เมื่อสมัยที่เป็นนักศึกษาฝึกสอน ต้องมีการฝึกปฏิบัติการสอน 1 ภาคเรียน อาจารย์นิเทศก์บอกสอนเสมอว่า ต้องทำความเข้าใจบทเรียนให้ดี เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ผลิตสื่อ คิดสร้างใบความรู้ ใบงาน เครื่องมือการวัดและประเมินผลก่อนการสอน และทดลองสอนโดยจัดหาวิธีการนำเข้าสู่บทเรียนอย่างน่าสนใจ ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามทฤษฎีการสอนทั้งสิ้น ครูอ้อยจดจำได้เสมอว่า ขั้นตอนของการจัดการเรียนรู้นั้นจะต้องมีอะไรเป็นส่วนสำคัญ อะไรเกิดขึ้นก่อนและหลัง และอะไรที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ การใช้คำถามปลุกเร้าให้นักเรียนเกิดความต้องการเรียนรู้ โดยมีพื้นฐานของความแตกต่างความรู้เดิมของนักเรียนแต่ละคน
ส่วนการคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียนนั้น ครูอ้อยเพิ่งจะรับรู้เมื่อได้เป็นครูมาแล้วหลายปี อาจารย์นิเทศก์ของครูอ้อยยังบอกด้วยว่า ครูอ้อยต้องฝึกฝนการสอนให้มากๆ ถึงแม้ว่าจะเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ได้ดีแล้วก็ตาม ต้องอ่านและศึกษาตัวหลักสูตรให้มากๆ เพราะเราไม่ได้สอนหนังสือ เราสอนนักเรียนต่างหาก
ในเมื่อเราสอนนักเรียน นักเรียนก็มีหนังสือ ทำไมเราต้องจัดทำใบความรู้ ทำไมเราต้องมีใบงาน ครูอ้อยยังไม่เข้าใจ จวบจนมาเป็นครู ได้อยู่ในสถานการณ์จริงแล้ว การมีใบงานนั้น เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากในหนังสือที่มีอยู่ และเราต้องการให้นักเรียนได้รู้อะไรเพิ่มเติมอีก การที่ครูต้องชี้ให้ชัดนั้น หมายความว่า แต่ละครั้งที่ครูสอนนั้นจะต้องแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนได้รู้ก่อน ชี้ให้ชัดเจนไปเลยว่า ครูจะต้องวัดผลระหว่างการเรียนรู้ ด้วยวิธีการต่างๆอย่างไร นักเรียนจะได้รู้และเข้าใจบทบาทของตนเองในการเรียนรู้ให้สำเร็จด้วยวิธีการใด
อนึ่งการเข้าถึงความรู้นั้น อาจารย์นิเทศก์เคยบอกว่า ควรจะให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบองค์รวม ทั้งด้านการเรียนรู้ กิจกรรมและการประเมินผล ด้วยกระบวนการเรียนรู้ เช่นกระบวนการกลุ่ม หรือ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจของนักเรียน ให้นักเรียนได้เลือกการเรียนรู้
การนำเสนอสิ่งที่้เรียนรู้ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เสมือนเป็นการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างดี ซึ่งจะต้องมีความจำที่คงทนเพราะผ่านประสบการณ์จากการปฏิบัติจริงในการเรียนรู้ นักเรียนต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ต้องมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในเรื่องของการสื่อสาร ด้านการคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญในการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบัน
ครูหลายคนที่ยังสอนหนังสือ ไม่ได้สร้างทักษะที่พึงประสงค์ให้กับนักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนได้รู้ในเรื่องวิชาการแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นครูที่ต้องชี้ให้ชัด ชวนให้ปฏิบัติ เร้าให้กล้า ปลุกให้สำเร็จ
สวัสดีครับคุณครูอ้อย เห็นด้วยทุกอย่างเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่นักเรียนได้นำเสนอสิ่งที่ได้เรียนรู้หรือได้มีโอกาสนำความรู้ไปสอนคนอื่นนั้นก็ถือว่านักเรียนได้นำความรู้ไปใช้ เป็นความรู้ที่คงทนแล้วครับ
ขอบพระคุณ ท่าน นาย ศิลป์ชัย เทศนา มากๆเลยค่ะ
ฝึกให้นักเรียนกล้าพูดเสนอแนวความคิดเห็นของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ก็เป็นเรื่องที่ดีที่น่าจัดให้นักเรียนนะคะ
สวัสดีค่ะพี่ครูอ้อย
เห็นด้วยค่ะ ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ น่าชื่นชมมากค่ะ
ขอบคุณ Dr. Ple มากๆค่ะ
ขอบคุณ คุณ อ.นุ มากๆค่ะ วันไหนไม่มีคุณ มาให้กำลังใจ บล็อกเหงาๆเลยค่ะ
ขอบพระคุณคุณพี่ใหญ่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ มากๆค่ะ
ขอบคุณ น้อง ถาวร มากๆค่ะ
ขอบคุณ คุณแจ๋ว มากๆๆค่ะ
ขอบคุร คุณ EGA มากๆๆค่ะ
ขอบคุณ น้อง หมูหวาน มากๆค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆๆนะคะ
ขอบคุณน้องโอ๋ โอ๋-อโณ มากๆค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ