แนวทางซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม

คำแนะนำดีๆ......ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม สิ่งสำคัญคือกำลังใจ

จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ หลายๆ ครอบครัว หลายๆ จังหวะชีวิตคงได้รับความเสียหายนานาประการ ซึ่งสิ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกน้ำท่วมอย่างแน่นอนก็คือ ที่อยู่อาศัย นั่นเอง และเมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไป เราจะเก็บกวาด ซ่อมแซมบ้านของเราอย่างไรดี
มาลองดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่จะช่วยเป็นแนวทางให้คุณซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม
ให้กลับมาดูใหม่อีกครั้ง ดังนี้

* การซ่อมพื้นบ้าน - พื้นไม้ปาร์เก้ หรือพื้นพรม

* การซ่อมแซมผนังบ้าน – ผนังไม้ ผนังอิฐฉาบปูน หรือผนังยิปซั่มบอร์ด

* การซ่อมแซมฝ้า เพดานบ้าน – ฝ้ายิปซั่มบอร์ ฝ้าโลหะ หรือฝ้าไม้

* การซ่อมแซมประตู – ประตูไม้ หรือประตูเหล็ก

* การซ่อมแซม บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ - ซ่อมได้หรือต้องเปลี่ยนใหม่

* การตรวจสอบระบบประปา – น้ำท่วมถังเก็บน้ำใต้ดินหรือไม่ ระบบปั้มน้ำยังใช้งานดีหรือไม่

* การซ่อมแซมรั้วบ้าน – เรื่องเล็กๆ ที่ห้ามลืม

* การทาสีบ้านใหม่ – ทำให้บ้านกลับมาดูสดใสเหมือนเดิม

การซ่อมแซมพื้นบ้าน

หลังน้ำท่วม ถ้าพื้นบ้านไม่เสียหาย แค่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ก็สามารถใช้ได้ดังเดิม แต่ถ้าเสียหาย มีวิธีแก้ไขพื้นบ้าน ดังนี้

หากพื้นบ้านเป็นพื้นไม้ปาร์เก้ แผ่นปาร์เก้จะหลุดล่อนง่ายเมื่อโดนน้ำท่วม เพราะติดกับพื้นคอนกรีตด้วยกาว ดังนั้น วิธีแก้ก็คือ ถ้าแผ่นปาร์เก้ไม่เสียหายมากก็ผึ่งลมให้แห้งก่อน รวมถึงพื้นคอนกรีตด้วย แล้วจึงทาด้วยกาวลาเท็กซ์ หนา 1-2 มิลลิเมตร และค่อย ๆ กดลงไปที่เดิมให้แน่น ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วันจึงใช้งานได้ ถ้าเสียหายมากจะเปลี่ยนใหม่ต้องใช้ไม้ชนิดเดียว กับของเดิม
หากพื้นบ้านเป็นพื้นพรม ต้องลอกพรมออก แล้วนำไปซักและตากแดดให้แห้งสนิทแล้วจึงนำ กลับมาปูใหม่ แต่ต้องทำให้พื้นคอนกรีตแห้งก่อนเช่นเดียวกัน

การซ่อมแซมผนังบ้าน

ถ้าเป็นผนังไม้ ให้เช็ดทำความสะอาดก่อน เพื่อให้ความชื้นในพื้นผิวไม้ระบายได้ง่ายขึ้น เมื่อแห้งดีแล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชะโลมที่ผิว หรือทาสีต่อไป วิธีที่ดีควรทาสีด้านในบ้านก่อน ทิ้งไว้ 5-6 เดือน จึงทาสีด้านนอก
ถ้าเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน ก็ใช้วิธีเดียวกับผนังไม้ แต่ระยะเวลาในการปล่อยให้ความชื้นระเหยออก จากผนังจะใช้ระยะเวลานานกว่า เพราะมีความหนามากกว่า
ถ้าเป็นผนังยิบซั่มบอร์ด ก็เลาะเอาแผ่นที่เสียออก ถ้าโครงเคร่าเป็นโลหะ ก็สามารถติดแผ่นใหม่ได้เลย แต่ถ้าโครงเคร่าเป็นไม้ต้องทิ้งไว้ให้ความชื้นในไม้ ระเหยหมดก่อนจึงจะติดแผ่นใหม่ได้

การซ่อมแซมฝ้าเพดานบ้าน

ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ด หรือกระดาษอัด หากเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำควรเลาะออกแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทจริง ๆ แล้วจึงทาสีทับ
ถ้าเป็นฝ้าโลหะให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิมก็ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีทับเข้า ไปใหม่ สำหรับระบบสายไฟ ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินไว้บนฝ้า เวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูว่าความเรียบร้อยว่ามีส่วนใดชำรุดหรือ เปล่า
ถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับก่อนการติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่

การซ่อมแซมประตู

หากเป็นประตูไม้ เมื่อถูกแช่น้ำก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้โดย ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมากก็ควรจะเปลี่ยนใหม่เลย
หากเป็นประตูเหล็กที่ขึ้นสนิมก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยทาสีกันสนิมก่อนแต่อย่าลืมดูรอยต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็กว่ามีน้ำหลงเหลืออยู่เหลือเปล่า ต้องให้แห้งจริง ๆ ก่อนจึงจะทาสีได้

การซ่อมแซม บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ

เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำยาหล่อลื่นชะโลมตามจุดรอยต่อและรูต่าง ๆ ให้ทั่ว
ข้อระวัง: อย่าใช้จาระบี หรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้จะทำให้ฝังอยู่ข้างใน และจะเป็นปัญหาในภายหลัง
ถ้ายังใช้การไม่ได้ ก็ลองทำตามวิธีข้างต้นนี้หลาย ๆ ครั้ง ถ้ายังมีปัญหา ก็ควรจะต้องถอดออก แล้วซื้อมาเปลี่ยนใหม่

การตรวจสอบระบบประปา

หากเป็นถังเก็บน้ำใต้ดิน ต้องตรวจดูว่าน้ำท่วมถังหรือเปล่า ถ้าท่วมควรล้างภายในถังทั้งหมด
ปั๊มน้ำ ต้องตรวจดูว่าเครื่องทำงานผิดปกติหรือเปล่า แรงดันน้ำลดหรือไม่ ถังอัดลมเก็บแรงอัดไว้ได้นานหรือเปล่า แต่ถ้าน้ำท่วมปั๊ม ต้องรอให้แห้งเสียก่อนอย่าใช้งานทันที ถ้ามีปัญหาควรตามช่างมาแก้ไขจะดีกว่า เพราะอาจจะทำให้ไฟไหม้ได้

การซ่อมแซมรั้วบ้าน

ลองเล็งด้วยสายตา ถ้ารั้วบ้านเอียงเล็กน้อยก็นำไม้มาค้ำยันไว้ก่อน ถ้าเอียงมากก็ควร ตามช่างมาซ่อม
ส่วนใหญ่ข้างล่างของรั้วจะมีคานคอดินอยู่ บางครั้งน้ำจะพัดเอาดินใต้คานนี้หายไปเป็นโพรง ต้องรีบนำดินมาถมให้แข็งแรง มิฉะนั้นดินในบ้านจะไหลออกไปข้างนอกหมด ถ้าไหลออกไปมาก ๆ อาจทำให้บ้านเอียงได้
ควรตรวจประตูรั้วด้วย สำหรับประตูรั้วที่เป็นเหล็กก็ขูดสนิมออกให้หมดแล้วทาสีใหม่ ส่วนบานพับก็หาน้ำมันหล่อลื่นมาหยอดเพื่อที่จะได้เปิด-ปิดได้สะดวก ถ้าเสียหายมากก็ควรเรียกช่างมาเปลี่ยนใหม่

การทาสีบ้าน

การทาสีบ้านหลังน้ำท่วม ควรจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย ควรที่จะซ่อมแซมส่วนอื่น ๆ เสียก่อน เพื่อปล่อยให้แห้งสนิทก่อน
แล้วจึงทำการแก้ไข เพราะสีทุกชนิดที่ใช้ทาบ้าน เมื่อโดนน้ำท่วมนาน ๆ ก็จะเกิดการลอกและล่อนออกมาได้เนื่องจากความชื้นของน้ำ วิธีแก้ไขคือ ต้องขูดสีเดิมที่ลอกและล่อนออก ทำความสะอาดผนังให้เรียบร้อย ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท ถ้าทำได้ควรจะทิ้งไว้ประมาณ 3-6 เดือนเลยยิ่งดี เมื่อแห้งแล้วจึงทาสีรองพื้นชนิดกันเชื้อรา แล้วจึงทาทับด้วยสีจริงอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก "ร้อยพันปัญหาในงานก่อสร้าง" http://www.aacp.co.th

เขียนใน GotoKnow โดย raacha
ใน Health Care Notes

คำสำคัญ (Tags):

หมายเลขบันทึก: 529358เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2011 19:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม 2012 17:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (14)

นันทิตา

เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2011 09:54 น. ()

ดีคะ ได้เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเยอะเลย และประหยัดดีด้วย ไม่อย่างนั้นคงต้องเสียสตางค์เยอะในการซ่อมแซมบ้านให้กลับคืนเดิม แต่ที่ลืมไม่ได้คือน้องปลวกคะ ภัยแบบซุ่มเงียบ แต่ถ้ามาแล้วจัดหนักเลย