เมื่อพยาบาลบ้านนอกเข้ากรุง ตอนที่ 2 (ลิฟท์ค้าง)


เมื่อพยาบาลบ้านนอกเข้ากรุง  ตอนที่ 2 (ลิฟท์ค้าง)

  หลังจากพบผู้ใหญ่ใจดีเสร็จ เราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรที่จะเดินทางไปที่เมืองทองธานี  เพราะเพื่อนนั้นได้จองที่พักไว้เรียบร้อย ไม่น่ายาก  แต่ก็มาคิดกันว่า ยากตรงจะไปหาที่พักว่ามันอยู่ส่วนไหนของเมืองทองนี่ เมื่อไปถึงเป็นไปตามที่คาดไว้ เป๊ะ  งง ครับ  โอ๊ย !!!! กรุงเทพอะไรมันจะวุ่นวายป่านนี้ รถก็มาก คนก็มาก  อยู่กันแออัด  ชลัญไม่รู้ว่าส่วนที่ไปนี่เรียกว่าอะไร  เขาบอกว่าอยู่โซน C5  หมออธิ ขับรถวนไปเรื่อยๆ  ชลัญก็มองหา มันอยู่ตรงไหนนี่  วนเกือบ ชั่วโมง  โทรหา เจ้าของ แล้ว ก็งงอยู่ดี  ขับรถวนไปมา เจอล่ะ C4 C5  หาที่จอดรถดีว่า  หายากมาก ชลัญว่ามันเป็นโชว์รูมขนาดใหญ่ทีเดียว  มีรถทุกยี่ห้อทุกรุ่น  ให้ดูจอดเรียงรายเต็มไปหมด  เมื่อได้ที่จอดรถเราก็ ยืนงง ๆว่า รถข้ามันจะอยู่ดีมีสุขมั๊ยอ่ะคืนนี้ 

  จากนั้น 2 บ้านนอกก็ เดินหา สถานที่ติดต่อที่พัก  โดยการโทรศัพท์คุยไปด้วยกับเจ้าของที่พัก  เอ้าเจอล่ะ เป็นห้องเล็กๆ  ดูเจ้าหน้าตาแบบไร้ความรู้สึก จนชลัญคิดในใจว่า คนกรุงเทพนี่ไม่ค่อยมีเวลายิ้มจนลืมการยิ้มไปแล้วกระมัง  นั่งคุยกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในการเข้าพัก  ชลัญไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเขาเลย  ทั้งที่ชลัญนั่งยิ้มแฉ่ง ตลอดเวลา  แปลกมาก 

  เมื่อตรวจสอบการพักแล้ว  เพื่อนจองไว้  2 ห้อง  ๆละ 600 บาท /คืน  โอนเงินไปให้  แล้ว 1800 บาท  ชลัญต้องจ่างเพิ่ม  3000 บาท  และเขาขอค่าประกันกุญแจ ห้องละ 300 บาท  สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ชลัญจ่ายค่าที่พักไป 5400 บาท  และก็ถึงเวลาไปที่ห้องพัก  ทางเข้าลึกลับมาก  คนอยู่กันยั้วเยื้อ  เหมือนเต็มไปหมด  ตึกเก่า  มาก ชลัญได้พักชั้น 12 เดินไปตามแผนที่ที่เจ้าของบอก ไปเจอลิฟท์ เก่าๆ  2ตัว  ตัวหนึ่งติดไว้ว่าเสีย  อีกตัว ไม่ได้ติดป้ายบอก  แสดงว่าน่าจะใช้ได้  ในใจก็คิดว่า คนจองนี่เขาได้ดูสถานที่มั๊ยนี่ ว่ามันน่ากลัวมั๊กมาก  ตัดสินใจกดลิฟท์เปิดออกมา เทื่อเราเข้าไปลิฟท์ปิด  แล้วก็นิ่งเฉย ไม่ขยับเขยื้อน  เปิดก็ไม่ได้ ไปไหนไม่ไป  หรือมันเคลื่อนแล้วเราไม่รู้ก็ไม่รู้เหมือนกัน  เริ่มมองหน้ากับหมอ อธิคม  เอาไงดี น่าจะค้าง ตัดสินใจหยิบมือถือออกมาโทรหา เจ้าของ เพื่อขอความช่วยเหลือ  ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณมือถือในลิฟท์  ซวยแล่ว ชลัญเอ๊ย 

  หมออธิคมคุมสติได้ดีกว่า  พยายามกดที่ลิฟท์ ทุกชั้น   ไม่เป็นผล เปิดไม่ได้  ขยับไม่ได้ กดสัญญาณขอความช่วยเหลือ ก็ไม่เป็นผล  เราติดอยู่ในนั้นประมาณ 10 นาที  แต่มันนานมากในความรู้สึก  สุดท้ายลองใช้รูปร่างของเราให้เป็นประโยชน์ เขย่า ลิฟท์  อ้อ ตอบสนองล่ะลิฟท์ เคลื่อนขึ้นไปแต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะขยับไปถึงไหน  สุดท้ายจอดที่  ชั้น 12 เรารีบออกมาจากลิฟท์  ชลัญขาสั่นเลย  มองไปที่ห้องที่จะเข้าพัก  โอ๊ย... เขาล๊อคประตู 2  ทั้งประตูเหล็กประตูไม้  หลายชั้นจริง  หมออธิคมเอ่ยถาม พี่โจ้แน่ใจหรือว่าจะพักที่นี่  ชลัญบอก  ไม่ กลับลงไปตั้งหลักก่อน  เราตัดสินใจเดินลงจากตึก 12 ชั้น พร้อมข้าวของพะรุงพะรัง  พลางคิดในใจโอ๊ย บ้านนอกได้ก็ไม่อยู่ลำบากป่านนี้หรอกเด้อ ขอบอก 

  กับลงมานั่งพัก บริเวณลาน ด้านหน้ามีผู้คนเต็มไปหมด  เราเริ่มโทร.หาเจ้าของที่พัก ต่อรองขอคืนเงินสักห้องก็ได้ เราไม่พักแล้ว  เจ้าของบอกไม่ได้  คุณจองแล้วก็ต้องจ่ายเงิน ถึงจะพักไม่พัก ชลัญคิดใจในถ้าบ้านนอกชลัญนะ แฟร์ ๆ ไม่พอใจยินดีคืนเงิน  แต่นี่ไม่ใช่  ไม่เป็นไรไม่คืนก็ไม่คืนว่ะ  นั่งปรึกษากันกับแพทย์ อธิคม  เอาไงดี   สรุปสุดท้ายเราไปพักที่ โนโวเทล  โทร.สอบถามเหลือว่าอยู่ ห้อง  OK ห้องเดียวก็ได้  ชลัญ เหนื่อยมาก  คงไม่หน้ามืดปล้ำหมอแน่  55 คิดได้ดังนั้นก็ขับรถไปโนโวเทล  อย่างนี้ซิสมกับเป็น กทม.สวรรค์บนดินหน่อย  พอเข้าพัก ชลัญตัดสินใจ ขอจองต่อเป็น 4 คืน ๆละ 26XX เป็นไร เป็นแต่บ้านนอก แต่มีกะตังค์ นอนมันโนโวเทลนี่แหล่ะวุ้ย  แต่เหลว  เต็มครับได้คืนเดียว  ถูกจองเรียบ  จึงตัดสินใจโทร.หาพี่อุ้มบุญ ( กัลยาณมิตร GTK ) พี่อุ้มบอกพักที่ 13 เหรียญ  ชลัญก็เลยตัดสินใจ จองที่พักที่ 13 เหรียญเพื่อรอพี่อุ้ม  ขณะที่เขียนบันทึกพี่อุ้มยังมาไม่ถึง  แต่ชลัญเข้ามานอนตีพุงรออยู่แล้ว  ที่นี่ ห้องพัก 9XX บาท เป็นโรงแรมขนาด 3 ดาว ก็ OK  ดีกว่า คอนโดในเมืองทอง เป็น 10 เท่า เป็นบ้านนอกได้ก็ขออยู่สบายหน่อยเถอะ

  ให้กลับมานึกว่า  เป็นความผิดของชลัญจริงที่  ให้โจทย์คนจองไม่ชัด คือ บอกว่าให้อยู่ใกล้เมือง ทอง  ตอนแรกจะจองโนโวเทลเขาบอกเต็ม  สุดท้ายได้ที่นี่ซึ่ง คนจองก็ไม่รู้ว่าสภาพมันดูเลวร้ายมาก ขนาดนี้ ในอินเตอร์เน็ตดูดีทีเดียว ( เลวร้ายในความรู้สึกของคนบ้านนอกที่ไม่เคยเจอสภาพแบบนี้น่ะ แต่คนที่อยู่ประจำเขาคงเป็นปกติของเขาน่ะ )  เพราะที่โคราชนี่ คอนโด นี่หรูทีเดียว  เราคาดการผิดถนัด  ให้มาคิดว่า  ชีวิตของคนกรุงเทพนี่  แขวนอยู่บนเส้นด้ายจริง  เมืองใหญ่ที่ใครๆ ใฝ่ฝันมาอยู่   แต่ชลัญคนหนึ่งล่ะขอเป็นพยาบาลบ้านนอก  มีชีวิตติดปีก ไปทางไหน ก็มีแต่คนยิ้มทักทาย  หิวน้ำก็มีคนเรียกกิน ไม่ต้องใช้เงินซื้อหา  มีน้ำใจเผื่อแพร่  ที่คงหายากยิ่งในเมืองใหญ่เช่นนี้ 

 ชลัญธร


หมายเลขบันทึก: 522187เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2013 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม 2013 16:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

อ่านแล้วยิ้ม และเข้าใจ ผมอยู่กรุงเทพฯ มา20กว่าปี พอขับรถเข้าในกลางกรุง ก็มีอันงง และเจอสภาพเครียด แออัดยัดทะนาน ดีหน่อยทุกวันนี้มีรถไฟฟ้าใช้ รวดเร้วตรงเวลา แต่เวลาเร่งรีบ เช้า เย็น ก็โกลาหลเหมือนกันครับ ไม่มีที่จะแหย่ขาขึ้นได้

คนกรุงฯใช้ชีวิตที่เร่งรีบ เครียด ด้วยความเคยชิน จึงหารอยยิ้มยากหน่อยครับ

เช่นกันกับงานนี้ผมอยากไปร่วมแต่เกรงใจผจก.ไม่อยากลางาน เพราะปกติก็ลาป่วยพบแพทย์บ่อยอยู่แล้ว จึงได้แต่ติดตามที่บันทึกของกัลยาณมิตรนี่ล่ะครับ

วันหลัง ชลัญ มาแถวบางนา ก็บอกได้นะครับ บ้านผมมีห้องว่าง พักกันได้หลายคนเลยทีเดียว

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ

 :).....

น้ำหนักตัวอาจจะมีผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

น่าสงสารลิฟท์มาก ๆ ;)...

เนี่ยะ แหละหนา บางกอกงงจา. บ้อกไหหห้...พี่เคยไปมาแล้ว. น้องแก้วเอ๋ย..(คิดถึงค่ะ..ถึงบ้านปลอดภัยดีรึเปล่าคะ...ยายธี)

ตื่นเต้นและเหนื่อยตามไปด้วยเลย โชคดีที่ไม่ได้ไปคนเดียว

ป้าด ดูยุ่งยาก นะท่าน

ชอบ ment นี้มาก..... น่าสงสารลิฟท์มาก ๆ ;)...

พยายามนับคำว่า.....บ้านนอก.......ว่ามีกี่คำ 555  

.บ้านนอก. นั้นไม่ใช่จะไม่ดี และก็ไม่ใช่จะดีนะครับ..... นึกเป็นเป็นกลางๆ เอาไว้ .......  :):)  

เคยเจอห้องพักแถว ม. เกษตร ไปพักเพื่อการประหยัดงบฯ ห้องน้ำกว้าง 2 ศอก คือศอกผม 2 ศอกต่อกันแล้วเต็ม ......ต้องชมช่าง กทม. เก่งมากๆ สามารถวางโถสุขภัณฑ์ได้อีกต่างหาก สุดยอดมาก 555

ทำไมเสี่ยงขนาดนั้น โรงแรมมีเต็มกรุง..

เก็บไว้เป็นประสบการณ์ค่ะ


ลุ้นไปด้วย

ใจหายใจคว่ำ  มาเด้อขวัญเอ้ย  ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัว

สงสารคุณหมออธิคม ๕๕๕๕๕๕๕

อ่านไปลุ้นไ่ปกับการผจญภัยเช่นนี้..คนกรุงเจอแบบนี้ก็แย่เหมือนกันค่ะ..ขอให้วันที่เหลือพบแต่ความสุขดีๆนะคะ..

ดีใจที่สุดท้ายก็แฮบปี้นะคะ

เจ็บใจตรงที่ไม่ได้ใช้บริการแล้วต้องเสียเงินอีกครับ

ผมก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้แหล่ะครับ ที่พักในพัทยา

เรื่องไปถึงตำรวจ...สน.เขาบอกว่าไม่ใช่หน้าที่เขาที่จะต้องไปเคลียร์เป็นเรื่องของเจ้าของหอพัก-แขกผู้มาพักตกลงกันเอง.....เพราะคุยกันคนละภาษานี้แหล่ะคับ ถึงได้ขอความช่วยเหลือจากคุณ ตร.ครับ

แล้วเราไปขอความช่วยเหลือ ตร.ทำมั้ยนี้.....

สุดท้ายได้คืนกลับมาครึ่งหนึ่งก็ยังดีคับ...

****คนเราไม่รู้จักความพอ... ไม่คิดถึงใจเขาใจเรา**** 

คอยแต่จะเอาเปรียบกัน....โลกนี้จะมีความสุขอยู่อย่างไร

โชคดีน่ะคับที่ยังมี กัลยาณมิตรจาก GTK 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท