ความบกพร่องทางจิตสังคมในวัยผู้ใหญ่ และวัยผู้สูงอายุเกิดขึ้นเนื่องจากไม่ได้รับการรักษา บำบัดฟื้นฟู อาการความบกพร่องในวัยเด็ก และวัยรุ่น หรืออาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือภาวะต่างๆที่ส่งผลต่อสมอง จิตใจ และอารมณ์ของผู้รับบริการ
กิจกรรมบำบัดจิตสังคมในผู้ใหญ่ และสูงอายุ ได้แก่
บทบาท และหลักสำหรับกิจกรรมบำบัด
วิเคราะห์องค์ประกอบ ของผู้รับบริการด้วยกรอบอ้างอิง PEOP ( Person-environment-occupation-performance & participation )
การใช้กิจกรรมภาพฉายทางจิต ให้ผู้รับบริการได้แสดงออกถึงความคิด อารมณ์ ความรู้สึกผ่านกิจกรรม เช่น กิจกรรมปั้นดินเหนียว ผู้รับบริการได้แสดงออกความคิดด้วยการปั้น และได้แสดงความรู้สึกผ่านการอธิบายความเชื่อมโยงของสิ่งที่ปั้นกับผู้รับบริการ นอกจากนี้ผู้รับบริการยังเห็นความสามารถ และผลงานของตนเอง เป็นต้น
ทำ Cognitive behavior therapy (CBT) ให้ผู้รับบริการได้เรียนรู้ความบกพร่อง และวิธีการจัดการด้วยตนเอง เช่น Schizophrenia จะมีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน ผู้รับบริการจะต้องเรียนรู้ และแยกแยะระหว่างความจริง กับจินตนาการให้ออก โดยมีการกินยาที่แพทย์ให้ควบคู่ไปด้วย เป็นต้น
ถ้าผู้รับบริการยังไม่สามารถรับรู้ว่าตนเองมีความบกพร่องต้องใช้วิธี Psychoeducation โน้มน้าวให้ผู้รับบริการได้รับรู้อาการของตน โดยให้เราอธิบายถึงสิ่งที่เขาเป็น และแนะนำวิธีแก้ไขให้ชัดเจน ถูกต้อง
ประเมินความสนใจ บทบาท และความพึงพอใจ เพื่อหากิจกรรมที่จะนำมาเป็นกิจกรรมการรักษา ที่สำคัญกิจกรรมนั้นๆ จะต้องสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการมีส่วนร่วม(participation) และส่งเสริมการทำงาน(work) และอาชีพ(job) จากนั้นนำกิจรรมที่ผ่านการวิเคราะห์ มาจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มร่วมกับผู้อื่นเพื่อส่งเสริมทักษะทางสังคมร่วมด้วย(social skill)
จากนั้นจัดสิ่งแวดล้อมบริเวณที่อยู่อาศัย ให้เหมาะกับในผู้รับบริการแต่ละด้าน เช่น ผู้ป่วย Alzheimer's disease บ้านก็ควรจัดสิ่งของเป็นหมวดหมู่ วางเป็นระเบียบเรียบร้อย และจะต้องมีการแปะกระดาษที่เขียนกิจวัตรประจำวันที่มีหลายขั้นตอนร่วมด้วย เป็นต้น
ผู้สูงอายุ
บทบาท และหลักสำหรับกิจกรรมบำบัด
วิเคราะห์องค์ประกอบ ของผู้รับบริการด้วยกรอบอ้างอิง PEOP ( Person-environment-occupation-performance & participation ) ICF และ Psychospiritual integration FoR ในผู้สูงอายุที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
ประเมินความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวันด้านต่างๆ เช่น กิจวัตรประจำวัน,การทำงาน,การใช้เวลาว่าง การมีส่วนร่วมทางสังคม เป็นต้น และส่งเสริมความสามารถที่ยังคงอยู่และคงสภาพความสามารถนั้นให้ เสื่อมช้าลง รวมถึงป้องกันความสามารถที่เสื่อมแล้ว ให้เสื่อมช้าลงด้วย (Health promotion&Health prevention) รวมถึงการประเมิน ทักษะการปรับตัว ความพึงพอใจ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา
ให้ผู้สูงอายุเรียนรู้ และเข้าใจถึงสภาพการเสื่อมถอยของร่างกาย ความบกพร่องทางจิตสังคมของตน และเตรียมพร้อมการเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต
ให้กิจกรรมการจัดการความเครียด (Coping skill) รับรู้ถึงความล้า ความเจ็บปวดจาการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ รวมถึงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณอายุการทำงาน
ส่งเสริมแรงจูงใจ และกิจกรรมที่ผู้รับบริการสนใจ เพื่อสนับสนุนให้เกิดเป็นกิจกรรมยามว่างให้กับผู้สูงอายุ และอาจจะก่อให้เกิดงานในผู้สูงอายุ เช่น การนำกิจกรรมยามว่างที่มีผลผลิตชิ้นงานส่งขาย หรือ การเป็นอาสาสมัครในหน่วยงานต่างๆ ตามความสามารถ เป็นต้น
การปรับสิ่งแวดล้อม ให้เอื้อต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุที่มีความบกพร่องทางจิตสังคม และหาอุปกรณ์เครื่องช่วยในการเพิ่มโอกาสการทำกิจกรรมอื่นๆเพิ่มเติม
จะเห็นได้ว่าหลัก และบทบาทของนักกิจกรรมบำบัดในผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ จะมีส่วนคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ในผู้ใหญ่จะเน้นกิจกรรมการดำเนินชีวิตที่ส่งเสริมเกี่ยวกับงาน และอาชีพ เพื่อบทบาทในการหาเลี้ยงชีพ และครอบครัว ส่วนผู้สูงอายุจะเน้นการคงสภาพ และป้องกันความเสื่อมทางด้านร่างกาย ที่จะส่งผลถึงสามารถในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังต้องใช้แรงจูงใจเพื่อส่งเสริมกิจกรรมยามว่าง และที่สำคัญผู้สูงอายุจะต้องวางแผนชีวิตหลังเกษียณ การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ไม่มีความเห็น