เอาปัจฉิมโอวาทที่คุยกับนักศึกษาเทคนิคการแพทย์มาฝากเก็บใน GotoKnow


ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จ ของพวกเราในวันนี้ ถือได้ว่าเราทำภาระกิจสำคัญขั้นหนึ่งในชีวิตสำเร็จไปแล้ว ระยะเวลาสี่ปีที่ใช้ชีวิตนักศึกษา จะว่านานก็นาน จะว่าเร็วก็เร็วนะคะ วิชาความรู้ที่เราได้รับมาจากสี่ปีนี้ก็คือพื้นฐานที่เราสามารถนำไปใช้ในการทำงานต่อไปได้ และที่แน่ๆก็คือความเป็นเพื่อนที่เราใช้ชีวิตร่วมกันมาสี่ปี ก็ขอให้พวกเราพยายามรักษาความเป็นเพื่อนกันเอาไว้ให้ดีๆ  เพราะเราต่างก็เป็นตัวแทนของคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เราต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นกำลังใจให้กันและกัน ที่จะทำชื่อเสียงให้กับคณะว่าบัณฑิตของเรามีคุณภาพ เพราะตอนนี้เราถือเป็นน้องใหม่สถาบันหนึ่งในบรรดาสถาบันที่ผลิตนักเทคนิคการแพทย์ที่มีอยู่หลายแห่ง เพราะฉะนั้นการทำงานของเรา บุคลิกภาพนิสัยใจคอ ความเป็นนักเทคนิคการแพทย์ของเรารุ่น 2 ก็คือสิ่งที่จะแสดงให้ผู้คนได้รู้ว่า เราถูกบ่มเพาะมาอย่างไร ชื่อเสียงของคณะก็จะมาจากการพวกเรานี่เองว่าแสดงศักยภาพได้แค่ไหน รุ่นพี่เราก็ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่า ถึงแม้เราจะเป็นสถาบันน้องใหม่ แต่บัณฑิตของเราก็มีคุณภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ไหนเลย พวกเรารุ่นสองก็ต้องคิดถึงประเด็นนี้เอาไว้และพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีๆให้กับคณะของเราต่อๆไป

สิ่งที่ต้องตระหนักในฐานะนักเทคนิคการแพทย์อีกอย่างหนึ่งก็คือ วิทยาการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานของพวกเรามีวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลา เราต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนติดตามความรู้ในวิชาชีพของเราอยู่เสมอ ใช้เทคโนโลยีของสมัยนี้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะทำงานอะไรต่อไป การเรียนรู้อยู่เสมอเป็นสิ่งที่ควรจะทำให้เป็นนิสัย เพราะจะทำให้เราทำงานอะไรก็ตามได้อย่างมีความหมาย รู้วิธีที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าเราจะทำอะไรต่อไป การเปิดตา เปิดหู เปิดใจ เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างถูกที่ถูกเวลา

นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องเตรียมตัวก็คือ การใช้ชีวิตในสังคมการทำงาน ซึ่งจะไม่เหมือนกับชีวิตนักศึกษา ในการทำงานเราจะได้พบเจอกับผู้คนหลากหลาย ความอ่อนน้อมถ่อมตน มารยาทไทยๆทั้งหลายเป็นคุณสมบัติที่ดี พยายามนำมาใช้ให้ติดเป็นนิสัย จะช่วยให้เราอยู่ได้ในทุกที่ ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าการให้เกียรติผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะทำให้เราได้รับการให้เกียรติเช่นกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ดูถูกผู้ใดทั้งสิ้น อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราเรียนสำเร็จเป็นบัณฑิตแล้วคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น เราจะไม่มีโอกาสได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกเลย ต้องเปิดใจพร้อมที่จะเรียนรู้จากทุกๆคนในทุกๆที่ที่เราไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง อยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครเขม่น มีแต่คนรัก

และสำหรับชีวิตการทำงานต่อไปข้างหน้า สิ่งที่อยากจะฝากพวกเราเอาไว้เพื่อที่เราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข อยู่ที่ไหน พบเจอปัญหาอะไรก็ไม่ท้อ ก็คือการมองทุกอย่างในมุมบวก ไม่มีชีวิตใครที่ราบรื่นตลอดไม่มีปัญหา แต่ปัญหาก็เหมือนทุกอย่างในชีวิต คือไม่อยู่กับที่ ผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป จะช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง ไม่ว่าจะร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเราปรับทัศนคติตัวเอง ให้รู้จักมองในแง่ที่ไม่เป็นผลร้ายกับตัวเอง เราก็จะไม่ท้อแท้ ไม่ขาดกำลังใจ ใช้ปัญหาให้เป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะผ่านปัญหาแบบไหน จะแพ้หรือจะชนะ จะได้หรือเสีย เราก็ต้องพร้อมที่จะเผชิญและเรียนรู้จากมันให้ได้ ซึ่งทัศนคติเหล่านี้ไม่ได้มีมากับตัวเราทุกคน แต่เราสร้างให้ตัวเราเองได้ ไม่มีปัญหาอะไรจะมาบั่นทอนจิตใจของเราได้ ถ้าเรารู้จักปรับมุมมองของตัวเราเองในการมองสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ถ้ามันผ่านไปแล้ว เราต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ มองหาสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้เอาไปใช้ในชีวิตข้างหน้าต่อไป ก็จะไม่มีอะไรที่เกิดแล้วจะมีแต่ผลเสียกับเรา เพราะฉะนั้นมุมมองต่อทุกอย่างที่เราต้องเจอคือสิ่งสำคัญที่สุด

สุดท้ายนี้ สิ่งที่อยากจะฝากพวกเราในฐานะ”ลูกพระบิดา” ซึ่งถือได้ว่า เรามีตราประทับพิเศษ ที่ต้องระลึกไว้เสมอว่า เราต้องถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ยึดมั่นในการทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตเต็มกำลัง เป็นคนดีของสังคม ซึ่งจะเป็นสิ่งที่นำพาชีวิตของพวกเราให้ประสบความสำเร็จในชีวิตอนาคตได้โดยไม่ต้องอาศัยคำอวยพรใดๆ และจะเป็นเกียรติเป็นศรีกับตัวเอง และเป็นพลังดีๆของสังคมโลกต่อๆไป

ขอนำกลอนที่  อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้แต่งไว้จากคำแปลพระดำรัสของพระราชบิดา ที่ตัวเองยังคงจำได้และใช้เป็นจุดหมายในการทำงานมาตลอด ก็คือ

ดำริพระบิดา ดำรัสมาดั่งคำขวัญ

ศึกษาที่สำคัญ มิใช่อยู่ที่รู้ล้น

หากอยู่ที่รู้ใช้ นำรู้ไปให้เกิดผล

ประโยชน์แก่ผู้คน และสังคมตามสมควร.

ปัจฉิมโอวาทสำหรับนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ ม.สงขลานครินทร์

ดร.อโณทัย โภคาธิกรณ์

5 กุมภาพันธ์ 2556
หมายเลขบันทึก: 518630เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 09:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 09:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณบทความและข้อคิดดีๆ ค่ะอาจารย์

ชอบค่ะ ถ้า นศ ทุกคนคิดและทำอย่างที่พี่โอ๋แนะนำ  ประเทศไทยคงเจริญและมีความสุขมากกว่านี้

โชคดีของบัณฑิตรุ่นนี้ที่ได้ฟัง โอ๋สรุป ให้น้องๆได้ยอด บัณฑิตเก่าอ่านแล้ว เอามาคิดต่อยอดได้เยอะเลย 

เป็นปัจฉิมโอวาสที่อาจารย์ไม่ได้สอนเพียงความรู้วิชาการ แต่สอนในการใช้ชีวิต...คาราวะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท