ตาดโตน : ให้กำลังใจปีใหม่ตัวเองและสร้างความดีด้วยจิตอาสา


คนเดินเป็นหน้ากระดานมาจึงต้องเสียเวลาในการหลบหลีกซึ่งกันและกัน เมื่อตั้งข้อสังเกตเช่นนั้นก็ลองตรวจคำตอบดูโดยการจัดทัพนักท่องเที่ยวของผมเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งปรากฏว่าเราเดินได้เร็วขึ้น นี้แหละครับคือจิตอาสาในการท่องเที่ยวที่อยากจะเชิญชวนทุกท่านปฏิบัติในขณะอยู่บนทางเดินเล็กๆ

วันนี้เป็นวันดี (๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๕) เราต่างมุ่งหมายที่จะหาของขวัญเพื่อร่วมฉลองปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญสำหรับเพื่อร่วมงาน คนรัก หัวหน้า ลูกน้อง แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้คือการให้กำลังใจตัวเอง ซึ่งเราก็มีความปรารถนาที่จะได้รับของขวัญ (มากกว่าการเป็นผู้ให้) แต่วันนี้ผมได้ทำสองอย่างพร้อมกันคือ ทั้งรับของขวัญจากตัวเอง และให้ของขวัญที่ไร้ค่าที่น่าจะมีความหมายนิดหน่อยแก่ผู้อื่น

  ของขวัญที่ผมเลือกมอบให้กับตนเองวันนี้ และเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ (ขอก่อนแล้วกันพอวันนั้นจะได้พักอยู่บ้าน) คือ การเดินทางไปพักผ่อนที่น้ำตกตาดโตนกับครอบครัวแล แน่นอนครับบรรยากาศของขุนเขาที่ใกล้ป่าธรรมชาติและน้ำตกอันสวย ย่อมทำให้เราได้รับอุ่นไอของความเย็นจากน้ำ น่าเสียดายที่ไม่สามารถเก็บเอาภาพอันประทับใจกลับมาฝากทุกท่านได้ ไม่ใช่ไม่กล้องครับ ผมหอบเอากล้องคู่กายเดินทางติดตัวไปด้วย แต่ปัญหากลับอยู่ที่ว่ากล้องหมดไฟครับ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านั้นประมาณสี่ห้าวันที่ที่ทำงานมีงานเลี้ยงแล้วเอากล้องไปใช้งาน เมื่อใช้เสร็จผมก็ลืมเติมไฟให้กล้อง หลายคนที่พบเห็นผมว่าทำไมถือกล้องแต่ไม่ถ่ายสักที ถ้ามีโอกาสก็เชิญชวนนะครับ

  ก็เป็นเช่นนั้นครับ ผมมีความรู้สึกดีที่ให้ของขวัญแก่บุคคลอื่นๆ ในโอกาสดีปีใหม่ ซึ่งของขวัญที่เราว่า คือ “ของขวัญที่ไร้ค่าแต่น่าจะมีความหมายนิดหน่อยแก่ผู้อื่น” ที่พูดเช่นนี้เพราะของขวัญชิ้นนี้มันไม่มีค่าไม่มีราคาอะไร ไม่ต้องลงทุนและมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร

  ผมเดินลงรถไปพรอมเพื่อร่วมเดินทางอีกประมาณ ๕ คน ผมใช้เวลาในการเดินระยะทางสั้นๆ แต่ใช้เวลานานมาก ผมตั้งข้อสังเกตว่าทางเดินที่มีมีขนาดเล็กประมาณคนสามถึงสี่คนยืนเรียงกันได้ ประกอบกับวันนี้มีคนจำนวนมาก และเวลาตอนนี้บ่ายโมงเริ่มมีทั้งคนเข้าและคนออกสลับกัน

  คำตอบของการล่าช้าของการเดินอยู่ที่การเดินเรียงหน้ากระดานพร้อมกันของผู้คน เมื่อคนเดินเป็นหน้ากระดานมาจึงต้องเสียเวลาในการหลบหลีกซึ่งกันและกัน เมื่อตั้งข้อสังเกตเช่นนั้นก็ลองตรวจคำตอบดูโดยการจัดทัพนักท่องเที่ยวของผมเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งปรากฏว่าเราเดินได้เร็วขึ้น นี้แหละครับคือจิตอาสาในการท่องเที่ยวที่อยากจะเชิญชวนทุกท่านปฏิบัติในขณะอยู่บนทางเดินเล็กๆ คือ การเดินเรียงแถวแทนการเดินแบบหน้ากระดานเพื่อพูดคุยกัน และมีสติทุกขณะที่เดิน หากทำได้อย่างนี้ก็ถือว่าเรามี “จิตอาสา” ที่เป็นของขวัญได้เช่นกัน

  “มีสติทุกขณะที่เดิน” ตรงนี้คือการระลึกอยู่เสมอว่าทางเดินนั้นไม่มีเราอาศัยอยู่คนเดียว เรื่องมีอยู่ว่าในขณะที่เราเดินมาถึงจุดมุ่งหมายแล้วก็นั่งพัก ในระหว่างนั้นเองผมได้สังเกตเห็นบันไดเล็กๆ เมื่อมองมุมดังกล่าวจะได้ภาพที่มีฉากหลังเป็นน้ำตกอันแสนสวย คนต่างก็มารอถ่ายภาพและรอข้ามสะพาน การถ่ายภาพมุมที่สวยๆ ก็ไม่สมควรห้ามครับ แต่สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือการถ่ายภาพที่ถ่ายเสร็จแล้วคนถ่ายเอาให้ผู้ถูกถ่ายดูไม่พอใจก็ลบถ่ายใหม่ ถ่ายแล้วถ่ายอีก ลบแล้วลบอีก แน่นอนว่าคนรอถ่ายก็มาก คนรอข้ามสะพานก็มาก เราควรจัดการของเราให้ดีเพื่อให้กระทบกับผู้อื่นน้อยที่สุด เช่นการถ่ายให้เป็นภาพธรรมชาติ ที่อาจจะมีเพื่อนักท่องเที่ยวอื่นปรากฏบนภาพด้วยก็น่าจะพอได้ หรืออาจจะไม่ได้ภาพที่สุดที่สุดแต่มีภาพสวยก็คงเพียงพอไม่ใช่การลบแล้วลบอีกหรือถ่ายแล้วถ่ายอีก

  เอาเถอะครับ มันก็ไม่ได้ผิดหรือเป็นสิ่งต้องห้ามอะไร เพียงแต่ผมต้องการที่จะแนะนำ “จิตอาสาเล็กๆ” ในการท่องเที่ยวจากสิ่งที่พบเห็นเผื่อท่านอยากจะหยิบยกไปใช้บ้างเท่านั้นเอง เพราะผมบอกแต่ต้นแล้วว่า “มันเป็นของขวัญที่ไร้ค่าที่น่าจะมีความหมายนิดหน่อยแก่ผู้อื่น” เหมาะกับบรรยากาศปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่ครับ


ขอบคุณครับ

หมายเลขบันทึก: 514849เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2013 15:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2013 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างก็มีความสุขกันทั้งสองฝ่าย แต่ในการพัฒนาจิตใต้สำนึกให้เจริญขึ้นนั้น ผู้ให้จะพัฒนาได้ดีกว่า

สวัสดีครับคุณ Ico48เครื่องหมาย ? คำถามเดี่ยว

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผู้ให้พัฒนาได้ดีกว่า

ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท