ยิ่งเรียนรู้...ก็รู้ว่าตัวเองยังรู้น้อย


มันเป็นเพียงความรู้สึก  ที่ได้เรียนรู้ทุกครั้งแล้วพบว่า  ตัวเองยังรู้น้อยต้อยต่ำเสียเหลือเกิน


ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้นำพาตัวเองเข้าสู่การเรียนรู้  ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนา  การประชุมเชิงวิชาการ  ความรู้สึกว่า  ตนเองรู้น้อยต้อยต่ำนี้มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจ  ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาตนเองบ้าง


บางครั้งบางคราวความรู้สึกนี้ก็สามารถลบเลือนออกไปได้  แต่หลายๆครั้งมันลบไม่ได้  จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหนทางแห่งการเรียนรู้นี้  ไปแสวงหาช่องทางการเรียนรู้อื่น  ที่เหมาะสมกับตัวเอง  และพยายามไม่ให้ความรู้สึกนี้มารังควาญอีก


แต่ยิ่งหนีเท่าไร  ความรู้สึกนี้ก็ติดตามมาเหมือนเป็นเงา  ครูอ้อยไม่มีความรู้ที่จะเขียนมาในทางธรรมะ  เพียงแต่เล่าอย่างพื้นๆว่า  การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ด้วยความรู้สึกว่าตนเองต้อยต่ำ


เท่าที่ผ่านมาจวบจนอายุครึ่งร้อยแล้ว  พบกับตัวเอง  ยกตัวอย่างตัวเอง  ก็จะมีกูรูมาบอกว่าอัตตาสูงอีก  เปล่าเลยหากใครมารู้จักครูอ้อย แซ่เฮ ดีดีแล้ว  ไม่ได้เป็นคนขี้คุยเลย  เพียงแต่ได้เล่าได้เขียนเรื่องราวที่เป็นความจริง  พิสูจน์ได้ตลอดมา


ความต้อยต่ำนี้  พยายามที่จะปกปิดเท่าไรก็ไม่พ้น  เพราะเราเข้ามาอยู่กับการเรียนรู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ดังนั้น  เราต้องเรียนรู้เสมอ  เรียนไปทุกเรื่อง  ดังเรื่องหนึ่งที่จะเล่า  ในระยะนี้ครูอ้อยป่วยแขนขวายังใช้การไม่ได้ดี  ครูอ้อยได้เรียนรู้จากกอาารป่วยมามากมาย  เวลานั่งแท็กซี่  ครูอ้อยจะเตรียมเงินให้พอดีกับราคาที่เขาตั้งมาเป็นเลขคี่  และคนขับแท็กซี่บางคนจะมีเงินทอน  แต่หลายๆคนจะเฉยเมยและไม่ทอนเลย  กลับกลายเป็นหน้าที่ของผู้โดยสารที่จะต้องเตรียมเงินให้พอดี


การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นมาในระดับหนึ่งเป็นอย่างนี้  แต่เมื่อครูอ้อยเล่าให้พ่อบ้านฟัง  เขาคิดกันคนละอย่าง  ครูอ้อยเกิดการเรียนรู้มาอีกมุมหนึ่งว่า  แท็กซี่เขาหาเงินได้ยาก  เงินทอนเพียงเล็กน้อยไม่ต้องไปรอจากเขา  ให้เขาไปเป็นเหมือนทิปที่เขาขับรถไปส่งเราโดยปลอดภัย


พ่อบ้านเสนอแนะว่า  ให้ลองทำดู  วันต่อมาครูอ้อยไม่เตรียมเงินพอดี  ครูอ้อยส่งธนบัตร 100ให้เขา  ราคา 87บาท  เขากลับทอนให้ครูอ้อย 20บาท  ครูอ้อยบอกเขาว่า  ไม่ต้องทอนหรอกค่ะ  เขาประณมมือไหว้  และอวยพรให้ครูอ้อยหายดีเร็วๆ  และสุขภาพแข็งแรง  ครูอ้อยรู้สึกดีมีพลังขึ้นมาทันที


เมื่อกลับมาถึงบ้าน  ครูอ้อยเล่าให้พ่อบ้านฟัง  ก่อนเล่าครูอ้อยเกริ่นประโยคนำก่อนว่า......แ่ม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำของพ่อวันนี้  มีความสุขมาก....แล้วเรื่องต่อไป  พ่อบ้านบอกกับครูอ้อยว่า  ...ในสังคมนี้ต้องการคนแบบนี้มากๆๆ


การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  หากเราไม่ได้หนีความจริง  ค้นคว้าความจริงที่ถูกต้องเหมาะสม  ก็จะเกิดการเรียนรู้ที่มีค่า  นั่นคือสิ่่งที่ดีที่เราทำต่อจากการเรียนรู้  ไม่ได้อ่านหรือเขียนเฉยๆ  แต่ไม่ได้ปฎิบัติอะไรเลย  มันก็ไม่เกิดผลอะไรที่เป็นประโยชน์


จากเรื่องนี้  ทำให้ครูอ้อย  รู้สึกว่า  ยิ่งเรียนรู้....ก็รู้ตัวเองว่ารู้น้อย

หมายเลขบันทึก: 531047เขียนเมื่อ 23 มีนาคม 2013 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 15:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นี่เป็นการเข้าใจสัจจธรรมอย่างหนึ่งแล้วว่า ทุกอย่างเป็นไปตามหลักไตรลักษณ์อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้ว 

อาริโย อาริโย อาริโย

หัวข้อบันทึกถูกใจมากค่ะครูอ้อย เห็นด้วยที่สุด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท