แค่เราจำเขาได้...ก็พอแล้ว



...

ปลายปีก่อนฉันได้รับข้อความบอกกล่าวถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เขาล้มทั้งยืนหลังจากออกจากห้องประชุมที่เคร่งเครียด ด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมอง เขาถูกนำส่งโรงพยาบาล เพื่อนร่วมงานมากมายผลัดกันไปเยี่ยมเยียนเขาที่โรงพยาบาลเพื่อให้กำลังใจเขาและครอบครัว

หลังจากการผ่าตัด ปรากฏว่าร่างกายซีกขวาของเขาไม่ทำงาน จากคนที่กระฉับกระเฉง ทำงานหนักโดยไม่เคยคิดถึงความสบายส่วนตัว งานมาก่อนเสมอสำหรับเขา จากคนที่เป็นหัวหน้าทีม เป็นที่นึกถึงของทุกคนที่ทำงาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นพึ่งของทุกคนในบ้าน เขากลับต้องมานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงขยับเขื้อนไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้

โปรเจคล่าสุดที่เราทำด้วยกัน ฉันรู้ว่าเขาทุ่มเทให้ทีมงานมากกว่าร้อย หากไม่มีเขา ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเราจะนำโปรเจคให้ปิดตัวลงด้วยความสำเร็จแบบนี้ไหม ฉันแอบร้องไห้ทุกครั้งที่ไปเห็นเขาในสภาพนั้น

ทุกครั้งที่ไปยืนข้างเตียง ฉันพยายามคุยกับเขา จับมือเขา ให้ความหวัง ให้กำลังใจเขา บ่อยครั้งที่ฉันมองเห็นสายตาแห่งความหงุดหงิด สับสน ทดท้อ ของเขา บ่อยครั้งที่เขาโวยวายจนเราต่างไม่กล้าไปเยี่ยมเขาตามลำพังอีก เราจะนัดกันไปเป็นกลุ่มทุกครั้ง

จนกระทั่งเขาออกจากโรงพยาบาล ไปพักฟื้นและทำกายภาพบำบัดอยู่ที่บ้าน เราได้รับคำบอกเล่าว่าที่จริงแล้วเขาจำอะไรไม่ได้เลย ห้วงหนึ่งในความคิดฉันรู้สึกว่าการที่เขาจำอะไรไม่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจเจ็บปวดมากกว่านี้ก็เป็นได้ที่ตอนนี้เขาต้องเริ่มหัดทุกอย่างใหม่หมด เริ่มหัดพูด หัดเดิน หัดอ่าน หัดเขียน หัดจำ 

ร่างกายเขาดูแข็งแรงขึ้น แต่ภายในแล้วฉันก็ไม่อาจรู้เลยว่าเขารู้สึกเลวร้ายแค่ไหน เพราะเขายังถ่ายทอดความรู้สึกจริงๆ ไม่ได้ นอกจากบางครั้งภาษากายและสายตาที่ดูเหมือนว่าเขาจะยิ้ม บางครั้งดูว่าเขาหงุดหงิด

เราต่างไปเยี่ยมเขาที่บ้านประมาณเดือนละสองครั้ง เราต้องแนะนำตัวกันทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเพราะเขายังจำเราไม่ได้ นอกจากคนในครอบครัวเขามีคนรับใช้คอยดูแลอีกหนึ่งคน แต่ทว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีลูกน้องที่สนิทกันมากสองสามคนที่แวะเวียนไปช่วยเหลือครอบครัวและเยี่ยมเยียนเขาแทบทุกวัน วันก่อนฉันไปเจอลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่บ้าน เราทักทายกันตามปกติ ฉันถามลูกน้องเขาว่า "มาบ่อยๆ แบบนี้เขาจำคุณได้ไหม?" ลูกน้องของเขาส่ายหัว แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร แค่เราจำเขาได้...ก็พอแล้ว"

นั่นสินะ... ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว

ในเมืองที่ผลสำรวจชี้ชัดว่าคนในเมืองนี้ไร้อารมณ์ความรู้สึก ฉันกลับมองเห็นความรัก ความห่วงใย ความผูกพัน โดยไม่มีเงื่อนไขระหว่างเพื่อนแทรกตัวอยู่

ฉันหักพวงมาลัยรถเข้าจอดที่ไหล่ทางของทางด่วน ปล่อยให้น้ำตาแห่งความซาบซึ้งตื้นตันในสิ่งที่ได้ยินหลั่งไหล เพื่อลดแรงกดดันในใจ ก่อนขับรถกลับบ้าน...


DreamCatcher - The Secret Garden 

หมายเลขบันทึก: 532116เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2013 12:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2013 13:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)

ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว

งดงามทุกครั้งที่ได้อ่าน

..

เป็นกำลังใจให้นะครับ คุณปริม

ความงดงามในใจคนนั้น...วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน..ไม่สามารถเปลี่ยนความทรงจำดี ดี ได้เลยครับ


แวะมามอบดอกไม้กำลังใจ เป็นกำลังใจให้นะคะ

* เป็นความมีน้ำใจของเพื่อนแท้แม้ในยามที่เพื่อนมีสภาพเช่นนี้...ชื่นชมค่ะ...

* ช่างแตกต่างกันเหลือเกินกับบางคนที่ทำเป็นลืมความเป็นเพื่อน และไมตรีจิตที่เคยมีต่อกันมา...โดยไม่รู้สาเหตุ...ได้แต่ปลงและปล่อยวางค่ะ

ตื้นตันใจมากครับ

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริง ๆ ....พี่ชาย

งดงามในคุณค่าของความเป็นเพื่อนนะคะ  ขอบคุณค่ะคุณปริม

อ่านด้วยความซาบซึ้งใจค่ะ

ไม่ว่าเขาจะจำเราได้รึเปล่าก็ไม่เห็นเป็นไร แค่เราจำเขาได้ว่าเขาสำคัญกับเราแค่ไหน ก็พอแล้ว


ประโยคนี้ดีจังค่ะน้องปริม

สวัสดีค่ะคุณปริม

  • อ่านไป น้ำตาไหลไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบนะที่เพื่อนคุณปริมยังมชีวิตอยู่ แตเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้เกิดขึ้นกับท่านผู้อำนวยการคนก่อนของคุณยายค่ะ ท่านเป็นคนที่แข็งแรงมาก อายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ Family man ตัวจริง ขยันทำงาน ฉลาดปราดเปรื่อง เป็นที่รักใคร่ของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน ใครมีปัญหาปรึกษาได้ทุกเรื่อง คุณยายสนิทกับท่านมากเพราะลูกเป็นเพื่อนกัน วาระสุดท้ายของชีวิตท่านเข้าประชุมงบประมาณระดับจังหวัด มีการถกเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากประชุมเสร็จท่านบอกคนขับรถว่า " วันนี้หมอไม่คุยนะ เหนื่อย " คนขับรถก็รีบนำท่านกลับมาที่โรงพยาบาล แล้วท่านก็ฟุบอยู่ที่ห้องทำงานด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ท่านไม่สามารถสื่อสารกับพวกเราได้อีก ช่วงเวลา 5 วันที่ท่านนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น พวกเราไม่เป็นอันทำงาน ผลัดกันมาเยี่ยมท่านโดยใช้รถตู้สองคันและรถส่วนตัวไป-กลับวันละ 2 รอบ สุดท้านท่านก็จากพวกเราไปอย่างสงบโดยไม่ได้กล่าวคำลา งานสุดท้ายที่ท่านให้คุณยายทำคือ ซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ท่านยังไม่ได้เซ็นต์อนุมัติค่ะ  4 ปีผ่านไปพวกเรายังจดจำทุกอิริยาบท ทุกคำพูดของท่านได้ดี ความเครียด คือ ภัยร้าย ที่พรากคนดีๆจากพวกเราไปค่ะ
  • ขอบคุณทุกๆความดีที่คนในโลกนี้มีให้กันค่ะ
  • คิดถึงคุณปริมนะคะ

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

ขอบคุณดอกไม้งามๆ ให้เพื่อนๆ เจ้าของเรื่องราวนะคะ

ความงดงามของจิตใจ ที่มองหาจึงมองเห็นค่ะ

มีความสุขในวันเสาร์นะคะ


สวัสดีค่ะคุณครูอิงจันทร์

ขอบคุณกำลังใจให้เพื่อนๆ ของปริมนะคะ 

คุณครูมีความสุขในวันหยุดพักผ่อนนะคะ

สวัสดียามบ่ายๆ วันเสาร์ค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณพี่ใหญ่ด้วยนะคะ กับความคิดของคนอื่นที่เราไม่อาจล่วงรู้ สิ่งที่เราทำได้คือทำใจให้เบาสบายค่ะ

มีความสุขในวันพักผ่อนนะคะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์พี่ชาย ชยพร,

อาจารย์อบอุ่นจังค่ะ

ขอบคุณมากค่ะคุณ tuknarak,

กำลังใจที่มีให้ หวังว่าคงจะทำให้ทุกคนเข้มแข็งขึ้นค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอธิรัมภา

การมีเพื่อนที่ดีถือเป็นโชคดีนะคะ แต่การได้เป็นเพื่อนที่ดีของใครสักคนน่าจะดีไม่น้อยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ณัฐรดา

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาให้กำลังใจค่ะ

สุข สงบ ในวันนี้นะคะ


สวัสดีค่ะพี่หมอเล็ก

เขาจะอยู่ในความทรงจำของเพื่อนๆ ตลอดไปค่ะ แต่ปริมหวังอยากให้เขาหายจริงๆ ค่ะ จะได้ชวนเขาไปเที่ยวที่เชียงใหม่ดังที่เคยคุยกันไว้

มีความสุขในวันสงบนะคะพี่หมอ

สวัสดีค่ะคุณยาย 

ขอบคุณมากค่ะที่คุณยายมาเยี่ยมเยียน ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเจ้านายของคุณยายค่ะ ท่านจากไปโดยไม่ทรมานมากค่ะ 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้วค่ะ ตอนนี้เพื่อนเขาพ้นจากสภาพการเป็นพนักงานบริษัทและทำการรักษาตัวอยู่ที่บ้านค่ะ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมเราจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นค่ะ ครั้งล่าสุดเขาสามารถเดินโดยการใช้ที่ช่วยเดินได้ เรารู้สึกดีจังค่ะ หวังว่าการทำกายภาพบำบัดต่างๆ จะช่วยให้เขาพูดได้อีกที เดินเหินได้สะดวกขึ้น ร่างกายซีกขวาทำงานได้มากขึ้น และความจำดีขึ้นค่ะ

คุณยายรักษาสุขภาพนะคะ

ระลึกถึงเช่นกันค่ะ

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เพื่อนๆ เจ้าของบันทึกนี้นะคะ

หวังว่าความรัก ความห่วงใย ของคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง จะช่วยให้คนดีดีอย่างเขาทรมานร่างกายและจิตใจน้อยที่สุดค่ะ

สุขสันต์บ่ายวันเสาร์นะคะทุกท่าน

มีคนเคยบอกว่า...

น้ำตานั้นมีไว้เพื่อช่วยลดความทุกข์ท้อ ช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไป

และ... เมื่ออ่านบันทึกนี้...

น้ำตาก็เกิดจากความอิ่มเอมใจ เมื่อสัมผัสถึง ความงดงาม/อบอุ่นของเพื่อนมนุษย์

"ไม่เป็นไร แค่เราจำเขาได้...ก็พอแล้ว"

เข้ามาอ่านสามครั้ง...ให้ดอกไม้ก่อนนะครับ...แล้วจะมาคุยนะครับ...

อ่านอย่างซาบซึ้ง พยายามเข้าระบบค่ะ ก็มาชื่นชมลูกน้อง น้ำใจ รักคนรอบข้างยังมีต่อกันนะคะ น้องปริมสบายดีน้อ.. ปี๋ใหม่เมืองบ้านเฮามาแอ่วก่อเจ้า...สระเกล้าดำหัวคนเฒ่าบ้านเฮา..

คุณปริมครับ...ผมกลับมาอ่านอีกรอบที่สี่...

จำได้ว่า...ครั้งแรก...อยากเขียนทั้งที่และมากมายแต่ยังในใจ

ครั้งสอง...อยากเขียนแต่พอฟังเพลงนี้แล้ว...เสียงไวโอลินบาดใจ...ออกจากบันทึกอย่างเงียบๆ

ครั้งสาม...ให้ดอกไม้...กะจะลงมือเขียน...แต่ต้องไปทำธุระข้างนอก

ครั้งที่สี่..ครั้งนี้...อ่านช้าๆ แต่จุกในอก...ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว

คงจะกลับมาอ่านอีกหลายรอบครับ...

แม้จะดูบทสุดท้ายแสนเศร้า....แต่ก็ให้ชีวิตได้เรียนรู้ครับ...ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณหยั่งราก ฝากใบ

ปกติก็อ่อนไหวอยู่ค่ะ พอมาเจอกับคนคุ้นเคยเลยขี้แยไปเลย....อิอิอิ

ขอบคุณมากค่ะที่มาทักทาย 

สุขสบายวันอาทิตย์นะคะ ;)

สวัสดีค่ะคุณหมอ อดิเรก,

ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมเยียนหลายรอบเลย ปริมตั้งใจจะเขียนบันทึกถึงเพื่อนคนนี้มานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แต่เขียนไม่ได้ มีความรู้สึกมากมายแต่เขียนไม่ออกค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าๆ จึงเขียนได้

เป็นกำลังใจให้เขาและครอบครัวค่ะ

สวัสดีเจ้าพี่ครูตูม

ปีใหม่เมืองปีนี้บ่อได้ปิ๊กบ้านเจ้า เอาไว้ปีหน้าค่อยว่ากัน 

พี่ครูเล่นน้ำเผื่อตวยเน้อเจ้า ขอบคุณเจ้า...

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 


ขอมอบดอกชมนาดให้ค่ะ :)


มอบดอกไม้ให้ สิ่งที่ดีงาม บางครั้งก็ซ่อนความเจ็บปวดหลังม่านน้ำตา...

  • ในห้วงเหวแห่งบอบช้ำ  
  • บางทีการจำอาจเจ็บกว่า
  • ลืมบ้างบางเวลา 
  • ทิ้งระยะประคับประคอง 
  • ให้เรือชีวิตเคลื่อน 
  • ตามปีเดือนสายธารล่อง 
  • ทิ้งหลังไม่เหลียวมอง 
  • มุ่งเดินหน้าอย่างท้าทาย....
  • ขอบคุณงานเขียนอันงดงาม
  • ด้วยความระลึกถึง 
  • ปณิธิ ภูศรีเทศ

        มาเป็นกำลังใจให้  ค่ะ

สวัสดียามบ่ายค่ะคุณหนูรี

ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ จะส่งต่อให้เจ้าของบันทึกนะคะ

มีความสุขในบ่ายวันร้อนค่ะ

ขอบคุณดอกไม้สวยๆ จากคุณพิชัยค่ะ

สุขสันต์วันหยุดพักผ่อนนะคะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ปณิธิ

  • ในห้วงเหวแห่งบอบช้ำ  
  • บางทีการจำอาจเจ็บกว่า
  • ลืมบ้างบางเวลา 
  • ทิ้งระยะประคับประคอง 
ขอบคุณบทกวีอันงดงามค่ะ อยากให้เขาได้รับรู้ถึงความงดงามนี้จังค่ะ
สุขสันต์บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์นะคะ

ขอบคุณคุณครูทิพย์สำหรับกำลังใจค่ะ หวังว่าเขาจะรับรู้ได้ ว่ามีคนห่วงใย ด้วยไมตรี

สุขสันต์วันอาทิตย์นะคะ

สวัสดีค่ะคุณปริม...งานคงเยอะคุณปริมสบายดีนะคะ

บันทึกน่าอ่านทั้งนั้น(อ่านไม่ทัน)ขอค่อยๆอ่านตามหลังนะคะ

...ยามยาก ยามเจ็บ(ป่วย)มุมดีที่ตรงข้ามคือการได้พบเจอมิตรแท้และกำลังใจที่ออกมาจากใจจริงค่ะ..

...แม้จะจำอดีตไม่ได้แต่เชื่อว่าเรื่องราวดีๆของตัวเองที่รับรู้โดยการสื่อผ่านจากคนที่รักในครอบครัวและกำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน จะเป็นปัจจุบันและอนาคตที่น่าอยู่ของผู้ป่วย(หลังยอมรับความจริงจากสิ่งที่เป็นอยู่ได้แล้ว)...

...ขอบคุณค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณน้อย

ดีใจจังค่ะคุณน้อยกลับมาอีกครั้ง ปริมเองก็ไปๆ มาๆ เช่นกันค่ะ ทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันก็แบบนี้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ 

มีความสุขในค่ำคืนแห่งการพักผ่อนนะคะ

ระลึกถึงค่ะ

ซาบซึ้งในประโยค "แค่เราจำเขาได้ก็พอแล้ว"
ความหมายชัดเจนตามนั้น อดีต อนาคตจะอย่างไรแต่ปัจจุบันเรายังจำเขาได้ ถือว่าโชคดีค่ะ
คิดถึงค่ะ คุณปริม


สวัสดีค่ะครูนก

มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่เกิดจากการยอมรับในสิ่งที่เราเผชิญอยู่นะคะ

ขอบคุณดอกไม้สีขาวสดใสค่ะ ปริมจะแวะไปอ่านบันทึกของครูนกบ้างค่ะ ;)

ราตรีสวัสดิ์นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท