขระหว่างเพื่อนแทรกตัวอยู่
ฉันหักพวงมาลัยรถเข้าจอดที่ไหล่ทางของทางด่วน ปล่อยให้น้ำตาแห่งความซาบซึ้งตื้นตันในสิ่งที่ได้ยินหลั่งไหล เพื่อลดแรงกดดันในใจ ก่อนขับรถกลับบ้าน...
DreamCatcher - The Secret Garden
ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว
งดงามทุกครั้งที่ได้อ่าน
..
เป็นกำลังใจให้นะครับ คุณปริม
ความงดงามในใจคนนั้น...วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน..ไม่สามารถเปลี่ยนความทรงจำดี ดี ได้เลยครับ
แวะมามอบดอกไม้กำลังใจ เป็นกำลังใจให้นะคะ
* เป็นความมีน้ำใจของเพื่อนแท้แม้ในยามที่เพื่อนมีสภาพเช่นนี้...ชื่นชมค่ะ...
* ช่างแตกต่างกันเหลือเกินกับบางคนที่ทำเป็นลืมความเป็นเพื่อน และไมตรีจิตที่เคยมีต่อกันมา...โดยไม่รู้สาเหตุ...ได้แต่ปลงและปล่อยวางค่ะ
ตื้นตันใจมากครับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริง ๆ ....พี่ชาย
มาให้กำลังใจค่ะ
งดงามในคุณค่าของความเป็นเพื่อนนะคะ ขอบคุณค่ะคุณปริม
อ่านด้วยความซาบซึ้งใจค่ะ
ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว
ประโยคนี้ดีจังค่ะน้องปริม
สวัสดีค่ะคุณปริม
สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี
ขอบคุณดอกไม้งามๆ ให้เพื่อนๆ เจ้าของเรื่องราวนะคะ
ความงดงามของจิตใจ ที่มองหาจึงมองเห็นค่ะ
มีความสุขในวันเสาร์นะคะ
สวัสดีค่ะคุณครูอิงจันทร์
ขอบคุณกำลังใจให้เพื่อนๆ ของปริมนะคะ
คุณครูมีความสุขในวันหยุดพักผ่อนนะคะ
สวัสดียามบ่ายๆ วันเสาร์ค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณพี่ใหญ่ด้วยนะคะ กับความคิดของคนอื่นที่เราไม่อาจล่วงรู้ สิ่งที่เราทำได้คือทำใจให้เบาสบายค่ะ
มีความสุขในวันพักผ่อนนะคะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์พี่ชาย ชยพร,
อาจารย์อบอุ่นจังค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณ tuknarak,
กำลังใจที่มีให้ หวังว่าคงจะทำให้ทุกคนเข้มแข็งขึ้นค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอธิรัมภา
การมีเพื่อนที่ดีถือเป็นโชคดีนะคะ แต่การได้เป็นเพื่อนที่ดีของใครสักคนน่าจะดีไม่น้อยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ณัฐรดา
ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาให้กำลังใจค่ะ
สุข สงบ ในวันนี้นะคะ
สวัสดีค่ะพี่หมอเล็ก
เขาจะอยู่ในความทรงจำของเพื่อนๆ ตลอดไปค่ะ แต่ปริมหวังอยากให้เขาหายจริงๆ ค่ะ จะได้ชวนเขาไปเที่ยวที่เชียงใหม่ดังที่เคยคุยกันไว้
มีความสุขในวันสงบนะคะพี่หมอ
สวัสดีค่ะคุณยาย
ขอบคุณมากค่ะที่คุณยายมาเยี่ยมเยียน ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเจ้านายของคุณยายค่ะ ท่านจากไปโดยไม่ทรมานมากค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้วค่ะ ตอนนี้เพื่อนเขาพ้นจากสภาพการเป็นพนักงานบริษัทและทำการรักษาตัวอยู่ที่บ้านค่ะ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเราจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นค่ะ ครั้งล่าสุดเขาสามารถเดินโดยการใช้ที่ช่วยเดินได้ เรารู้สึกดีจังค่ะ หวังว่าการทำกายภาพบำบัดต่างๆ จะช่วยให้เขาพูดได้อีกที เดินเหินได้สะดวกขึ้น ร่างกายซีกขวาทำงานได้มากขึ้น และความจำดีขึ้นค่ะ
คุณยายรักษาสุขภาพนะคะ
ระลึกถึงเช่นกันค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เพื่อนๆ เจ้าของบันทึกนี้นะคะ
หวังว่าความรัก ความห่วงใย ของคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง จะช่วยให้คนดีดีอย่างเขาทรมานร่างกายและจิตใจน้อยที่สุดค่ะ
สุขสันต์บ่ายวันเสาร์นะคะทุกท่าน
มีคนเคยบอกว่า...
น้ำตานั้นมีไว้เพื่อช่วยลดความทุกข์ท้อ ช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไป
และ... เมื่ออ่านบันทึกนี้...
น้ำตาก็เกิดจากความอิ่มเอมใจ เมื่อสัมผัสถึง ความงดงาม/อบอุ่นของเพื่อนมนุษย์
"ไม่เป็นไร แค่เราจำเขาได้...ก็พอแล้ว"
เข้ามาอ่านสามครั้ง...ให้ดอกไม้ก่อนนะครับ...แล้วจะมาคุยนะครับ...
อ่านอย่างซาบซึ้ง พยายามเข้าระบบค่ะ ก็มาชื่นชมลูกน้อง น้ำใจ รักคนรอบข้างยังมีต่อกันนะคะ น้องปริมสบายดีน้อ.. ปี๋ใหม่เมืองบ้านเฮามาแอ่วก่อเจ้า...สระเกล้าดำหัวคนเฒ่าบ้านเฮา..
คุณปริมครับ...ผมกลับมาอ่านอีกรอบที่สี่...
จำได้ว่า...ครั้งแรก...อยากเขียนทั้งที่และมากมายแต่ยังในใจ
ครั้งสอง...อยากเขียนแต่พอฟังเพลงนี้แล้ว...เสียงไวโอลินบาดใจ...ออกจากบันทึกอย่างเงียบๆ
ครั้งสาม...ให้ดอกไม้...กะจะลงมือเขียน...แต่ต้องไปทำธุระข้างนอก
ครั้งที่สี่..ครั้งนี้...อ่านช้าๆ แต่จุกในอก...ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว
คงจะกลับมาอ่านอีกหลายรอบครับ...
แม้จะดูบทสุดท้ายแสนเศร้า....แต่ก็ให้ชีวิตได้เรียนรู้ครับ...ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณหยั่งราก ฝากใบ
ปกติก็อ่อนไหวอยู่ค่ะ พอมาเจอกับคนคุ้นเคยเลยขี้แยไปเลย....อิอิอิ
ขอบคุณมากค่ะที่มาทักทาย
สุขสบายวันอาทิตย์นะคะ ;)
สวัสดีค่ะคุณหมอ อดิเรก,
ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมเยียนหลายรอบเลย ปริมตั้งใจจะเขียนบันทึกถึงเพื่อนคนนี้มานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แต่เขียนไม่ได้ มีความรู้สึกมากมายแต่เขียนไม่ออกค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าๆ จึงเขียนได้
เป็นกำลังใจให้เขาและครอบครัวค่ะ
สวัสดีเจ้าพี่ครูตูม
ปีใหม่เมืองปีนี้บ่อได้ปิ๊กบ้านเจ้า เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากัน
พี่ครูเล่นน้ำเผื่อตวยเน้อเจ้า ขอบคุณเจ้า...
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอมอบดอกชมนาดให้ค่ะ :)
มอบดอกไม้ให้ สิ่งที่ดีงาม บางครั้งก็ซ่อนความเจ็บปวดหลังม่านน้ำตา...
มาเป็นกำลังใจให้ ค่ะ
สวัสดียามบ่ายค่ะคุณหนูรี
ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ จะส่งต่อให้เจ้าของบันทึกนะคะ
มีความสุขในบ่ายวันร้อนค่ะ
ขอบคุณดอกไม้สวยๆ จากคุณพิชัยค่ะ
สุขสันต์วันหยุดพักผ่อนนะคะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ปณิธิ
ขอบคุณคุณครูทิพย์สำหรับกำลังใจค่ะ หวังว่าเขาจะรับรู้ได้ ว่ามีคนห่วงใย ด้วยไมตรี
สุขสันต์วันอาทิตย์นะคะ
สวัสดีค่ะคุณปริม...งานคงเยอะคุณปริมสบายดีนะคะ
บันทึกน่าอ่านทั้งนั้น(อ่านไม่ทัน)ขอค่อยๆอ่านตามหลังนะคะ
...ยามยาก ยามเจ็บ(ป่วย)มุมดีที่ตรงข้ามคือการได้พบเจอมิตรแท้และกำลังใจที่ออกมาจากใจจริงค่ะ..
...แม้จะจำอดีตไม่ได้แต่เชื่อว่าเรื่องราวดีๆของตัวเองที่รับรู้โดยการสื่อผ่านจากคนที่รักในครอบครัวและกำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน จะเป็นปัจจุบันและอนาคตที่น่าอยู่ของผู้ป่วย(หลังยอมรับความจริงจากสิ่งที่เป็นอยู่ได้แล้ว)...
...ขอบคุณค่ะ...
สวัสดีค่ะคุณน้อย
ดีใจจังค่ะคุณน้อยกลับมาอีกครั้ง ปริมเองก็ไปๆ มาๆ เช่นกันค่ะ ทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันก็แบบนี้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
มีความสุขในค่ำคืนแห่งการพักผ่อนนะคะ
ระลึกถึงค่ะ
ซาบซึ้งในประโยค "แค่เราจำเขาได้ก็พอแล้ว"
ความหมายชัดเจนตามนั้น อดีต อนาคตจะอย่างไรแต่ปัจจุบันเรายังจำเขาได้ ถือว่าโชคดีค่ะ
คิดถึงค่ะ คุณปริม
สวัสดีค่ะครูนก
มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่เกิดจากการยอมรับในสิ่งที่เราเผชิญอยู่นะคะ
ขอบคุณดอกไม้สีขาวสดใสค่ะ ปริมจะแวะไปอ่านบันทึกของครูนกบ้างค่ะ ;)
ราตรีสวัสดิ์นะคะ