เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคเครียดหรือไม่
มาต่อค่ะ
เราเป็นโรคเครียดหรือไม่
จริง ๆ แล้วการวินิจฉัยโรคเครียดทำได้ไม่ยาก แต่ปัญหาใหญ่มักอยู่ที่ตัวคนไข้หรือเราเองไม่ค่อยยอมรับว่าเครียด คนไข้โรคเครียดหลายรายที่ปฏิเสธว่าไม่เครียด แต่เมื่อได้คุยกันนาน ๆก็มักจะพบว่ามีความเครียดแฝงอยู่
คนไข้กลุ่มนี้มักมาหาหมอด้วยอาการต่าง ๆ เหล่านี้เช่น มึนงงตลอดวัน ปวดหัวธรรมดาโดยไม่มีไข้ ปวดหัวไมเกรน ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก หรืออาการทางอารมณ์เช่น ทำงานในแต่ละวันด้วยความเซ็ง ไม่อยากกินอาหาร หรือกินมากไป กินตลอดเวลาโดยไม่หิวหรือหิว หงุดหงิด ตื้อ ๆ ฯลฯ
ก่อนอื่นมาดูกันที่สาเหตุของความเครียด และชนิดของโรคเครียด
สาเหตุของความเครียด
ความเครียดสามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลาอาจจะเกิดจาก
สาเหตุภายนอกเช่น การย้ายบ้าน การเปลี่ยนงาน การสอบแข่งขัน ความเจ็บป่วย การหย่าร้าง ภาวะว่างงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อน กับครอบครัวที่เปลี่ยนแปลง อกหักฯลฯ
สาเหตุภายในผู้ป่วยเอง เช่นความต้องการจะได้รับการส่งเสริมเรื่องงาน การเรียน การเงิน ความต้องการเป็นหนึ่ง ความเจ็บป่วย หรือความต้องการเอาชนะ
ความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แต่การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ท้องเสีย มือเท้าเย็น
แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ทำให้เกิดการวางแผนจัดการกับความเครียด หรือนั่นคือ การบริหารเปลี่ยนแปลงของชีวิต หน้าที่ การงาน
ก่อให้เกิดความตื่นเต้น ความท้าทายและความสนุก เช่นเกิดการจัดการ การวางแผนการอ่านหนังสือ การเรียนรู้เพิ่มขึ้นเพื่อการสอบแข่งขัน หรือเกิดการปรับปรุงบุคลิกภาพเพื่อตำแหน่งงานที่สูงขึ้น เพื่อการมองหาคู่รักใหม่หลังการหย่าร้าง เป็นต้น
สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้งผลดีและผลเสีย
ชนิดของความเครียด
Acute stress คือความเครียดที่เกิดขึ้นเฉียบพลันทันที
เกิดขึ้นกระทันหัน ทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันทีเหมือนกันโดยมีการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เมื่อความเครียดหายไปร่างกายก็จะกลับสู่ปกติเหมือนเดิมฮอร์โมนก็จะกลับสู่ปกติ ตัวอย่างความเครียดแบบนี้เช่น ความเครียดต่อ
การสูญเสียบุพการี คู่ครอง คนรัก คนใกล้ชิด
เสียง
อากาศเย็นหรือร้อน
ชุมชนที่คนมากๆ
ความกลัว
ตกใจ
หิวข้าว
อันตราย
Chronic stress หรือความเครียดเรื้อรัง
เป็นความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงออกต่อความเครียดนั้น ซึ่งเมื่อนานวันเข้าความเครียดนั้นก็จะสะสมเป็นความเครียดเรื้อรัง ตัวอย่างความเครียดเรื้อรัง เช่น
ความยากจน
ปัญหาเศรษฐกิจ
ความเครียดที่ทำงาน
ความเครียดที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ความเครียดของแม่บ้าน
ความเหงา
ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
เมื่อมีภาวะกดดันหรือความเครียดร่างกายจะฮอร์โมนที่เรียกว่า cortisol และ adrenaline ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายแข็งแรงและมีพลังงานพร้อมที่จะกระทำเช่นการวิ่งหนีอันตราย การยกของหนีไฟถ้าหากได้กระทำฮอร์โมนนั้นจะถูกใช้ไป ความกดดันหรือความเครียดจะหายไป แต่ความเครียดหรือความกดดันมักจะเกิดขณะที่นั่งทำงาน ขับรถ กลุ่มใจไม่มีเงินค่าเทอมลูก ความเครียดหรือความกดดันไม่สามารถกระทำออกมาได้เกิดโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นสะสมในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการทางกายและทางใจ
ผลเสียต่อสุขภาพ
ความเครียดเป็นสิ่งปกติที่สามารถพบได้ทุกวัน หากความเครียดนั้นเกิดจากความกลัวหรืออันตราย ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจะเตรียมให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อาการทีปรากฏก็เป็นเพียงทางกายเช่นความดันโลหิตสูงใจสั่น แต่สำหรับชีวิตประจำวันจะมีสักกี่คนที่จะทราบว่าเราได้รับความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยง การที่มีความเครียดสะสมเรื้อรังทำให้เกิดอาการทางกาย และทางอารมณ์ พอจะจัดกลุ่มได้ดังนี้ค่ะ
โรคทางกายที่เกิดจากความเครียด
โรคทางเดินอาหาร | โรคปวดศีรษะไมเกรน |
โรคความดันโลหิตสูง | โรคปวดหลัง |
โรคหัวใจ | โรคหลอดเลือดสมอง |
โรคภูมิแพ้ | ติดสุรา |
โรคหอบหืด | ภูมิคุ้มกันต่ำลง |
เป็นหวัดง่าย | อุบัติเหตุขณะทำงาน |
การฆ่าตัวตายและมะเร็ง |
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคเครียดหรือไม่
ถามตัวเราเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่
อาการแสดงทางร่างกาย |
มึนงง ปวดตามกล้ามเนื้อ กัดฟัน ปวดหัว ปวดท้อง แน่นท้อง เบื่ออาหาร นอนหลับยาก ใจสั่นหัวใจเต้นเร็ว หูอื้อ มือเย็น อ่อนเพลีย ท้องร่วง ท้องผูก จุกท้อง มึนงง เสียงดังในหู ตื้อ ๆ คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่อิ่ม |
อาการแสดงทางด้านจิตใจ |
เบื่อหน่าย หดหู่ วิตกกังวล ตัดสินใจไม่ดี ขี้ลืม สมาธิสั้น ไม่มีความคิดริเริ่ม ความจำไม่ดี ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ |
อาการแสดงทางด้านอารมณ์ |
โกรธง่าย วิตกกังวล ร้องไห้ ซึมเศร้า ท้อแท้ หงุดหงิด ซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย นอนไม่หลับ กัดเล็บหรือดึงผมตัวเอง |
อาการแสดงทางพฤติกรรม |
รับประทานอาหารเก่ง ติดบุหรี่ ติดสุรา โผงผาง เปลี่ยนงานบ่อย แยกตัว ซึมเศร้า |
การแก้ไขเมื่ออยู่ในภาวะที่เครียดอาจแก้ไขได้ด้วยตนเอง ปรึกษานักจิตวิทยา หรือเมื่อมีอาการมากต้องพบแพทย์
เมื่อไหร่ที่ความเครียดก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต...
รอต่อกันอีกบันทึกนะคะ
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก นพ. พนม เกตุมาน www.psyclin.co.th ค่ะ)
ขอบคุณความรู้ครับ
อ่านรวมๆ แล้ว คงมีความเครียดบ้างเป็นระยะๆ
ความจริงเครียดเล็กๆ ก็มีผลดีนะคะ เช่นตอนใกล้สอบ หากไม่เครียดเลย ก็จะไม่อ่านหนังสือน่ะสิคะ
สรุปว่าเครียดน้อยๆ มีประโยชน์ และเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดก็แล้วกัน ... : )
ภาพโปรไฟล์ใหม่ของครูธนิตย์ เข้ากันกับลูกศิษย์นะคะ
เด็กดื้อ ว่ากล่าว เตือนแล้วไม่ฟังยังคงแอบใช้โทรศัพท์ใต้โต๊ะเรียน ก็เป็นสาเหตุแห่งความเครียดได้ค่ะ :-)
ที่แน่ ๆ คนเขียนบันทึก กำลังเครียด....สุด ๆ
:-) ventilate ค่ะ
มาให้กำลังใจเจ้าของบันทึกค่ะ..เพิ่งกลับมาจากอ่านอนุทินเกี่ยวกับการทำจิตเป็นสมาธิของน้องหมอภูสุภา..หายเครียดทันใจค่ะ..
เสร็จงานนำเสนอไปหนึ่งงาน ลดความเครียดไปหน่อยค่ะ
ข้อดีที่เราเครียด เราจึงเตรียมค้นคว้าข้อมูลไปไว้ก่อน..ขอบคุณค่ะ
(ขอบคุณความเครียดด้วย)
แต่น้องยังเครียดบ่อย ๆ ค่ะ อิ อิ