สิ่งที่สนใจ หรือชอบ

     วันนี้กลับมาถึงตอนเย็นได้งีบไปนิดนึง ตื่นมาตอนนี้ก็เลยนอนไม่หลับ ลองทบทวนดูซิว่าสิ่งที่สนใจ หรือชอบจริง ๆ มีอะไรบ้าง ลองดูนะยังไม่เอาจริง (ไม่ได้เรียงตามลำดับความสำคัญ..)

          อ่านหนังสือทุกชนิด ทุกประเภท (โดยเฉพาะที่ไม่ต้องซื้อ จะรีบ ๆ อ่านก่อน ที่ซื้อมาเองเลยไม่ค่อยได้อ่าน ฮา... หวงด้วยมั่ง กลัวหนังสือยับ) เว้นแต่การ์ตูนไม่ชอบอ่าน เพราะต้องเปิดมากกว่าก่อน

          เขียนบันทึกที่นึกอยากเขียน (ไม่ใช่บันทึกแบบตื่นเช้าอาบน้ำ กาแฟ แล้วไปทำงาน ฯลฯ) แต่เป็นเรื่องที่สนใจ หรือเรื่องที่ get หรือย่อเรื่องที่อ่าน เมื่อก่อนลงสมุด--> ตอนนี้ลง blog (เพิ่งเจอโดยการ search พบโดยบังเอิญเมื่อ 2 เดือนกว่า ๆ มานี้)

          ความเป็นวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเคมีและฟิสิกส์ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่คิดว่าง่ายที่สุด เข้าใจแล้วไม่ต้องจำอะไรมาก จึงสนใจต่อไปยังคอมพิวเตอร์ ยาวไปถึงสถิติและการวิจัยและที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยทุกเรื่อง ที่ไม่รู้ก็จะได้รู้ไปด้วย จึงหาเรื่องและได้รับมอบหมายให้เดินเรื่อง “ไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน” จาก นพ.สสจ.

          การเสวนาฯ กับคนทุกวัย เช่น กับลูกสาวก็คุยกันสนุก ตอนเช้าวันไหนไปส่งเองก็โม้กันไปตลอดทาง ตัวอย่าง ขึ้นเครื่องบินใส่รองเท้าฟองน้ำได้ไหม ลูกสาวผมถาม ก็เห็นพ่อไม่เคยใส่ หรือเด็กขึ้นได้ไหม (จริง ๆ เขารู้เพราะดูจากทีวี แต่ที่ถามเพราะมีนัยยะบางอย่าง) หรือถ้าวัยรุ่นก็อย่างที่ทำอยู่กับชุมชนเกาะเรียน หรือชุมชนหนองธง คนสูงอายุก็ที่ปากพะยูน และบางแก้ว เป็นตัวอย่าง

         

          การทำแผนยุทธศาสตร์ การบริหารเชิงกลยุทธ์ (แต่ตัวขอเป็นนักวิชาการไปตลอด) ได้ทดลองนำความรู้มาปฏิบัติครั้งแรกที่บ้างแก้ว แต่ล้มเหลว (ได้บทเรียน) ทำใหม่ที่กลุ่มงานประกันสุขภาพ เรียบร้อยดีมาก นำมาใช้อยู่ตลอด และกำลังเริ่มต้นกระบวนการที่เขาชัยสน ในฐานะพี่เลี้ยง ยังไม่ทราบผลว่าจะออกมาอย่างไร (ทายยาก)

          การเข้าถึงในทุกเรื่องของคนชายขอบ เพราะผมเป็นคนชายขอบตัวจริง จึงได้ชอบแนวคิดความเป็นธรรมฯ เมื่อเป็นนักสาธารณสุข ก็เลยนำไปสู่การชอบที่จะทำงานเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชน และการใช้หลักเศรษศาสตร์สาธารณสุขมาเป็นเครื่องมือ และก็ได้ทำจริง ๆ อยู่ในปัจจุบัน แต่นับวันแพทย์ พยาบาลกระแสหลักจะมองหน้าแปลก ๆ ขึ้นทุกที (ว่าไปเรื่อย...)

          การทำงานชุมชน ประวัติศาสตร์ชุมชน โยงถึงประวัติศาสตร์ทั่วไป --> ชุมชนเป็นตำราที่ไม่ต้องกางอ่าน เรียนรู้ได้เลย ส่วนประวัติศาสตร์นี้เป็นตำรา/ข้อมูลอย่างดีที่จะอธิบายปัจจุบัน และทำนายอนาคตได้ อันนี้พ่อจะคอยย้ำเตือนเสมอในฐานะคนนอก (ชาวบ้านคนนึงที่มองเข้ามาในระบบราชการ)

          การสอน หรือการเป็นวิทยากร โดยเฉพาะวิทยากรที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ไม่ใช่การบรรยาย แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องบรรยายเหมือนกัน (คนเชิญบังคับ) เทอมหน้ามีสอนทุกวันศุกร์ แล้ววิทยากรเดือนหน้าเริ่มเต็ม เดือนนี้เว้น 5 วัน งานประจำเลยต้องมาทำเอาตอนเย็น ถึง เย็น ๆ และค่ำ หรือไม่ก็ขนกลับบ้าน (ฮา...)

          และสนใจกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ขาดไม่ได้เลย (ไมเกรนถามหาทันที)

     แต่ที่ทำทั้งหมดพบว่าทำให้เราได้เรียนรู้ทั้งนั้น ในทุกรูปแบบ จึงสนุก