โรงพยาบาลสมัยใหม่ ในยุค IT


       พูดถึงองค์กรที่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะ โรงพยาบาล กับเรื่องของ IT ที่เข้ามาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วยนั้น “คอมพิวเตอร์” นับว่ามีบทบาทอย่างมากครับ โดยเฉพาะปัจจุบันถ้าโรงพยาบาลไหนไม่มีคอมพิวเตอร์ ถือว่า ก้าวไม่ทันยุคของโลกแห่งข้อมูล ซึ่งผมว่าน่าจะมีน้อยมาก เพราะเท่าที่สังเกต ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล จนถึงโรงพยาบาลขนาดใหญ่ระดับมหาวิทยาลัย ไปที่ไหนก็เขามีคอมพิวเตอร์ใช้กัน

       หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วโรงพยาบาลเขาใช้คอมพิวเตอร์ทำอะไรกันบ้าง นอกเหนือจากจะใช้เป็นสื่อออนไลน์ เพื่อช่วยในการการส่งเสริมดูแลผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาคิดนาน ผมขอเฉลยดังนี้ครับ นอกจากจะใช้เป็นสื่อออนไลน์แล้ว โรงพยาบาลจะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ ภายใน ผ่านโปรแกรมของโรงพยาบาล เป็นต้นว่า หอผู้ป่วย ห้องยา โภชนาการ งานเวชระเบียนผู้ป่วย คลังเลือด ห้องแลป เพื่อให้เกิดรวดเร็วในการประสานงานในการรักษา ดังนั้น ไม่ว่าจะติดต่อสอบถาม ติดตามประวัติผู้ป่วย จะจองเตียง จะ Set ผ่าตัด จะนัดคนไข้ ก็สะดวกสบายผ่านคอมครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่จะใช้งานได้ จะต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาเท่านั้น และต้องมีรหัสผ่านเข้าไปใช้งาน ไม่ใช่ใครๆ นึกอยากจะใช้ก็ใช้ได้ และข้อมูลต่างๆ จะต้องเป็นความลับครับ เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้ป่วย

       มาถึงการสื่อออนไลน์ เพื่อช่วยในการการส่งเสริมดูแลผู้ป่วยอย่างไรบ้าง ซึ่งก็นับว่าสำคัญเพราะในปัจจุบัน การรักษาการเจ็บป่วยซึ่งนับวันจะซับซ้อนมากขึ้น มีชื่อโรคแปลกๆ เชื้อแปลกๆ ที่ พัฒนาตัวเอง ให้รักษายากมากขึ้นเป็นเงาตามการพัฒนาของวงการแพทย์ ดังนั้นทีมผู้ที่รักษาต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ ถึงจะเอาอยู่ครับ และในการเจ็บป่วยแต่ละที ปัจจุบันนี้ เขามองว่าแต่ละระบบนั้นเกี่ยวข้องกันหมดทั้ง กาย จิต อารมณ์ สังคมและจิตวิญญาณ ลำพังแค่กายก็ไม่ใช่ง่ายครับ เพราะร่างกายเราเองก็มีหลายระบบ  เจ็บที่หนึ่ง ก็กระทบอีกที่หนึ่ง การรักษาให้หาย เบื้องต้นจะต้องวินิจฉัยให้ถูกก่อน จึงจะรักษาได้ถูกทาง ซึ่งรูปแบบของการรักษาก็มีมากมาย เช่น ให้ยา ผ่าตัด นัดฉายรังสี ให้เคมีบำบัด ทำกายภาพ ให้คำปรึกษา และอีกหลายวิธี แล้วแต่ว่าจะป่วยเป็นอะไร ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ อยู่บนพื้นฐานของมาตรฐานวิชาชีพ

       การใช้สื่อออนไลน์จึงเข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้ครับ ซึ่งง่ายสุดในการหาข้อมูล  ก็คือถามอาจารย์ กูเกิล แล้วท่านก็จะพาไปหาแหล่งข้อมูลที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม สำคัญต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลครับ ถ้าข้อมูลนั้นๆ มาจากหน่วยงาน องค์กรทางด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ มีชื่อผู้เขียน ที่ทำงาน มีตำแหน่งทางวิชาการ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในเรื่องที่เขียน เป็นบทความ หรืองานวิจัยที่ตีพิมพ์เป็นวารสารที่น่าเชื่อถือ จึงจะถือเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ครับ หรือ อีกวิธีหนึ่งก็อาจเข้าไปถามในบอร์ดที่ให้ตั้งกระทู้ซักถามโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่บางทีอาจไม่ทันการกรณีเร่งด่วน

       สำหรับเวปไซต์ ที่จะลืมไม่ได้เลย ในการหาข้อมูลในการส่งเสริมสุขภาพ ก็คือ โกทูโน เรานี่แหละครับ เพราะมี มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ พยาบาล และการดูแลสุขภาพหลายท่านได้เข้ามาเขียนบันทึกที่เป็นประโยชน์มากมาย ให้เอาไปปรับใช้ในบริบท หน่วยงานของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของสุขภาพต้องใส่ใจ  กินแต่พอดี มีประโยชน์  หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ อย่าหน้างอ โกรธง่าย บ่อยๆ เดี๋ยวจะพลอยเจ็บป่วยจนถึงขั้นเข้าไปนอนในโรงพยาบาล ต้องหยุดการ หยุดงาน คำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” ยังใช้ได้ดีเสมอครับ 

             

หมายเลขบันทึก: 521595เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2013 03:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม 2013 02:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท