บุญนั้นสำเร็จที่ใจ (3)
การกินมังสะวิรัตหรือเจ
ผมเคยเห็นผู้เฒ่าผู้หนึ่งเคร่งในการกินเจมาก บางครั้งก็ออกอาการดูถูกพระสงฆ์ว่าปฏิบัติไม่ได้เท่าตน โดยรู้เท่าไม่ถึงการว่าพระสงฆ์นั้นไม่อยู่ในวิสัยที่จะเลือกอาหาร และลองคิดดูเล่นๆขำๆถึงดาวลูกไก่ทั้งเจ็ด กระโดดเข้ากองไฟเพราะหวังตายตามแม่ไก่และเป็นการถวายอาหารพระอาริยะสงฆ์องค์หนี่ง ถ้าหากว่าเมื่อตายายถวายอาหารแล้วได้คำตอบจากพระอาริยะสงฆ์องค์นั้นว่า “ไม่ได้หรอก อาตมาทานมังสะวิรัต” ลูกไก่แม่ไก่ตายฟรี
ผมมีความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าการกินมังสะวิรัตหรือเจสำหรับผู้ที่ทำใจไม่ได้กับการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตว่า เป็นการกระทำที่ดีเลิศประเสริฐศรี แต่ถ้าเรามาคิดถึงปุถุชนอย่างเราๆท่านๆที่ยังตัดกิเลศในการทานเนื้อสัตว์ไม่ได้ เราๆท่านๆที่ยังต้องดิ้นรนกับการทำมาหากินเกินกว่าจะมาสรรหาอาหารมังสะวิรัตหรือเจทุกๆมื้อ เราๆท่านๆจะปฏิบัตอย่างไร
ผมได้คิดเห็นว่าในชีวิตประจำวันของเรานี้มีสรรพสัตว์ที่ทำบุญไว้มากมาย บางครั้งบุญนั้นทำเพื่อเราโดยตรง แต่บุญเหล่านั้นไม่มีใครเห็นคุณค่า ไม่มีใครอนุโมทนาในบุญนั้นๆ เช่นสรรพสัตวทั้งหลายที่ร่างกายเป็นอาหารกับผู้อื่น สรรพสัตวทั้งหลายที่ร่างกายเป็นอาหารกับตัวเราเอง เราควรจะเห็นคุณค่า เราควรจะเห็นในความดีของสรรพสัตวทั้งหลายเหล่านั้นใหม เราควรจะอนุโมทนาในบุญนั้นๆใหม
ผมทุกครั้งที่ทานอาหาร ผมจะคิดง่ายๆสั้นๆอย่างรวดเร็วว่า “ขอสรรพสัตวทั้งหลาย ที่ร่างกายเป็นอาหารแก่ข้าพเจ้าในวันนี้ จงได้ไปเกิดในที่ๆอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ มีชีวิตที่เป็นสุขและปลอดภัย” และทุกครั้งที่ผมไปตลาดสด ผมจะมองไปที่สรรพสัตว์ที่ร่างกายเป็นอาหารแก่ผู้อื่นภาวนาในใจด้วยประโยคนี้เช่นกัน
บุญนั้นสำเร็จที่ใจตอนต่อๆไป จะนำท่านไปสู่การทำบุญที่ยิ่งใหญ่และมีอยู่ในธรรมชาติและชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องอาศัย “เงิน”
ขอบคุณมากครับ และจะติตามเช่นกัน