เครื่องมีลักษณะพิเศษดังนี้
- เครื่องทำงานโดยดูดอากาศจากภายนอกแล้วกลั่น กรองเอาเฉพาะส่วนที่เป็นออกซิเจนออกมาให้ผู้ป่วย
- ใช้เพียงกระแสไฟฟ้าในบ้านเครื่องก็ทำงานได้
-
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายติดตัวไปกับผู้ป่วยได้สะดวกเวลาเดินทาง ควรเปลี่ยนมาใช้แท็งก์ออกซิเจนขนาดเล็กหรือขนาดจิ๋วแทน
วิธีใช้ 1. ต่อกระป๋องน้ำและสายนำแก๊สออกซิเจนเข้ากับตัว เครื่อง ดังรูป 2. เสียบปลั๊กและเปิดสวิชเครื่อง 3. หมุนปุ่มโฟลมิเตอร์เพื่อเปิดอัตราไหลของออกซิเจน ตามที่เด็กต้องการ 4. ต่อสายนำแก๊สออกซิเจนกับผู้ป่วย
การทำความสะอาด
1. เช็ดทำความสะอาดเครื่องผลิตออกซิเจนด้วยผ้าชุบน้ำ บิดพอหมาด 2. ห้ามใช้สเปรย์ หรือขี้ผึ้งขัดเงา เช็ดเครื่อง 3. ควรล้างตัวกรอง ( ชนิดหยาบ ) ด้วยน้ำก๊อกสัปดาห์ละครั้ง แล้วเช็ดหรือซับด้วยผ้าแห้ง แล้วจึงนำกลับมาใส่ที่เครื่องตามเดิม
4.ถ้าตัวกรอง ( ชนิดละเอียด ) ที่อยู่ใต้ตัวกรอง ( ชนิด หยาบ ) ดูสกปรกหรือดำควรเปลี่ยนใหม่ 5. ควรถอดกระป๋องน้ำทำความชื้นออกเพื่อทำความสะอาดทุกวัน โดยล้างด้วยน้ำสบู่แล้วเช็ดให้แห้งเติมน้ำต้มสุกที่กรองแล้วให้ถึงขีดที่กำหนดแล้วจึงต่อเข้ากับเครื่องเมื่อจะใช้กับผู้ป่วย
ปัญหาและแนวทางการแก้ไข
1. ถ้าเครื่องผลิตออกซิเจนไม่ทำงานควร - เช็คปลั๊ก - เช็คฟิวส์หรือวงจรเบรคเกอร์ของเครื่อง ( ถ้ามี )
2. ถ้าไม่มีออกซิเจนผ่านออกมาควร - สังเกตว่าสายท่อออกซิเจนมีการหักพับ ,อุดตัน หรือหลุดจากข้อต่อหรือไม่ - เช็คดูว่าตัวไส้กรองตันเพราะฝุ่นเกาะหนาหรือไม่
3. โทรศัพท์แจ้งบริษัทที่ผลิต / จำหน่ายเครื่องถ้าไม่ สามารถแก้ปัญหาได้
เพื่อความปลอดภัย 1.ห้ามจุดไฟ หรือตั้งเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำความร้อนหรือติดไฟในระยะห่างจากตัวเด็กในรัศมี6- 8 ฟุต 2. ตัวเครื่องผลิตออกซิเจนควรอยู่ห่างจากจุดกำเนิดไฟ อย่างน้อย 5 ฟุตขึ้นไป 3. ห้ามสูบบุหรี่ในห้องที่มีการใช้ออกซิเจนอยู่ 4. ติดป้าย “ ห้ามสูบบุหรี่ ” ในห้องที่ผู้ป่วยอยู่ 5. ห้ามใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดใด ๆ กับอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับออกซิเจน 6. ควรเสียบปลั๊กของเครื่องผลิตออกซิเจนแยกออกต่างหาก โดยไม่เสียบปลั๊กรวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ และถ้าเป็นไปได้ควรใช้ปลั๊กแบบ 3 ขา ที่มีสายดิน 7. ห้ามต่อสายนำแก๊สออกซิเจนเพิ่มขึ้นจากปกติ 8. คอยเปลี่ยนและรักษาไส้กรองของเครื่องผลิตออกซิเจนให้สะอาดอยู่เสมอ
ที่มา http://www.thaipedlung.org/mustknow_2008Mar_10.php
|