ในเมื่อทุกคนเกิดมาพร้อมความรัก...แต่หากทำไมความรักจึงไม่เพียงพอ พ่อแม่เป็นสองคนแรกที่เป็นความรักแรกที่เด็กรู้จัก....โดยเด็กสามารถรับรู้ความรักของพ่อแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของแม่เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วง 5 เดือนหลังจากตั้งครรภ์เด็กทารกก็จะมีอวัยวะครบ และสมองมีการรับรู้ เหลือเพียงการรอให้การทำหน้าที่ต่างๆ ให้มีการทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เพราะฉนั้นในช่วงเวลาลานี้ หากแม่โอบกอด ลูบท้อง พูดคุยด้วย หรือแม้แต่พ่อที่คอยโอบกอดแม่ ร้องเพลงให้ทั้งแม่และลูกฟัง เมื่อลูกเกิดออกมาเขาจะรับรู้ว่า....เขานั้นเกิดมาพร้อมความรัก.....และเมื่อลูกน้อยลืมตามาดูโลก ความรักของพ่อแม่ก็ไม่หยุดลงเพียงแค่นั้น ยังต้องมีความรักอย่างต่อเนื่อง มีการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน กอดหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นภาษากายที่สื่อสารออกมาซึ่งถึงความรัก...อย่างไม่มีสิ้นสุด
เมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น....เด็กจะรู้เลยว่าความรักที่เขามีเต็มเปี่ยมจากพ่อแม่นั้น....หาสิ่งใดมาทดแทนได้ยาก เพราะฉะนั้นการเข้าหาความรักเชิงหนุ่มสาว การเข้าสู่วัฏจักรการไขว่คว้าหารักแท้อย่างไม่มีเหตุผลก็จะลดน้อยลง....เพราะความรักที่พ่อแม่มีให้นั้น....ใครๆก็ไม่สามารถทำหน้าที่เหล่านี้แทนได้....แต่ในทางตรงกันข้าม หากเด็กคนนี้โชคร้าย เพราะความรักที่ได้จากพ่อแม่ไม่เพียงพอ...เด็กเหล่านี้ย่อมต้องการความรักอื่นมาทดแทน
......หากคุณใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นาน 30 ปี แล้วแต่งงานกับคนรัก คุณจะมีเวลารักกับคนรัก ลูก และพ่อแม่ต่อไปอีกนานเท่านาน....แต่หากเด็กวัยรุ่นจากพ่อกับแม่ไปอยู่กับคนรักตั้งแต่อายุ 17-18 ปี เขาเหล่านั้นจะอยู่กับความทุกข์ต่อไปนานแสนนาน
วันนี้ได้มีโอกาสฟังสัมภาษณ์คุณดังตฤณ และมาติดตามอ่านงานของท่านพบข้อความนี้ และก็เห็นว่ามันเป็นความจริงทีเดียว
คนรักจะนำมาให้คุณทั้งสุขทั้งทุกข์ แต่บุญจะนำมาให้คุณแต่ความสุขถ่ายเดียว
หากจะรักใคร...เราควรพิจารณาว่าเรารักคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูเรามากพอหรือยัง รักครอบครัว รักเพื่อนในแบบที่ควรเป็นแล้วหรือยัง นอกจากนี้หากมีคนรักที่ดี และมีบุญเสมอกัน ต้องทั้งให้และรับในความรักอย่างพอดี และดีพอด้วยนะค่ะ
คนรักจะนำมาให้คุณทั้งสุขทั้งทุกข์ แต่บุญจะนำมาให้คุณแต่ความสุข...ดีจังครับ