บทสรุปของการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาเรื่องชื่อ และนามสกุลนี้มีที่มามีวิธีการศึกษาโดยศึกษาจากเอกสารได้แก่หนังสือในห้องสมุด การสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง และการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงมีดำริให้คนไทยทุกคนต้องมีชื่อตัวและชื่อสกุลให้แพร่หลายทั่วกัน เพื่อทราบตำหนิ รูปพรรณสัณฐานบุคคล และเทือกเถาเหล่ากอ จึงได้ทรงตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล พุทธศักราช ๒๔๕๖ ขึ้น ซึ่งเป็นพระราชบัญญัตินามสกุลฉบับแรก เป็นหลักให้บุคคลทุกคนได้มีชื่อตัว และชื่อสกุล เพื่อเป็นหลักชัยแห่งครอบครัว ส่งเสริมความรักความสามัคคีระหว่างเครือญาติ และให้ลูกหลานประพฤติแต่ความดีงามตามชื่อและนามสกุล
จากการศึกษาการตั้งชื่อบุคคลของคนไทยจากอดีตถึงปัจจุบันพบว่ามีวิวัฒนาการที่น่าสนใจหลายประการเช่น จากเดิม ชื่อใช้เรียกขานบุคคล นามสกุลใช้ระบุวงศ์วานของบุคคล แต่ในปัจจุบัน สภาพสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับในสังคมไทยมีความเชื่อและคตินิยมในการตั้งชื่อเพื่อให้เกิดสิริมงคล โชคลาภ ร่ำรวย จึงพบว่าผู้คนนิยมเปลี่ยนชื่อเพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นแม้จะต้องเสียค่าบริการตั้งชื่อ
ในการศึกษาเรื่องชื่อ และนามสกุลนี้มีที่มา มีสิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติม คือศึกษาพระราชบัญญัตินามสกุลในอดีตและปัจจุบันเปรียบเทียบกัน และศึกษาผลการใช้พระราชบัญญัติ ชื่อบุคคล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๘ และพระราชบัญญัติชื่อและนามสกุลฉบับใหม่ รวมทั้งศึกษาวิธีการตั้งชื่อและนามสกุล ตามคติความเชื่อของคนไทย อย่างละเอียด
ผู้ศึกษา เด็กหญิงธนาภรณ์ ดาววิจิตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชาความเรียงขั้นสูง ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๔
นักเรียนชั้นม.๔/๑๐และ๔/๑๑ ที่รัก
ขอให้ตระหนักถึงชื่อและนามสกุล ของทุกคน ที่มีความดีงาม และเป็นมงคล จงคิด พูด ทำ สิ่งที่ดี เพื่อสืบสานวงศ์ตระกูลของทุกคนให้งอกงามไพบูลย์ต่อไป
ครูอภินันท์
อาจารย์ค่ะหนูได้ส่งเมล์ไปให้เเล้วถ้าผิดพลาดยังไงก็บอกได้นะค่ะ