ฮิสโตแกรม มีไว้ทำไม?
ฮิสโตแกรมมีหน้าที่แสดงระดับความเข้มแสงต่างๆ
ที่มีอยู่ในภาพหนึ่งภาพใด เป็นการแสดงความถี่ของค่าระดับความเข้มแสงด้วยการนับจำนวนพิกเซลที่มีระดับความเข้มเหมือนกัน
เรียงค่าแสดงไปตั้งแต่ระดับที่ 0 คือ มืดสุด ไปเรื่อยๆ
จนถึงระดับที่ 255 คือ สว่างบริสุทธิ์ ถือเป็นคุณสมบัติของภาพนั้นเลยก็ว่าได้
ปกติเราจะพิจารณารูปร่างการกระจายตัวของความเข้มแสงในภาพ เพื่อกำหนดว่าภาพนั้นควรจะได้รับการปรับปรุงคุณภาพหรือไม่
ลองพิจารณาภาพด้านล่างนี้
จากภาพ แสดงภาพเทา (Gray image) กับฮิสโตแกรมของภาพ
จะเห็นว่าภาพมีการกระจายตัวของฮิสโตแกรมไปทางด้านมืดหรือความสว่างด้านต่ำ หากเราลองปรับค่าความเข้มแสงแล้วดูการกระจายตัวของฮิสโตแกรม
แสดงดังรูปด้านล่างต่อมา
เห็นได้ว่าฮิสโตแกรมของภาพที่ผ่านการปรับค่าความเข้มแสงแล้ว มีการกระจายตัวมากขึ้นนั่นเอง
การสร้างฮิสโตแกรมของภาพสี (Color Histogram)
โดยทั่วไปทำได้ 2 ลักษณะ คือ การสร้างฮิสโตแกรมแบบแยกองค์ประกอบ และการสร้างฮิสโตแกรมสีแบบรวมองค์ประกอบ (1)
1. การสร้างฮิสโตแกรมแบบแยกองค์ประกอบ โดยจะแสดงฮิสโตแกรมจากแบบจำลองสี RGB คือแยกแสดงให้เห็นในแต่ละสีกันไปเลย ช่วงค่าที่ได้ของปริภูมิ RGB: R [0, 255] - G [0, 255] - B [0, 255] แสดงตัวอย่างดังนี้
2. การสร้างฮิสโตแกรมแบบรวมองค์ประกอบ การแสดงฮิสโตแกรมแบบนี้เราจะต้องเปลี่ยนปริภูมิสีเดิมคือ RGB ไปเป็นปริภูมิอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ปริภูมิที่นิยมอย่าง HSI (hue, saturation, and intensity) หรือ HSV(hue,saturation, and value) ช่วงค่าที่ได้ของปริภูมิ HSV: H [0, 360] - S [0.0, 1.0] - V [0.0, 1.0]; และ HSI: H [0, 360] - S [0.0, 1.0] - I [0.0, 1.0]; การแสดงฮิสโตแกรมสามารถที่จะแสดงตามความต้องการว่าเลือกที่จะแสดงกี่ถังสี (color bin) แสดงตัวอย่างดังภาพด้านล่างนี้
จากภาพผมแสดงสีของภาพให้เห็นเพียง 8 ถังสี โดยใส่สีขาวและสีดำเพิ่มเข้ามาแสดงด้วย จากฮิสโตแกรมเห็นได้ว่าสีขาวในภาพมีน้อยมาก และจะมีสีแดงเป็นสีที่มีความถี่มากที่สุดครับ
อ้างอิง
(1) อรฉัตร จิตต์โสภักตร์ (2552) , "Digital Image Processing", สงวนกิจ พริ้นท์ แอนด์ มีเดีย, กรุงเทพฯ
มาเรียนรู้...ขอบคุณมากค่ะ...
ยินดีครับ และขอบคุณทุกความคิดเห็น กำลังใจ