การจราจรกทม...หาเสียงผู้ว่า


การจราจรกทม...หาเสียงผู้ว่า

หาเสียงผู้ว่ากทม. กำลังเข้มข้น  มีหลายท่านเอานโยบาย “ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน”  ที่ผมเสนอไปใช้ แต่มักใช้ในแนวประชานิยม ที่อะไรๆ ก็ฟรี  (ก็มันหาเสียงง่ายดี)

แต่รู้สึกว่าสิ่งที่ผู้สมัครหาเสียงกันมากที่สุดคือ  การแก้ปัญหาจราจรติดขัด มีผู้สมัตรโนเนม (และท่าทางตลกขบขัน) อีกคนหนึ่งเอาวิธีที่ผมเคยเขียนไว้นานแล้วไปใช้คือ ที่สี่แยกตัดกัน ให้ทางโทห้ามวิ่งตรง หรือ เลี้ยวขวา แต่ถ้าจะตรงให้เลี้ยวซ้าย กลับรถ แล้วซ้าย  ...ถ้าจะขวาก็ให้ซ้าย กลับรถ ซ้าย กลับรถ ซ้าย ...แบบนี้รถจะไปได้ตลอด แต่พูดง่ายแต่ทำยากนะครับ ถ้าออกแบบไม่ดี รถจะยิ่งติดกว่ามีไฟแดงเสียอีก

ที่ผมเสนอมาง่ายๆ แต่ไม่เห็นมีใครเอาไปใช้เลย คือ การตั้งจังหวะไฟจราจรให้มันสอดประสานกัน  (ฝรั่งเรียกว่า timing)  ซึ่งที่ usa เขาใช้มา 50 ปีแล้วกระมัง   แบบนี้รถจะวิ่งได้เร็วขึ้นมาก เช่น ถนนหลักสุขุมวิทย์ รัชดาฯ  อาจวิ่งได้โดยไม่ติดไฟแดงเลย   ส่วนถนนรองก็ timing ตามเท่าที่ทำได้  โดยวิเคราะห์ปริมาณรถประกอบด้วย

อีกเรื่องที่ง่ายๆ มากที่สุดคือ กวดขัดให้รถออกไฟแดงพร้อมกันทั้งขบวน (เป่านกหวีด)     และคันหน้าให้เร่งออกตัวให้เร็วที่สุด คันต่อๆ ไป ก็เร่งตามให้เร็วที่สุด เรื่องนี้เรื่องเดียวผมได้คำนวณแสดงให้เห็นในบทความก่อนๆ แล้วว่าสามารถเพิ่มอัตราไหลรถได้มากถึง ๗ เท่า กว่าปกติที่ออกกันเรื่อยๆ เนือยๆ 

แล้วถ้าเอาไปผนวกับการทำ timing ที่เพิ่มได้อีก  ๕  เท่า มันก็หมายความเราจะเพิ่มอัตราไหลรถได้ ๓๕ เท่า

ว่าไปแล้วเมืองไทยมันทำ timing กันเหมือนกัน แต่ดันไปทำ timing ไฟแดง กล่าวคือ  พอออกจากไฟแดงวิ่งมาด้วยความเร็วปรกติ มาถึงไฟแดงหน้าอีกเพียง ๒๐๐ เมตร ก็ติดไฟแดงพอดี  (แทนที่จะเปิดไฟเขียวพอดี) 

ผมท้ามาหลายครั้งแล้วว่า    จ้างผมไหม  ให้ไปเป็นผอ. แก้ปัญหาจราจร กทม.  โดยให้มีอำนาจเต็มสั่งการได้ทุกอย่าง (ห้ามติดกฎราชการต่างๆมากหลาย)    ผมรับรองจะทำให้ดูภายใน ๑ ปี (อาจไม่เร็ว ๖ เดือนเหมือนทักษิณหรอกนะ) 

ผมของบเพียง  สัก  ๒๐๐ ล้านบาทเท่านั้น    ผมจะทำให้ดู  รับรองไม่มีโกงเด็ดขาด    

งบ ๒๐๐ ล้านนี้ผมนั่งเทียนมาจากไหน จะบอกให้ ผมลองประเมินว่าถ้ากทม. มีไฟแดงสัก ๑๐๐๐ แห่ง  ถ้าผมใช้ระบบสัญญาณอัตโนมัติส่งสัญญาณระหว่างกัน  ด้วยระบบไร้สายผมว่าแต่ละเสาไม่น่าเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท  ดังนั้น ๑๐๐๐ เสาก็เพียง ๑๐๐ ล้านบาทเท่านั้นเอง    ผมขอค่าบริหารจัดการ จ้างนักวิชาการ ที่ปรึกษาอีก ๑๐๐ ล้าน รวมเป็น  ๒๐๐ ล้าน ซึ่งมันขี้ปะติ๋วมาก เพราะกำไรจากการประหยัดน้ำมัน เวลา สุขภาพ โอกาส มันปีละหมื่นล้านเข้าไปแล้ว

ถ้าจะเอาให้ดีจริงๆ  ต้องวิจัยสร้างนวัตกรรม ด้วยการจัดให้มีกล้องวัดอัตราไหลรถ  ซึ่งไม่น่ายากเลย เพราะทุกวันนี้มีกล้องวัดความเร็วรถ (โมชันเซนเซอร์) เราก็วัดสิว่าอัตราไหลเท่าไร เอาข้อมูลหลากหลายสายมาเข้า comp ที่ศูนย์ฯ คำนวณได้เลยว่า เราควรเปิดปิดไฟจราจรที่ไหน เมื่อไร  นานเท่าไร  จึงจะเกิดการไหลแบบ timing มวลรวม ที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้ไม่ยากจากแบบจำลองคณิตศาสตร์       .....  จากนั้นก็ส่งข้อมูลที่คำนวณได้ส่งสัญญาณไปกำหนดไฟจราจรทั้งหลายนั่นแหละ ทั้ง 1000 แห่ง จะสัมพันธ์กันหมด  แต่เราให้น้ำหนักมากที่สีแยกใหญ่ๆ ที่มีการจราจรมากๆ กว่าสี่แยกเล็กๆ   ...  ทั้งนี้ต้องใช้คอมพ์ความเร็วสูงที่สามารถคำนวณข้อมูลได้ทันกาลแบบเวลาจริง (realtime) ซึ่งคอมเดี๋ยวนี้มันถูกมากๆ  เพียงราคาสักล้านเดียวก็น่าจะพอใช้ได้แล้ว

...คนถางทาง (๖ กพ. ๒๕๕๕) 


หมายเลขบันทึก: 518714เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 20:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 20:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยากให้คนที่ได้เป็นผู้ว่าฯมาเชิญอาจารย์ไปช่วยจัดการเรื่องนี้แบบให้อำนาจเต็มจัง (แต่คงจะเป็นฝันไป เพราะไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ คนทำมาหากินบนงบประมาณรัฐท่าจะไม่ปล่อย เพราะไม่งั้นบ้านเมืองเจริญกว่านี้เยอะไปนานแล้ว)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท