ค่ายนักศึกษา : ครั้งแรกของค่ายนักศึกษา ความใหม่ที่พกใจเป็นพลังงาน สานฝันให้เป็นจริง (ตอนที่ ๒)


ความหลากหลายทางวัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะนำไปสู่โจทย์ “การเรียนรู้ชุมชน” ได้เป็นอย่างดีในช่วงบ่าย

             หลังจากกิจกรรมแรก (การบูชาศาลเจ้าตามคำแนะนำของชาวบ้านและโดยความเห็นชอบของพวกเรา) เรารวมนักเรียนและนักศึกษาของเราเข้าด้วยกันโดยมีรุ่นพี่ปีสุดท้ายเป็นผู้คุมและเดินเกมทั้งหมด โดยมีผมนั่งประกบคอยดูแลอย่างห่างๆ โดยไม่มีความคิดเห็นหรือเข้าไปเกี่ยวข้องในส่วนของกิจกรรม

              รักษาการผู้อำนวยการให้เกียรติกล่าวต้อนรับให้เป็นพิธีในตอนเช้า ท่านได้เล่าให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์พอสมควร แต่ผมก็เชื่อว่าถึงแม้อาจจะไม่มีใครสนใจเก็บข้อมูลที่ได้ฟังตลอดเรื่องราว แต่ผมก็ยังเชื่อว่ามีข้อมูลบางส่วนที่มีคนเก็บและรับรู้มันไว้ในจิต อย่างน้อยก็เรื่องของผีที่เขาจะต้องใช้ชีวิตในค่ำคืนนี้ และที่ผมจำได้ขึ้นใจมากที่สุดคือความยากจนของเด็กและชุมชนโดยรอบ โรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ต่ำกว่าโรงเรียนอื่น แต่โรงเรียนนี้กลับมีทักษะทางกีฬาที่โดดเด่นไม่แพ้โรงเรียนอื่นๆ กล่าวคืออยู่ในระดับต้นๆ ของกลุ่มโรงเรียนนั้น

                โรงเรียนนี้มีบ้านเรือนตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และที่สำคัญบ้านของนักเรียนบางคน มีจำนวนมากพอสมควรอาศัยอยู่หากจากโรงเรียนในระดับมากกว่า ๒ กิโลเมตร ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าสังคมวัฒนธรรมเขมรที่ไม่นิยมตั้งหมู่บ้านเป็นกลุ่มก้อน มักอาศัยอยู่ตามเรือกสวนไร่นาของตน ความหลากหลายทางวัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะนำไปสู่โจทย์ “การเรียนรู้ชุมชน” ได้เป็นอย่างดีในช่วงบ่ายที่เรามีกิจกรรมดังกล่าว

                 ก่อนที่จะถึงโจทย์การเรียนรู้ชุมชนในตอนบ่าย ผมจะเล่าถึงภาคเช้าให้ได้ทราบ กิจกรรมถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งรุ่นพี่ได้แบ่งคนมาจำนวน ๔-๖ คน เพื่อจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนโดยแยกพี่ส่วนที่เหลือไปดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้อง ซึ่งกิจกรรมถูกออกแบบมาแยกส่วนกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้โต้แย้งหรือขัดความคิดของนักศึกษา เพียงแต่ให้เขาได้แสดงออกถึงพลังความคิดของเข้าเองอย่างเต็มที่ตามกรอบกว้างๆ ของเรา

                  เมื่อเป็นความคิดอ่านของเขาเราต้องเคารพและปล่อยให้เขาดำเนินการต่อไปตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งในบันทึกนี้จะได้นำเสนอกิจกรรมในส่วนของภาคเช้าและกลุ่มที่หนึ่ง ค่ายติวภาษาไทย

                  ในขณะที่นักศึกษาได้ดำเนินกิจกรรมไปตามหน้าที่หรือภาระที่ได้รับมอบหมาย ผมพิจารณาจากสีหน้าและแววตาของผู้ดำเนินกิจกรรมแล้วพอจะทราบได้ว่าอารมณ์และความรู้สึกตอนนี้ ทั้งตื่นเต้น หวาดกลัว อาย คิดอะไรไม่ออก มันมืดหรือตีบตันไปหมด มั่นช่างเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่และหนักหนาพอสมควรสำหรับกลุ่มนี้

                   ผมใช้เวลาพินิจอยู่ห่างในระยะร่วม ๑๐๐ เมตร แต่ก็พอสังเกตเห็นความจริงบางประการ เด็กที่มีสมาธิระดับประถมศึกษา คงไม่สามารถที่จะนั่งฟังเพียงการบรรยายของนักศึกษากลุ่มนี้ได้ เพราะการสอนหรือติวหนังสือของเขานั้นไม้ต่างอะไรเลยกับการนั่งฟังบรรยายในห้องเรียนในมหาวิทยาลัยของเขา เด็กเริ่มคุย เริ่มเล่น เริ่มที่จะไม่สนใจ ผมจึงเดินเข้าไปในระยะที่ใกล้ขึ้น ซึ่งเป็นระยะที่นักศึกษาสามารถประเมินได้ว่าตนเองกำลังเป็นที่จับตามองจากผม แววตาของเขาจึงดูมีความกดดันมาก ในขณะที่กิจกรรมของเขามีเพียงเพื่อน ๑ คนสอนและบรรยายอยู่ที่หน้าห้อง ในขณะที่เพื่อคนอื่นๆ เริ่มถอยและทยอยมานั่งบริเวณหลังห้อง

                   ความไม่มีประสบการณ์จึงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักศึกษากลุ่มนี้ ผมจึงตัดสินใจเข้าไปสอบถามนักศึกษากลุ่มที่นั่งอยู่หลังห้องเรียน ทำให้ทราบคำตอบเกิดจากการที่เขาวางแผนไว้ว่าจะติวแนวข้อสอบวัดอะไรระดับชาติผมชักไม่แน่ใจเพราะมีอยู่มาก เขาได้เตรียมเอกสารมาเป็นที่เรียบร้อย เพียงแต่ว่าแนวที่เอามานั้นเป็นระดับที่สูงกว่าประถมศึกษาซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดทำให้ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมตามแผนได้ ภาพจึงออกมาในลักษณะดังกล่าวคือการสอนโดยขาดทักษะและประการ และที่สำคัญคือไม่ได้เตรียมตัวมาที่จะสอน

                  ผมได้มอบหมายให้หากระดาษหรืออุปกรณ์อะไรก็ตามที่เขามีอยู่ในขณะนั้น ขนออกมาให้หมดและก็ได้มอบหมายให้เข้าทำในสิ่งต่าง ๆ เพื่อรังสรรค์สื่อออกมาภายในเวลาที่จำกัด ผมเข้าไปนำพานักเรียนเล่นและเรียนควบคู่กันไป โดยเริ่มด้วยการร้องเพลงภาษาไทย(เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาไทย) เชื่อมโยงสู่เนื้อเรื่องและการเล่นเกม ทำให้บรรยากาศกลับคึกคักอีกรอบ กิจกรรมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน และแววตาของนักศึกษาที่เปลี่ยนไป ดูแววแห่งความสบายใจและแววแห่งความสุข ความผ่อนคลายเข้ามาแทนที่

                  กิจกรรมของกลุ่มนี้เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณเก้าโมงเช้า จวบจนเวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาได้เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กับลานจัดกิจกรรมของกลุ่มเรา เนื่องจากกิจกรรมของเขาต้องใช้เสียงเนื่องจากการปิดตาคลำทาง โดยมีคนคอยส่งเสียงกำกับเส้นทาง บรรยากาศในห้องเรียนจึงเริ่มกลับไปสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่า ผมจึงสั่งให้งดกิจกรรมการสอนของนักเรียนเพื่อให้ไปดูพี่เขาเล่นกิจกรรม (แค่ดู ซึ่งในใจผมอยากที่จะเห็นกิจกรรมเพียงกลุ่มเดียวคือนักศึกษา+นักเรียน แต่เมื่อเด็กคิดมาแบบนั้นก็ปล่อยให้เขาตามฝัน)

                  แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่านักศึกษาจะได้รับเป็นประสบการณ์ที่ดี เรื่องของการวางแผนและการเตรียมตัว โดยเฉพาะแผนที่เราเรียกว่า “สำรอง” คือความไม่มีประสบการณ์ของนักศึกษาจึงไม่ได้มีการตระเตรียมในสิ่งที่เรียกว่า “สำรอง” เพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น เรื่องของการบริหารจัดการที่ขาดความรอบคอบ ทำให้เสียงรบกวนซึ่งกันและกันทำให้กิจกรรมเป็นอันต้องยุติบทบาทลง

                   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือสิ่งที่ผมมองว่าเป็นการเรียนรู้ ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่จะถูกนำกลับไปสู่การพัฒนาและการปรับปรุงระบบบริหารจัดการและการจัดกิจกรรม ซึ่งหากเขาสามารถเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ได้ก็นับว่าคุ้มค่ากับการจัดค่ายในครั้งนี้แล้ว.....


หมายเลขบันทึก: 517057เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2013 22:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม 2013 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ไปค่ายที่จังหวัดไหนมาครับ

จังหวัดบุรีรัมย์ครับ ชายแดนไทย-เขมรครับ

ความไม่มีประสบการณ์  บางทีก็เป็นต้นทุนที่ดีเอามากๆ เลยทีเดียว
เพราะมันเหมือนกับแก้วน้ำที่ว่างเปล่า  พร้อมเสมอกับการรับการเรียนรู้ใหม่ๆ 
ขอเพียงกล้าลงมือทำ  ปัญญาย่อมเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า  ยิ่งทำต่อเนื่อง  ยิ่งเห็นผลในทางปัญญา
เฉกเช่นกับหลักคิดในทางพุทธศาสนาว่า "ปัญญา เกิดจากการลงมือทำ"  (ปัญญาปฏิบัติ)  นั่นเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท