มะเขือส้มกู้ชาติ (เพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตรไทยเพื่อกู้ชาติ ตอน ๑)


มะเขือส้มอบแห้ง ที่ไม่หวาน (การเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรเพื่อสร้างชาติ ๑) 

เมืองฝรั่งเขานิยมกินมะเขือเทศมาก (ภาคเหนือเรียกมะเขือส้ม เชื่อว่ามีมานานในไทยแล้ว อาจไม่ได้มาจาก “เทศ”  ดังที่นักประวัติศาสตร์ไทยเชื่อตามที่ฝรั่งว่า)  พอมันเหลือกินเขานิยมเอามาทำแห้ง  กินเล่นเป็นของหวาน  หรือเอามาทำซ๊อส (ketch up)

ส่วนไทยเรา การอบแห้งมะเขือส้มเพิ่งเริ่ม  แต่พอเริ่มผมว่ามันก็เริ่มผิดๆ ซะแล้ว  เพราะ  เท่าที่ได้อ่านดูชม พบว่าไทยเรานิยมเอาไปเชื่อมน้ำตาล ก่อนที่จะเอาไปทำแห้ง....อ้วกกกกก....เชื่อมทำไม เพราะมะเขือส้มนี้มันหวานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว  ว่าไปแล้วบางสายพันธุ์หวานเกินไปด้วยซ้ำ 

ที่นิยมทำกัน (ทั้งไทยและเทศ) คือ เอามะเขือมาผ่าซีก  แล้วเอาไปปรุง เช่น ฝรั่งผสมเกลือ เครื่องเทศ ส่วนไทยผสมน้ำตาลลูกเดียว  จากนั้นเอาไปตากแดดธรรม ชาติ  หรืออบด้วยเครื่องอบ  ผลผลิตออกมาก็สามารถเก็บไว้กินได้นาน ไม่ว่าจะเป็นของหวานกินเล่น หรือเอาไปประกอบอาหารอื่น (ฝรั่งเขาเอาไปทำอะไรมากหลาย ส่วนไทยกินเล่นเท่านั้น ..ก็หวานปานนั้นจะเอาไปทำอะไรได้หนักหนาเล่า) 

วันนี้ผมจะมานำเสนอแนวคิด  (แนวคิดนะ...ยังไม่ได้ลองทำเอง ...แต่ผมคิดอะไรมักไม่ผิตหรอก ถึงผิดก็ไม่ผิดหมดสามารถนำไปปรับต่อยอดได้เสมอ..)  แนวคิดคือ  จะทำการอบแห้งมะเขือเทศอย่างง่าย เร็ว อร่อย สะดวก  ราคาถูก แถมมีผลพลอยได้มากหลาย

การผ่าซีก ..ทำไปทำไม เพราะมันเสียเวลาและค่าแรงมากเลยนะ  ส่วนน้ำมะเขือเทศที่ระเหยออกไปก็น่าเสียดาย  และเสียเวลาการทำระเหยด้วย  ดังนั้นแนวคิดผมคือ  เอามะเขือเทศมาบีบบดให้แตกแบบเร็วๆ โดยรีดน้ำออกให้เกือบหมด  ด้วยเครื่องรีด  ...ประมาณว่าเครื่องรีดบดปลาหมึกย่างหน้าปั๊มน้ำมันนั่นแหละ   

จากนั้นเอาไปตากแห้ง โดยจะผสมเกลือ น้ำตาล เครื่องเทศหรือไม่ก็สุดแล้วแต่รสนิยม  ส่วนผมเสนอว่าไม่ต้องผสมอะไรเลย ธรรมชาติลุ่นๆ ไปเลย

การทำแบบนี้จะทำให้สามารถอบได้แห้งอย่างรวดเร็วมาก ยิ่งถ้าใช้เครื่องอบแห้งพลังแดดดปสภ.สูงที่ผมคิดค้นไว้ และได้แจกวิชาไว้ให้ฟรีไว้แล้ว ก็น่าจะแห้งสนิทได้เพียงในวันเดียว  ...ของฝรั่งกว่าจะแห้งต้องใช้เวลา ๔ ถึง ๑๔ วัน ซึ่งผมว่านานขนาดนี้พวกเชื้อราคงจะโตแล้วแหละ และนั่นอาจคือเหตุผลว่าทำไมฝรั่งต้องโรยเกลือ และไทยเราต้องคลุกน้ำตาล อ๋อ..คงเพื่อช่วยค่าเชื้อรานี่เองกระมัง ...ส่วนวิธีของผมนี้แห้งสนิทในวันเดียว เชื้อราก็คงโตไม่ทันหรอก  เพราะเชื้อราเขาชอบน้ำ ความชื้น  และเวลา  ส่วนของเราเริ่มด้วยความชื้นต่ำมาก เพราะบีบน้ำออกเกือบหมดแล้ว และให้เวลาเพียงวันเดียว

การแห้งได้อย่างรวดเร็วในวันเดียวนี้เป็นเพราะ ๑.  วัตถุดิบเสียน้ำจากการบีบคั้นไปเกือบหมดแล้ว  (เหมือนเราบิดผ้าเปียกให้แห้งก่อนตาก)  ๒. เครื่องอบแห้งพลังแดดมีปสภ.สูง (ไม่งั้นก็อาจต้องการสามแดด) 

สำหรับน้ำที่คั้นออกมา  อย่าเอาไปราดส้วมเสียก่อนล่ะครับ   ก็เอาไปบรรจุขวดขายสิ  เป็นน้ำมะเขือเทศสด หรือจะเอาไปผสมกับน้ำฝรั่ง  สัปปะรด ก็น่าจะพอเป็นสัปปะรด พอทำเงินเพิ่มได้อยู่หรอก  เท่ากับว่าได้สามสี่ต่อ  คือ ๑. ได้เงินจากน้ำเพิ่มขึ้น  (แทนที่จะปล่อยให้ระเหย)  ๒. ลดเวลาการอบแห้ง  (เวลาคือเงิน)   ๓. ไม่เกิดรา  ๔.ไม่เสียเงินค่าซื้อเกลือ น้ำตาล  ๕. อร่อยกว่าปกติ  เพราะไม่เค็มไปหรือหวานไป แต่หวานหอมแบบธรรมชาติที่กำลังพอดี

อีกทางเลือกที่ขอเสนอคือ  น้ำที่บีบออกมานี้ ให้เอาไปต้มกับมันเหน็บ  (รู้จักไหม)  เห็ดนางฟ้า (กรุบๆ )  ถั่วลิสง  เม็ดถั่วลันเตา  ถั่วฝักยาวหั่นท่อน  ใส่หอมแดงเข้าไป เกลือเล็กน้อย  แค่นี้ก็เป็นซุปเจที่แสนอร่อยได้แล้ว   บรรจุกระป๋อง ส่งออกขายได้ทั่วไทย อาเซียน และ โลก  เหมือนยี่ห้อ แคมป์เบล เป็นต้น ที่ตอนนี้มาตั้งฐานผลิตซุปกระป๋องในไทยแล้ว  ส่วนคนไทยเป็นได้แค่ลูกจ้างเขา  (รัฐบาลส่งเสริมอีกต่างหาก)

มะเขือส้มลูกเดียว โง่ๆ  อาจกู้ชาติไทยได้หากรู้จักคิดกันสักนิด ตั้งแต่นักวิชาการไทย นักวิจัย  ไปจนถึงนักการเมือง และที่ปรึกษาราคาแพงทั้งหลาย

...คนถางทาง (๙ มีค. ๒๕๕๖)


หมายเลขบันทึก: 521843เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2013 03:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม 2013 03:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

น่าสนใจนะคะต้องลองทำดู......

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท