วิจารณ์กรณี อจ. นิติ ตัวยังกะช้าง ต่อยกับหญิงมด (ที่เป็นทอม)



เรื่องการเตะต่อยกันระหว่างอจ.นิติ  (ผู้ชายตัวยักษ์) กับผู้หญิง (ตัวจิ๋ว)  คงได้เห็นคลิปกันไปแล้วนะครับ  วันนี้เขาคืนดีกันแล้วอย่างชื่นมื่น  ดูภาพตามลิงค์สิ

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000025137

ทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าเกิดในอารยประเทศ รับรองว่า ระเบิดแตกแน่ๆ 

ตำรวจควรดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด (มากกว่าที่สุด้วยซ้ำไป)  และใช้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สอนสังคมให้ลดความรุนแรงระหว่างกัน  เป็นโอกาสอันดีมากที่จะปชส. ให้สังคมลดความรุนแรง

แต่โอ้..อนิจจา ตำรวจไทยมักนิยม “ยอมความ” เสมอ  โดยเชื่อได้ว่าคงมี “ค่ายอมความ” และค่าหัวคิวให้ผู้เจรจายอมความด้วยตามปกติ 

เสียดายโอกาสแทนสังคมไทยจริงๆ 

ยัง..เรื่องนี้ยังไม่จบ  ยังมีเกร็ดที่จะต้องแฉอีกสองสามประเด็น

ฝ่ายชายนั้นข่าวว่าเป็น อจ. นิติศาสตร์  วาว..สองเด้งเลย เป็นอาจารย์  และสอนนิติศาสตร์เสียด้วย แล้วยังมีพฤติกรรมแบบนี้  อยากรู้จริงว่าสอนม.ไหน จะได้ช่วยโฆษณาไม่ให้เด็กๆไปเรียน  (นักข่าวก็แสนมีจริยธรรม ไม่ยอมเปิดเผยชื่อสถาบัน ถ้าเปิด รับรองว่าไอ้หมานี่คงโดนไล่ออกแน่ เพราะสถาบันคงต้องการรักษาภาพพจน์ของสถาบัน) 

ส่วนฝ่ายหญิงนั้นโดนสามเด้ง  .เด้งที่หนึ่งคือ เป็นหญิง ไปต่อยกับชาย  เด้งสอง  ตัวเล็กยังกะลูกหมา ยังโดนไอ้ชายหน้าหมาตัวยังกะยักษ์ไล่เตะได้ปานนั้น เด้งที่สามโดนไอ้นักข่าวไร้จริยธรรมมันบอกว่า เป็นทอม

เรื่องเป็นทอมนี้ (แม้จริง) ก็เป็นเรื่องส่วนตัว นักข่าวที่มีจริยธรรมไม่ควรต้องเอามาบอกผู้อ่าน (มันนอกบริบทมากเกินไป)  การเอามาบอกถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลไปแล้ว  แล้วถามว่าทำไมไม่บอกด้วยล่ะว่าไอ้อจ.เอี้ยนี้มันสอนม.ไหน  กลับปกปิดแทนมันเสียอีก

ข่าวนี้แม้เป็นข่าวเล็กๆ  แต่ผมว่ามันสะท้อนพฤติกรรมเพี้ยนๆ สังคมไทยได้มากในหลายด้าน

1)  พฤติกรรมยอมความของตำรวจไทย  (วิน วิน วิน ด้วยกันหมด แล้วก็ลืมๆ กันไป)  เรื่องทะเลาะวิวาท ตำรวจไทยเขาชอบให้ยอมความเสมอแหละ ไม่เชื่อไปทำวิจัยเก็บสถิติดูได้เลย เพราะได้เงิน และไม่ต้องเหนื่อยทำคดี (ได้สองเด้ง)

2)  พฤติกรรมนักข่าวไร้จริยธรรม (ว่าไปแล้วเมืองไทยเรานักข่าวกับตำรวจก็หากินร่วมกันมาตลอด  ไม่เชื่อไปทำวิจัยเก็บสถิติดู)

3)  เรื่องครูอาจารย์ไทยวันนี้ จำนวนไม่น้อยมันแทบไม่ต่างอะไรกับโจรไปแล้ว ไม่แปลกอะไรที่นักเรียนไทยวันนี้จบการศึกษามา ก็ไร้ความรู้  ไร้สำนึก กันไปหมด

4)  เรื่องความรุนแรงในสังคม ที่คนแข็งแรงกว่ารังแกคนอ่อนแอกว่าเป็นประจำ 

ไอ้อจ.เอี้ยคนนี้มันอ้างหน้าตาเฉยว่ามันเป็นคนอารมณ์รุนแรง  (โมโหร้าย)  ธ่อ..ไอ้เอี้ย อ้างง่ายๆแค่นี้ก็ได้รับความเห็นใจแล้วหรือ 

ผมขอโม้สักหน่อยว่าผมเองในอดีตน่าจะโมโหร้ายกว่าไอ้เอี้ยนี้หลายเท่า  ผมเตะต่อย ทะเลาะวิวาทมามากสมัยวัยรุ่น  แต่ผมไม่เคยไปต่อยเตะกับใครที่อ่อนแอกว่าเลยนะ  มีแต่เท่ากัน  ส่วนใหญ่ไปต่อยกับพวกที่ตัวใหญ่กว่าทั้งสิ้น

พอผมเลยวัยรุ่น ก็เลิกพฤติกรรมรุนแรงโดยสิ้นเชิง  มันคิดได้เอง  จากการมีอายุมากขึ้น กลับกลายเป็นกรรมการห้ามมวยเสียอีก  โดยเฉพาะถ้าเจอกรณีคู่แข่งไม่สมดุลด้านความแข็งแรงและความเจนจัด  แต่ถ้าแมนต่อยแมนอย่างเท่าเทียมกัน ผมชอบดูด้วยซ้ำไป

ขอเสนอให้เปิดโปงไอ้อาจารย์เอี้ยคนนี้ ไล่มันออกจากสถาบันไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างความรุนแรงต่อผู้อ่อนแออีกต่อไป

...คนถางทาง (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖) 


หมายเลขบันทึก: 520930เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2013 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2013 08:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท