ถ้าจะทำให้ว่าง ก็ต้องเอาไม้เอกออกให้ได้ก่อน....................... (ฮาๆๆ ขออภัยครับ อดนอกเรื่องไม่ได้)
ถ้าจะทำใจให้ว่าง ก็ต้องวาง
ถ้าวางได้แล้ว ใจก็จะว่าง
ทำให้ผมนึกถึงวรรคหนึ่งของบทสวด ธาตุปัจจเวกขณปาฐะ
...............................................................................................................................................................
จากบทสวดมนต์แปล.... ธาตุปัจจเวกขณปาฐะ
(บางส่วน)
.......
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง,
สิ่งเหล่านี้นี่
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น, กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เนืองนิจ,
ยะทิทัง จีวะรัง, ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล,
สิ่งเหล่านี้
คือ จีวร, และคนผู้ใช้สอยจีวรนั้น,
ธาตุมัตตะโก,
เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ,
นิสสัตโต,
มิได้เป็นสัตวะอันยั่งยืน,
นิชชีโว,
มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล,
สุญโญ,ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ จีวะรานิ อะชิคุจฉะนียานิ,
ก็จีวรทั้งหมดนี้,
ไม่เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม,
อิมัง ปูติกายัง ปัตฺวา,
ครั้นมาถูกเข้ากับกาย
อันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว,
อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ,
ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียด
อย่างยิ่งไปด้วยกัน,
http://portal.in.th/i-dhamma/pages/8646/
............................................................................................
สุญโญ,ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน,
วรรคนี้จะลอยมาทำให้ผมคิดอยู่เสมอ...............................................
ถ้าเราไม่คิดว่าเรามีตัวตน......................ทุกอย่างก็จบ ทุกข์ก็จบ......................
หลวงปู่สอนเหล่าลูกศิษย์ รวมทั้งผมเสมอว่า.............”คนเราก็ประกอบด้วยธาตุตามธรรมชาติ ดิน น้ำ ไฟ ลม”
ลม...............ลมพัดลงเบื้องล่าง ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลดพัดไปตามตัว....ลมหายใจ
ไฟ.............ไฟที่เผาผลาญอาหาร ให้ความอบอุ่นในตัวเรา ไฟกิเลสที่แผดเผา........ไฟในตัวเรา
เพียงขาดธาตุใดธาตุหนึ่ง ..................เราก็ตาย อีหลี (แน่ๆ) (ถ้าไม่เชื่อ หลวงปู่บอก ก็ลองกลั้นหายใจดู?? 555)
เราต่างก็ไปยึดมั่นว่า นี่ก็ตัวกู นี่ก็ของกู ทั้งๆที่เราเองก็แค่ประกอบขึ้นจากธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม ธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น..............
ถ้าวางความคิดที่ ว่าเรา ว่าตัว ว่าตน ของเรา ออกได้.....................ใจเราก็จะว่าง..............
ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราควรฝึกพิจารณาให้เป็นประจำ..................จะช่วยบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกทางใจได้ 555
" วันที่หายไป...........................................กับการเดินจงกรมให้ใจที่สับสน ได้ว่าง เพื่อให้วาง สงบลงได้บ้าง............."
อาการปวดเคล็ดขัดหยอก ใช้ ฮีรุดอยด์ ครีม ทาช่วยบรรเทาอาการได้ อิ อิ อิ
ว่างวางวางว่าง....ทำยากจริงๆค่ะ
จิตปล่อยวาง ว่างภายใน ได้สุขเอย... เอาเพลงนี้มาฝากครับอาจารย์
มาอ่านธรรมค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณค่ะ ;)
ว่าง วาง สงบ สุข สบาย สบายๆ ถ้วนทั่วกัน. เจ้าค่ะ ยายธี
แค่....ไม้ เอก ตัวเดียว ก็ทำเกิดความหมายได้หลายอย่างนะคะ
ครับ การปล่อยวาง การไม่ยึดติด ก็ทำให้จิตว่าง
แต่ก่อนนั้น เกิดอาการขัดยอกทางใจบ่อยๆ จนรู้สึกว่ามีแผลในใจ ก็ด้วยคิดว่า "ว่าใครก็ว่าไป อย่ามาว่าฉันก็แล้วกัน" เข้าทำนอง เรื่องของคนอื่นเราไม่รับรู้ อย่ามายุ่งเรื่องฉันก็แล้วกัน....
หลังๆ มานี้ได้คาถาใหม่... อยากว่าใครก็ว่าไป เราไม่รับเสียอย่าง คนว่าก็รับไปเอง...ฮาๆๆๆๆๆ
ตอนที่รู้สึกว่าใครมาว่าเรานี่... มันเร็วมาก ราวพริบตา มันปรุงแต่งไปเสียไกล เตลิดเข้ารกเข้าพงแล้ว ต้องรู้ให้ไว วางให้เร็ว.... แล้วจะรอดตัวจากภัยของการก่อวิบากกรรมที่ไม่ดี
ซึ่งที่ว่าไปข้างต้นนั้น...ยากมากๆๆๆๆๆ เลย
แต่...ทำได้ ค่ะ :)