เล่าเรื่องลุงไอติม


อยากเล่าเรื่องนี้ร่วมในกิจกรรมเล่าเรื่องรักที่ท่านอาจารย์จันทวรรณเชิญชวน..เป็นเรื่องที่ประทับใจที่ได้เจอช่วงน้ำท่วมเมื่อปี๒๕๕๔ ..ต้องขอโทษด้วยนะคะที่พิมพ์ติดกันจนไม่น่าอ่าน  แต่อยากให้อ่านดูแล้วคุณจะรักลุงไอติมเหมือนดิฉัน...

ในปี๒๕๕๔ที่ผ่านมาเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่เกือบทั่วทุกพื้นที่ในเขตจังหวัดนนทบุรี สถาบันบำราศนราดูรของเราโชคดีที่ไม่ถูกน้ำท่วมขังแต่เราก็ต้องรับการส่งต่อผู้ป่วยจากรพ.อื่นมารักษาดูแลและมีการใช้พื้นที่บางส่วนในสถาบันไว้รองรับผู้ประสบภัยที่อาจเป็นตัวผู้ป่วยหรือญาติที่ที่พักอาศัยถูกน้ำท่วม..เรื่องของลุงไอติมเป็นผู้ป่วยสูงอายุ(อายุ๗๒ปี)รายหนึ่งที่ฉันได้เจอในช่วงที่พื้นที่จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดใกล้เคียงกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมนั่นเอง....ฉันได้เจอกับลุงไอติมจากการส่งต่อจากตึกสามัญอายุรกรรมเนื่องจากผู้ป่วยไม่ยอมให้ความร่วมมือในการรักษา ลุงถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูง แพทย์ระบุว่าลุงเป็นปอดอักเสบจำเป็นต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่อาการป่วยของลุงไม่ได้หายเร็วอย่างที่ลุงคาดคิดว่านอนพักสักวันสองวันแล้วก็กลับ หากแต่ลุงจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่าหนึ่งสัปดาห์..ลุงไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาลและไม่ยอมรับฟังคำแนะนำ บอกแต่เพียงว่าลุงอยากกลับบ้าน..ลุงจะต้องไปเอาตู้แช่ของที่ติดอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวนิคมบางกระดี จ.ปทุมธานี

ฉันได้รับมอบหมายจากแพทย์ให้มาช่วยค้นหาสาเหตุและกระตุ้นให้ลุงร่วมมือในการรักษา..จากข้อมูลที่ทราบจากพยาบาลประจำตึกว่า เมื่อก่อนลุงแข็งแรงและพูดจาสุภาพมาก พี่พยาบาลเคยเห็นลุงมาเฝ้าป้ามาลี(อายุ๗๘ปี) ภรรยาของลุงที่มานอนรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคเรื้อรังประจำวัยผู้สูงอายุ นั่นคือ เบาหวาน,ความดัน,หัวใจและอัมพฤกษ์ ลุงจะมาเฝ้าป้าในทุกวันตอนเย็นๆและอยู่จนหมดเวลาให้ญาติเยี่ยม..ฉันสังเกตุพบว่าหัวเตียงของลุงไม่ได้มีข้าวของอะไรเลยและมีเพียงหลานสาวอายุเก้าขวบมาอยู่เฝ้าแต่ก็ไม่ได้อยู่ตลอดทั้งวัน

ฉันเข้าไปเยี่ยมลุงที่เตียงพักโดยติดชุดเบทบาธที่ได้รับการสนับสนุนจากงานสังคมสงเคราะห์เอาไปฝากคุณลุง ส่งยิ้มหวานให้ก่อนแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไรและทำงานอยู่ที่บำราศนราดูร พอดีช่วงเวลานั้นฉันเองได้มีโอกาสช่วยคุณรุจิรัตน์นักสังคมฯในการไปเยี่ยมสอบถามความต้องการผู้ป่วยในตึกต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ฉันเลยอาศัยจุดเรื่องงานช่วยสำรวจผู้ป่วยน้ำท่วมมาเป็นจุดเริ่มต้นชวนลุงคุยได้แบบเนียนๆ และก็รู้สึกว่าได้รับความร่วมมือจากลุงค่อนข้างดี..หรือดีกว่าการบอกวัตถุประสงค์ไปตรงว่าจริงๆแล้วอยากมาเกลี้ยกล่อมให้ลุงยอมรักษาตัวอยู่ใน รพ.จนครบสัปดาห์ ซึ่งพอลุงคิดว่าฉันจะมาพูดคุยในประเด็นที่ไม่ขัดแย้งกับความต้องการของคุณลุงแกก็เลยลดการตั้งป้อมในการพูดคุย...เล่าสภาพที่อยู่อาศัย-ความเป็นอยู่และสิ่งที่กังวลใจให้ฟังได้ง่ายขึ้น

จากการพูดคุยกับลุงได้ความว่า บ้านที่อยู่ของลุงอยู่ติดแม่น้ำแถวข้างๆสะพานพระรามห้าฝั่งอำเภอเมือง อยู่ทางด้านหลังโรงเรียนพงษ์สวัสดิ์ ตอนนี้น้ำท่วมเต็มบริเวณพื้นปูนชั้นล่างแล้วเวลาจะออกมาข้างนอกตอนนี้ต้องใช้เรือพายออกมาทางแม่น้ำเอาเรือมาจอดไว้ที่โป๊ะใต้สะพานแล้วเดินลุยน้ำอีกนิดหน่อยมาขึ้นรถเมล์ที่ป้ายหน้าโรงเรียนพงษ์สวัสดิ์ ฉันถามต่อไปอีกว่า”น้ำท่วมอย่างนี้ทำให้ลุงเครียดมากไหม” ลุงบอกลุงทำใจแล้วเพราะบ้านลุงน้ำก็ท่วมเกือบทุกปีอยู่แล้วแต่ปีนี้น้ำมาเยอะไปหน่อย ฉันถามว่าบ้านลุงอยู่กันกี่คน ลุงทำตาเครือๆบอกว่าปกติอยู่กันสองคนลุงกับป้า..ส่วนหลานที่มาเฝ้าเป็นลูกสาวของหลานของป้ามาลีที่บ้านปลูกอยู่ละแวกใกล้ๆกัน.. แม่ของเด็กยังต้องไปทำงานที่โรงงานและช่วงที่ลุงต้องนอนโรงพยาบาลจะไม่มีใครคอยหาข้าวให้ป้ากิน ตอนนี้ก็ขอแรงให้แม่เด็กช่วงกลางคืนมานอนอยู่บ้านช่วยดูป้าแทนลุงไปก่อน...แล้วลุงก็บ่นพึมว่าอยากกลับบ้านเป็นห่วงของห่วงคนในบ้าน ฉันเลยถามด้วยความเป็นห่วงว่า แล้วบ้านที่ลุงและป้าอยู่จะอยู่ได้ไหวไหม ฟังลุงเล่าก็รู้สึกเป็นห่วงป้าคล้ายๆกับลุงเลย..ลุงบอกว่ายังพออยู่ได้เพราะยกพื้นไว้สูงกว่าเมตรแต่ถ้าน้ำมากจริงๆ แถวๆวัดกำแพงยังพอมีบ้านญาติที่เป็นลูกๆหลานๆของป้าที่พอจะไปขออาศัยอยู่ได้

.จากข้อมูลนี้ทำให้ฉันได้ทราบจากลุงเพิ่มเติมว่า ลุงเป็นสามีคนที่สองของป้ามาลี มาอยู่กินด้วยกันเมื่อลุงอายุประมาณสักหกสิบปี..หลังจากสามีของป้ามาลีเสียไปนานนับสิบปี ลุงยังไม่เคยแต่งงานมาก่อนและป้ากับลุงไม่มีลูกด้วยกัน  แต่ป้ามีลูกมาแล้วห้าคนซึ่งเติบโตแยกย้ายกันไปมีครอบครัวกันหมดทุกคนดังนั้นเมื่อป้าเจ็บป่วยหน้าที่ในการดูแลส่วนใหญ่จึงตกเป็นของลุง ป้ามาลีเรียนจบป.๖พออ่านออกเขียนได้และมีรายได้จากการทำบ้านเช่า จำนวน ๕ หลังๆละ๑๕๐๐บาท ส่วนลุงเรียนหนังสือจบป.๔มีอาชีพรับจ้างขายไอติมในโรงเรียนแถวนิคมบางกระดี เพื่อให้มีรายได้ประมาณสามพันกว่าบาทต่อเดือนในทุกวันตอนเช้าลุงจะต้องรีบหุงหาอาหาร,จัดเตรียมยา.ช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้ป้า..ก่อนที่จะรีบออกมารอขึ้นรถสาย๓๓คันแรก ไปขายของที่โรงเรียน.ลุงมีความภูมิใจที่ไม่เคยต้องเบียดเบียนหรือขอเงินทองของใครเลย ฉันเลยชื่นชมว่าลุงนี่เก่งจังก่อนถามถึงระยะเวลาที่ลุงต้องดูแลป้ามาลี ว่า ป้าไม่สบาย,ช่วยเหลือตนเองไม่ค่อยได้มานานเท่าไหร่แล้ว ลุงบอกว่าช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ป้าไม่ค่อยแข็งแรงป่วยต้องมานอนในโรงพยาบาลบ่อยมาก เมื่อก่อนป้ายังแข็งแรงมากกว่านี้ ฉันเลยแกล้งถามแบบเย้าแหย่ว่า ลุงกับป้ามาเจอกันได้ยังไงใครเป็นคนจีบใคร..ลุงดูมีสีหน้าแจ่มใสเมื่อถูกชวนคุยเรื่องอดีตว่า”ลุงเคยมาเช่าบ้านของป้ามาก่อนลุงรู้สึกประทับใจและเห็นใจป้าที่ต้องอดทนทำงานหนักหาเงินเลี้ยงลูกห้าคนมาโดยลำพังไม่มีใครช่วยเลย ลุงมองว่าตัวเองไม่มีห่วงอะไรและยังแข็งแรงเลยอยากที่จะอยู่ดูแลป้า ซึ่งลูกหลานของป้าต่างก็ยอมรับในตัวลุงเพราะว่าลุงเป็นคนขยันและดูแลป้าได้เป็นอย่างดี..ฉันพยายามส่งสายตาชื่นชมและให้กำลังใจขณะรับฟังลุงเล่าถึงการต่อสู้อุปสรรคที่ผ่านมา  ก่อนหยอดยาหอมให้ลุงว่า”ป้านี่โชคดีจังที่มีลุงเป็นคู่ชีวิตและคอยช่วยดูแลยามเจ็บป่วย”ลุงพยักหน้าตอบรับก่อนเปรยเบาๆว่า”ที่จริงป้าเองก็มีลูกหลานผลัดกันมาเยี่ยมเยียน..เค้าไม่ทอดทิ้งป้าหรอกแต่ไม่ค่อยมีเวลาว่างต้องทำงานกันทุกคน ต่างกับผมที่ไม่มีลูกหลาน”  “อืม..แล้วลุงมีญาติสนิทอยู่ที่ไหน จะช่วยตามให้มาเยี่ยมลุงที่นี่ดีไหม”ลุงไอติมบอกว่า มีพี่ชายอยู่คนหนึ่งจำได้ว่าอยู่แถวสระบุรีแต่เสียชีวิตไปนานแล้ว ลูกหลานของพี่ชายก็ไม่เคยไปมาหาสู่กัน เลยไม่อยากไปรบกวน หรือทำให้ใครต้องมาห่วงหรือเดือดร้อน  ฉันเลยแกล้งทำเป็นหมอดูแหย่ลุงว่า”ลุงคงเป็นคนขี้เกรงใจคนอื่นอย่างมากเลยนะคะ แต่ว่าลุงเป็นคนดีและเก่งมากๆเลยนะคะที่ดูแลตนเองและดูแลป้ามาลีที่ป่วยเรื้อรังอย่างดีมาได้ตั้งหลายปีแบบนี้  ลองคิดดูเถอะว่าป้าจะรักลุงและเป็นห่วงลุงขนาดไหน” ลุงพยักหน้ารับฟังและตอบรับว่า”ฮื่อ..ถ้าป้าไม่มีลุงอยู่ดูแลแล้วคงจะแย่กว่านี้แน่ๆ”ฉันเห็นว่าพอเข้าทางเลยแย้งเสียงอ่อยๆว่า” แต่ลุงคะจริงหรือเปล่าที่หนูได้ยินมาว่าลุงถอดใจไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลให้หมอรักษาอีกแล้ว.ทั้งที่อยู่อีกไม่กี่วันลุงก็จะได้รับยาจนครบแล้วจะได้หายได้แข็งแรงสามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้.มันมีอะไรเกิดขึ้นหรือคะเล่าเหตุผลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ”ลุงก็เลยเล่าเหตุผลให้ฟังว่า”ลุงก็รู้ว่าตัวเองยังไม่แข็งแรงแต่ก็เป็นห่วงป้า.เคยคุยเคยเห็นกันทุกวัน..แต่ตอนนี้ลุงมานอนป่วยแบบนี้.ไม่รู้ว่าป้าจะมีใครคอยหาข้าวจัดยาให้กินทุกมื้อหรือเปล่า”ฉันก็เลยถามเจ้าหลานตัวเล็กที่มาเฝ้าว่า ตอนนี้ป้ามาลีมีใครอยู่ดูแลบ้าง เด็กก็เล่าให้ฟังว่ามีแม่ของเด็กกับลูกสาวของป้าอีกคนจะคอยสลับกันมาเยี่ยมและนอนเป็นเพื่อนป้าให้แทนลุง  อย่างเช่นวันนี้ที่ฉันได้เข้าไปคุย..พอดีแม่เด็กออฟเวรโรงงานไม่เปิดเพราะติดน้ำท่วมเลยอยู่บ้านดูแลยาย/ป้ามาลีได้ทั้งวัน.. ฉันเลยขอเบอร์โทรแม่จากเด็กแต่เด็กบอกว่าไม่รู้จำไม่ได้ ฉันก็เลยเขียนเบอร์ของตัวเองใส่กระดาษฝากให้เด็กเอาไปให้แม่ เพื่อที่จะได้นัดพูดคุยปรึกษาเพื่อหาทางช่วยเหลือแก่ลุงและป้า ให้ได้ติดต่อสื่อสารถึงกันได้แม้ว่าจะอยู่คนละที่ก็ตาม  ลุงไอติมดูมีความสุขและยอมรับการอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปอีกวัน ฉันเลยนัดไว้ว่าจะขึ้นมาเยี่ยมลุงอีกในช่วงสายของวันพรุ่งนี้

   ตอนเช้าฉันขึ้นตึกไปเยี่ยมลุงตามนัด พบว่าลุงไอติมก็ตั้งตารอเวลาหลานจะสามารถเดินทางออกจากบ้านมาที่โรงพยาบาล รอสักพักเจ้าตัวเล็กก็กระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับยื่นกระดาษให้ฉันบอกว่าแม่ฝากมาให้ ในกระดาษจดเบอร์โทรเอาไว้ ฉันเลยโทรไปหาเขาบอกเล่าให้ฟังโดยคร่าวว่าว่าเป็นใครและตั้งใจโทรมาติดต่อเรื่องอะไร..ญาติบอกว่า ป้าเองก็บ่นคิดถึงลุงเหมือนกัน ..ฉันเปิดลำโพงในมือถือเพื่อให้ลุงได้ยินเสียงของอีกฝ่ายหนึ่ง ฉันถามญาติที่มาเฝ้าป้าว่า อยากให้ลุงกับป้าได้คุยกันทางโทรศัพท์ ขอให้ญาติใช้วิธีเปิดลำโพงเสียงในมือถือแล้วเอาไปจ่อใกล้ๆป้า

 หลังจากนั้นฉันเข้ามาเชียร์ลุงให้ทดลองคุยกับป้าว่า ลุงอยากพูดหรือถามอะไรป้าให้พูดออกไปได้เลย (ลุงกับป้าไม่เคยมีโทรศัพท์และไม่รู้จักวิธีการใช้) ภาพของลุงไอติมค่อยๆประคองเอาโทรมือถือของฉันมาแนบที่หูและปากของลุงดูเงอะงะเล็กน้อยแต่สายตากลับฉายแววอ่อนโยนและดูมีความสุขเป็นภาพที่ฉันรู้สึกประทับใจ ฉันกระตุ้นอีกเพียงเล็กน้อยลุงไอติมก็เลยพูดไปในโทรศัพท์ว่า” ยาย..แกเป็นยังไง ฉันเป็นห่วง ฉันรักแกนะ”  เราได้ยินเสียงเครือๆตอบกลับมาจากอีกฝ่ายหนึ่งว่า”ขอบใจ ดูแลตัวเองดีๆนะตา อยู่กะคุณหมอก่อนอย่าเพิ่งรีบออกมาเดี๋ยวแกจะไม่หาย”ฉันเลยช่วยถามในสายซ้ำลงไปอีกว่า “คุณลุงเป็นห่วงคุณป้ามากๆ คุณป้าสบายดีนะคะ”ปลายสายตอบว่า”ไม่เป็นอะไร..สบายดี รักษาตัวให้หายก่อนนะ”ด้วยเหตุนี้ลุงจึงอดทนยอมอยู่โรงพยาบาลต่อจนกระทั่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน

  ฉันรู้สึกว่าน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ฉันโชคดีดีจังที่มีโอกาสได้รับรู้ถึงเรื่องราวของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรักและความจริงใจแบบไม่ธรรมดาเลยที่ชื่อว่า”ลุงไอติม”


คำสำคัญ (Tags): #ความรัก
หมายเลขบันทึก: 518601เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2013 23:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2013 23:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท