เสียงจากโลกแคบ : ปรารถนาให้ใครๆ ได้มี "บ้าน" (และกลับบ้าน)


ความฝันที่จะมีบ้านซักหลังนั้น มันง่ายมาก แต่ในความจริงมันยุ่งยากเหลือทน เพราะกว่าจะฝ่ามรสุมทางวัตถุ เก็บกำสมบัติไปปลูกเรือนซักหลังนั้น มันไม่ง่ายดังความฝัน

การได้กลับบ้าน  แม้เป็นห้วงสั้น ๆ ก็ทำให้คนเรามีพลังอย่างเหลือล้น

ผมเชื่อว่าหลายท่าน คิด หรือแม้รู้สึกเช่นเดียวกับที่ผมเกริ่นกล่าวในข้างต้น





(1)


        ล่าสุดวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 มกราคม 2556)  ผมยกพลกลับบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมยามถามข่าวเรื่องราวชีวิตของคนที่นั่น หรือแม้แต่การหวนกลับไปรดน้ำพรวนดิน ให้ปุ๋ยกับต้นกล้าความฝันที่ผมได้ลงมือลงไม้ หว่านเพาะไว้เมื่อไม่นาน

        ครับ, ผมกำลังปลูกบ้านให้กับพ่อและแม่  ปลูกบ้านทั้งที่ยังไม่มีเงินทองใดๆ  

        แต่ก็อย่างว่า  ผมเป็นคนประเภท "ใจนำพา ศรัทธานำทาง"  คิดแล้วต้องลงมือทำ  ทำนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่ทำ  ไม่ทำ ไฉนจะมีโอกาสได้ "เริ่มต้น" ซักที

       เป็นเรื่องมหัศจรรย์ไม่น้อยสำหรับผม   ทันทีที่คิดลงมือลงไม้ปลูกบ้านให้กับพ่อและแม่   ท่ามกลางความว้าวุ่นเรื่องเงินๆ ทองๆ  ผมกลับโชคดีอย่างที่สุด

        ความโชคดีที่ว่านั้น  เกิดขึ้นโดยการที่ชาวบ้านแถวๆ มหาวิทยาลัยฯ นี่แหละที่ขันอาสายกพลไปเป็นเรี่ยวเป็นแรงในการปลูกบ้านให้กับผม

        นี่กระมังครับ "ไม่ใช่ญาติ ก็เหมือนญาติขาดไม่ได้" ....

        ครับ, ก่อนนั้นผมเพ้อบ่นกับตัวเองแบบน้อยเนื้อต่ำใจมาเป็นระยะๆ  ทำอะไรๆ ก็เหมือนไม่เจริญรุ่งเรืองเอาซะเลย  บางครั้งก็ถึงขั้นบ่นเบื่อว่า "ทำคุณคนไม่ขึ้น"  

        แต่พอเอาเข้าจริง  สิ่งที่ผมได้ลงแรงกับ "ชุมชน" นั้นได้หวนกลับคืนให้ผมอย่างมากมายก่ายกอง  หวนกลับราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผมเลยทีเดียว  นับตั้งแต่อุบัติเหตุรถค่ำ ก็ได้ชาวบ้านแถวนี้มาดูแล เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ เอารถมาให้ใช้  มีข้าวปลา พืชผักก็เก็บมาฝาก  มีงานบุญ งานเลี้ยง ก็มารับผมไปร่วมอย่างไม่หล่นหาย  
        ครั้นพอจะปลูกบ้าน ชาวบ้านก็ข้ามจังหวัดไปช่วยเหลือผมอย่างล้นหลาม...

       นี่กระมังครับ  โลกไม่เงียบเหงา เพราะมีคนให้เราได้คิดถึง




(2)


        ครับ นั่นคือเรื่องราวอันเป็นพลังชีวิตที่ผมได้รับคืนจากการงานของผมเอง  ผมได้รับคืนมาในผืนแผ่นดินที่ไม่เป็นอื่น  เพราะมันคือบ้านเกิดเมืองนอนของผม  
        ชาวบ้านบางท่านบอกว่า "ผมทำเพื่อคนอื่น ทำเพื่อบ้านอื่นมาเยอะแล้ว  ถึงคราวที่ใครๆ ต้องคืนให้กับผม..."

        ในเช้าสายและบ่ายของวันเสาร์ที่  5 มกราคม  2556  
         ผมกลับบ้านเพื่อจัดเตรียมสถานที่เล็กๆ รองรับชาวบ้านที่จะไปค้างแรม  เพื่อปลูกบ้านให้กับผม

        บ้านของผม เป็นกระท่อมที่ชาวมหาสารคามหลงรักเป็นที่สุด  ความเรียบง่าย มีพลังอย่างเหลือเชื่อ  
        และความเรียบง่าย ก็หมายถึง ความสง่างามไปในตัว

ผมไม่มีอะไรรับรองเป็นพิเศษ  มีแต่ใจกับใจ...และเชื่อว่าทั้งหลายเหล่านั้น จะเข้าใจ หรือแม้แต่เห็นใจในสิ่งที่ผมเป็น




(3)


         บ้านมักเป็นพลังอย่างมหัศจรรย์  -

         ผมเฝ้ามองเค้าโครงของบ้านที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง  มองเห็นห้องหับเล็กๆ ที่พ่อกับแม่จะได้หลับนอนอย่างสุข     สบายกว่าที่ผ่านมา  มองเห็นเรื่องราวมากมายที่กำลังก่อตัว เบ่งบานขึ้นในอาณาบริเวณแห่งนั้น

         เพียงหลับตาว่ามี "บ้าน" หรือ "ยังมีบ้าน" หรือแม้แต่ "กำลังจะมีบ้าน"   มันก็ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยพลังอย่างมหัศจรรย์

          ครับ, ผมเคยได้พูดในหลายเวทีประมาณว่า  "เราล้วนมีบ้านด้วยกันทั้งนั้น  ทุกสถานที่ๆ   หากเราพำนักอาศัยแล้วรู้สึกมีความสุข  ณ ที่ตรงนั้นก็คือบ้านทั้งนั้น  เราเดินทางไกล ก็ล้วนไปสู่บ้านและคืนกลับสู่บ้าน ..."



          

 หลายคนทักถามกึ่งแย้งว่า  ความฝันที่จะมีบ้านซักหลังนั้น  มันง่ายมาก แต่ในความจริงมันยุ่งยากเหลือทน  เพราะกว่าจะฝ่ามรสุมทางวัตถุ  เก็บกำสมบัติไปปลูกเรือนซักหลังนั้น  มันไม่ง่ายดังความฝัน  

         ครับ- มันไม่ง่ายเลยซักนิด  แต่การเฝ้าฝัน  มันทำให้เรามีจุดหมายปลายทาง
         ฝันแล้วลงมือทำ เป็นเรื่องที่ถูกที่ควร  
         ฝันแล้วลงมือทำในครรลองที่เหมาะสม  เป็นเรื่องน่ายกย่อง  
         หรือแม้แต่จำเป็นต้องกระทำด้วยวิธีอันบิดเบี้ยวไปบ้าง ก็คงต้องทำความเข้าใจและเห็นใจไปตามบริบทของใครแต่ละคน

          แต่ถ้าเราช่วยกันได้ ก็คงต้องฉุดรั้ง  ประคับประคอง  หรือหนุนเสริมให้ไปสู่ครรลองที่เหมาะที่ควร  
          ครับ, รักกัน ดูแลกัน-

แน่นอนครับ  ผมปรารถนาให้ใครสักคน  หรือแม้แต่ทุกคนได้ "มีบ้าน" และ "กลับบ้าน"
เพราะบ้านเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลมหายใจ...

....


หมายเลขบันทึก: 515406เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2013 17:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม 2013 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

บ้านหลังนี้งดงามและยิ่งใหญ่มาก เกิดจากความร่วมมือร่วมใจ น่าภูมิใจจัง

ความดีมีอยู่จริง
หากแต่อาจใช้เวลาเดินทางสักนิด

โปรดเชื่อมั่น

;)...

"เราล้วนมีบ้านด้วยกันทั้งนั้น  ทุกสถานที่ๆ   หากเราพำนักอาศัยแล้วรู้สึกมีความสุข  ณ ที่ตรงนั้นก็คือบ้านทั้งนั้น  เราเดินทางไกล ก็ล้วนไปสู่บ้านและคืนกลับสู่บ้าน ..."

ชอบวลี นี้มาก ครับอาจารย์

ผมถึงมีบันทึก...เป็นตอนๆ ว่า

เราอยู่กันที่นี่...บ้านหลังเดียวกัน

ธรรมชาติบ้านนอกเราดีที่สุด แล้วทำไมเราถึงไม่ได้สัมผัสบ่อยนัก..นะ..นะ..

น่าชื่นชมมาก หากมีคนแบบนี้ครึ่งประเทศก็ยังดี คนที่กตัญญูต่อแม่พ่อ บรรยากาศดูสงบดีนะที่บ้าน เรียบง่ายดี

หมาตัวนั้น ชื่อไร มันไปนั่งเป็นเพื่อนเจ้าของด้วยนะนั่น.555 

คันบ่ลงมือส่าง ซ่างสิมามีเกิดขึ้น

คันบ่มีค่ำคืน หากสิมามียามเซ้า

หากบ่เคยอาศัยเจ้า  เขาซะมาสิให้เพิ่ง

เพราะว่าคุณมีมากแท้  เขาจึงได้มาซอยซู...แท้แล้ว

นี่ไม่ใช่แค่บ้านพัก-มันคือบ้านที่มีความหมายมากกว่าบ้าน? 

เขามีข้างหลังภาพ เราอาจจะมี "เบื้องหลังบ้าน"

ขอบคุณครับ (อยากไปเยี่ยมชมครับ)

ด้วยแรงกตัญญูหนึ่ง..ด้วยทานบารมีที่สะสมไว้หนึ่ง..หล่อหลอมเป็นพลังบุญหนุนนำให้ปลูกบ้านสำเร็จสมจำนงหมายค่ะ..ขอให้กำลังใจ..

มาให้กำลังใจ พี่แก้วทำบ้านให้แม่ ยังอิ่มเอมมาทุกวันนี้

มาเห็นท้องท่งนา  แล้วคิดฮอดบ้านเกิดเหมือนกันนะเนี่ย

อิ อิ..คิดดีมีแต่ได้  นะครับ

ผมส่งจดหมายน้อยมาแล้ว  อย่าลืมเปิดอ่านนะ...คุณแผ่นดิน


เห็นภาพที่อาจารย์บรรยายมาอย่างละเอียด เพราะกำลังจะสร้างบ้านเหมือนกันให้ทั้งบุคคลผู้มีพระคุณและทั้งเพื่อตัวเองในวันข้างหน้า มิใช่้เรื่องง่ายแต่ก็อยากทำสักครั้งหนึ่งของชีวิตนะคะ ท่านอาจารย์

เอาใจช่วยค่ะ

เป้นบ้านที่งดงามมากมายคะ

บ้านคือลมหายใจ..ที่เป็นสุข..ตลอด..เวลา..Happy Ba ค่ะ...ยายธี

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

"ใจนำพา ศรัทธานำทาง"   ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ทุกเมื่อ

ด้วยความนับถือค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท