บนเส้นทางฝัน


ทุกคนคงเคยมีความฝัน และในฝันนั้นมักเป็นสิ่งที่งดงามเสมอ

มีใครคนหนึ่งเขียนไว้ว่า “จงฝันเพื่อให้มีความหวัง แต่อย่าหวังในสิ่งที่ฝัน”

ฉันเคยคิดว่า เมื่อฝันแล้ว จะไม่ให้หวังได้อย่างไรกันเล่า

แล้วเช่นนั้นฉันจะฝันไปเพื่ออะไร  เพราะจุดหมายปลายทาง


ของฉันนั้นคือสิ่งที่ฉันฝันไว้  และฉันก็จะพยายามไปให้ถึงฝันนั้นให้ได้

ฉันมุ่งมั่นในฝันของฉัน และอยากทำให้สำเร็จ

ฉันทำทุกทาง เพื่อจุดหมายที่หวัง ซึ่งเป็นความเด็ดเดี่ยว มั่นคงในความรู้สึก

เหมือนกับว่า ฉันกำลังเดินทางไปหา  กล่องที่บรรจุเพชรเม็ดโตเอาไว้

และฉันก็ได้ลายแทง และ เครื่องมือที่ใช้ในการเดินทางนั้นมาแล้วด้วย 

ในเงื่อนไขของการเดินทาง นั้นบอกไว้ว่า ห้ามแวะชื่นชมกับสิ่งที่อยู่ข้างทาง

เพราะมันจะทำให้ไปไม่ทันมันมีเวลากำหนด  ฉันต้องเดินทาง หลังจากฝนตก


แล้วเริ่มมองเห็นสายรุ้งที่อยู่บนขอบฟ้า  ฉันต้องมองไปที่สายรุ้ง

เพื่อให้ไปถึงจุดหมายที่ฉันตั้งใจ  ต้องไปให้ทันก่อนที่ สายรุ้งจะจางหาย

แล้วฉันก็จะพบกับกล่องที่บรรจุเพชรเม็ดใหญ่นั้นเอาไว้ 

ฉันรีบทำตามความตั้งใจที่แน่วแน่มุ่งมั่น  ระหว่างทาง


ฉันได้ยิน ธรรมชาติรอบข้างร้องเพลง ไพเราะ   น่าหลงใหล

มีกลิ่นหอมของดอกไม้  ละมุน  ไอฝนเย็นฉ่ำ ชื่นใจ

แต่ไม่ได้ฉันหยุดเดินไม่ได้ต้องไปตามสายรุ้งงามนั้น

ฉันมุ่งมั่นเดินไปด้วยความอดทน นาน  นาน  นาน


เท้าเริ่มบวมเจ็บ  ถูกหนามเกี่ยวระหว่างทางเพราะฉันไม่ระวัง

สายตาฉันจ้อมองแต่สายรุ้ง  ที่แขนขา  มีแผลขีดข่วน เลือดไหล

ฉันเจ็บปวด อาการเริ่มหนาวเย็น ลมพัดแรง  บางช่วงของระยะทางนั้นเงียบเหงา

แต่ฉันต้องทนเพื่อจุดหมาย ปลายทางที่ฉันต้องการ  และแล้วฉันก็พบกับความฝัน


นั่นไง กล่องที่บรรจุเพชรเม็ดโตไว้  โอ้โห มันใหญ่มาก  ส่องแสงแวววาวสุกใส

ฉันนั่งลูบคลำมันด้วยความหลงใหล  แต่ฉันปวดเท้ามาก  ปวดแผลที่ถูกหนาวเกี่ยว

เสื้อผ้าขาดวิ่น ซึ่งฉันไม่ได้สนใจมันระหว่างทาง  ฉันหนาวสะท้าน ในความรู้สึก

ฉันนั่งลงข้างๆเพชรเม็ดนั้น แล้วหันกลับไปมองเบื้องหลังที่ฉันเดินผ่านมา


โอ้ ... ฉันเดินผ่านเจ้ามาอย่างไม่สนใจได้อย่างไร มันเป็นธรรมชาติที่งดงามยิ่งนัก

แม้ทางที่ฉันเดินมา จะมีหนามแหลมคมทิ่มตำ แต่หากฉันเดินช้ากว่านี้ พิจารณา

ธรรมชาติรอบข้าง  ฉันจะรู้ว่าในดงหนามนั้นมีทางให้เลี่ยง  มีดอกไม้สวยๆ 

มีน้ำตกเย็นฉ่ำ  มีนก ร้อง เพลงขับขาน  มีเพื่อนพ้องมากมาย


ฉันนั่งทบทวน ความฝันที่ฉันอยากได้เพชรเม็ดนี้  ฉันได้ตมฝัน

แต่ทำไมในใจฉันมันถึงไม่ปรีดาเลย ฉันจะใช้ประโยชน์อะไรจากเพชรนี้ได้

เอาไปคนเดียวก็ไม่ไหว  ฉันมีความสุขจริงหรือ  ที่ได้มา หรือฉันหลอกตัวเอง

ฉันกลับไปมองเบื้องหลังอีกครั้ง  ฉันเข้าใจความหมายนี้แล้ว


“จงฝันเพื่อให้มีหวัง  แต่อย่าหวังในสิ่งที่ฝัน”

ความฝันที่ฉันคิดว่าฉันได้มาแล้วมีความสุขนั้น แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ฝัน

แต่ความสุขมันเกิดขึ้นได้ในระหว่างทางฝันของฉันนั่นเอง 

หากฉันพยายามเก็บเกี่ยวความสุขรอบข้างนั้น บางทีฉันไม่ต้องเดินให้ถึงฝัน


ฉันก็สามารถพบกับความสุขที่แท้จริงของชีวิตก็ได้ 

บนเส้นทางฝันนั้น อาจมีสิ่งที่สวยงามที่ฉันควรเก็บเกี่ยวเอาไว้

เพราะหากฉันพลาดในสิ่งที่ฝันนั้น ฉันจะไม่พลาดที่จะได้รับสิ่งดีๆ รอบข้าง

มันก็มีความสุขได้ โดยที่ฉันไม่ต้องเดินด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่หรือ

............................................................................................................................................

สิ่งงดงามและความสุข อยู่รอบข้างเราเสมอ 

เหมือนบทเพลงที่เราฟัง จะไพเราะไม่ได้

หากเราไม่ใส่ใจที่จะฟัง

Happy ba ค่ะ

ชลัญธร


หมายเลขบันทึก: 520820เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2013 05:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2013 05:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

คุณใกล้คุณนี้เอง  ฝากดอกผักเสี้ยนมาให้ดูระหว่างทางครับ

สุขกับฝัน..ชะถิง นองนอยเน้อ..เอ้อเออเอิงเอย..โดนมดกัดต่อย.ก็อย่าลืมปลูกเสลดพังพอนไว้แก้พิษ..นะน้อง..คนดี..ยายธี จ้า

สวัสดีค่ะ น้องชลัญ

ชอบบันทึกนี้จัง คลาสสิคนะเนี่ย  และก็อินไปเหมือนกันค่ะ สายรุ้ง ..กล่องเพชร หรือหนามที่เกี่ยวเราระหว่างทาง ..

แต่ตอนนี้พี่ plan เฉพาะงานค่ะ ...เพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง.. ลูกน้อง .. และ sub-contract รอบข้าง

ชีวิตส่วนตัวไม่ plan อะไรมากมาย ... ไปเรื่อยๆ  ระหว่างทางอยากทำอะไร ก็ทำ ... พบว่า ... มีความสุขมาก ..กับการใช้ชีวิตแบบนี้ ...

บนเส้นทางฝัน มีหลายทางแล้วแต่เราจะเลือกนะครับ

ถ้าเป็น mode ธรรมะ ก็จะบอกว่า .....เราต้องอยู่กับ .ปัจจุบัน. นะครับ .......ฝัน. ไม่ออก .หวัง. ไม่ได้  :):)

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ในบันทึกนี้ค่ะ

เส้นทางฝันเส้นนี้มันไม่ใช่ชีวิตของชลัญหรอกค่ะ  แต่เป็นชีวิตของเพื่อนชลัญที่เขาพูดถึงความรู้สึกของเขา ตั้งแต่สมัยมัธยมนั้นเพื่อนคนนี้เป็นคนเรียนเก่งมาก แต่ไม่ค่อยคบใคร ไม่ค่อยแบ่งปันอะไรใคร การเรียนการสอบก็เกรงว่า เพื่อนคนอื่นจะได้คะแนนมากกว่า มาวันที่เลี้ยงรุ่น ไม่มีใครอยากชวนเขามาร่วมงานด้วย แต่ชลัญยืนยันว่ายังไงก็เพื่อน  เมื่อมาถึงเขาเห็นบรรยากาศของเพื่อนที่ ไม่ได้พบกันมา 20 ปี นั้น ทำไมทุกคนยังงรักกันติดตต่อกันอยู่ เขาเป็น อ.สอนในมหาวิทยาลัยแต่กลับเงียบเหงาไม่มีเพื่อนมากมาย เขาถึงเข้าใจและเสียดายเวลาระหว่างทางที่ เขามุ่งมั่นนั้นมันทำให้เขาเสียโอกาศบางอย่่างไปน่ะค่ะ 

ฟังแล้วรู้สึกเตือนใจจึงเอามาเขียนเป็นบันทึก ค่ะ สำหรับชลัญ บอกตามตรงไม่เคยมีเป้าหมายอะไรในชีวิต ชีวิตเป็นอย่างนี้เพราะ มัวแวะเที่ยวข้างทางมากไปนี่แหล่ะค่ะ 

คนช่างฝัน  อีกวันที่จะได้พบกัน ในเร็วๆนี้ 

Happy Ba น่ารัก เบิกบาน สำราญใจ สื่อให้เห็นว่าเจ้าของบันทึกอารมณ์ดีเสมอ ๆ ค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท