ข่าวร้ายปีใหม่ (กับดักประเทศไทย...๑..หลุดกรอบเล็ก.ติดกรอบใหญ่)


วันปีใหม่นี้ได้ฟังโททัดช่อง สทท. และ ทีพีบีเอส  (เมื่อไรจะมีตัวย่อเป็นภาษาพ่อแม่เสียทีนะ)  ........ เป็นรายการคุยสัมภาษณ์เรื่องเศรษฐกิจสังคมการเมือง รายการ “ฟันธง”  จาก ดร. สุขุม นวลสกุล  (โดยคุณจอม เพชรประดับ ) และ การสัมภาษณ์ ดร. วีระพงษ์ รามางกูล  ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย โดย  คุณภิญโญ  .... ในรายการ  “ตอบโจทย์” 


ฟังจบแล้ว ดีใจ ที่มีรายการดีๆ มีคุณภาพ เป็นกลางทางการเมือง ที่ทั้งชมและติทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามอย่างสมดุล  แต่ก็อดทำให้คันมือ พิมพ์บทความนี้ขึ้นมาเสียมิได้   เพราะทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในหลายประการ


เห็นว่านักวิชาการระดับสูง  มีอาวุโส  มีความน่าเชื่อถือ  ต่างก็มี “กับดัก”  ทางความคิดที่หลากหลายต่างกัน ทั้งที่รู้ตัว และไม่รู้ตัว  ทำให้แนวคิดที่ออกมาต่างกัน (แม้ในเรื่องเดียวกัน ที่มีข้อมูลเท่ากัน)


บางท่านได้รับการนิยมว่าเป็นคน “คิดนอกกรอบ”  (ซึ่งเจ้าตัวก็ภูมิใจในฉายานี้)  แต่มันหลุดได้แค่กรอบเล็ก แล้วไปติดกรอบใหญ่  โดยเฉพาะกรอบทุนนิยม  และ กรอบวัตถุนิยม 


เช่น ดร. วีระพงษ์ฯ   ดูเหมือนว่าท่านก็ยังติดกับดักกรอบใหญ่ “ทุนนิยม”  เพราะไม่เคยเห็นท่านพูดอะไรที่จะเชื่อมโยงไปสู่ความพอเพียงบ้างเลย เพราะท่านต้องการแต่เพียงให้ประชาชนมีรายได้ดีเท่านั้นเอง (เศรษฐศาสตร์ที่ไร้วิญญาณ)

ว่าไปแล้วแนวคิดท่านมีส่วนคล้ายกับที่ผมได้คิดและเขียนไว้มากแล้ว   เช่น ให้เลิกหารายได้จากการปลูกข้าวราคาถูกขายในตลาดโลกเสียที   แล้วหันมาปลูกข้าวที่มีราคาแพง  เช่น ข้าวหอมมะลิ  ข้าวบาสมาติ  (แต่ผมเสนอให้เลิกปลูกข้าว ไม่ว่าหอมมะลิหรือบาสมาติ แล้วหันมาปลูกป่า จะได้รวยกว่านั้น แม้รวยกว่แต่ผมกลับอ้างว่า พอเพียงกว่าท่านวีระพงษ์เสียอีกด้วยนะ....แบบนี้เข้าข่าย โลภมากอย่างพอเพียง อิอิ) 

ท่านภูมิใจในฉายาที่มีคนตั้งให้ว่า..เป็นคนชอบคิดหลุดกรอบ  แต่ไม่เห็นท่านพูดถึง กรอบการลงทุนจากต่างชาติ  ที่ผมได้เขียนบอกมานานแล้วว่าควรให้เลิกโดยด่วน ไม่งั้นจะสิ้นชาติไม่เกิน ๑๘  ปีจากนี้ไป   (จะ นะ ไม่ใช่ อาจ โปรดอ่านอีกครั้งให้เข้าใจนัยยะแห่งภาษา แบบว่าฟันธงโดยไม่ต้องคะเนน่ะ) 

ไม่เห็นท่านพูดเรื่องเงินกู้สาธารณะที่ตอนนี้ ๔๔.๗ %  ของจีดีพี เข้าไปแล้ว  ...โดยผมน่าเป็นคนแรกในชาติที่บอกมาหลายปีแล้วว่าถ้าจะให้ได้มาตรฐานสากล  ของเรามันต้องคูณสอง  กลายเป็น ๘๙.๔%  ไปแล้ว เลยขีดอันตราย เฉียด กรีซ  ตุรกีเข้าไปมากแล้ว  แต่เราไม่มีอียู คอยช่วยนะ ไอ้โปร์กระโตกมันก็เพียงแค่ ซิตี้เสตท ขี้ปะติ๋วจะมาช่วยอะไรเราได้ นอกจากซื้อหุ้นโทรคมทำกำไรหาเงินแดกด่วนไปวันๆตามประสารถเร่นานาชาติ

คนระดับประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยไม่รู้เรื่องการคิดนอกกรอบแบบที่ว่ามานี้ จนต้องให้คนจบวิศวกรรมเครื่องกลที่ไม่เคยเรียน แม้ econ 101 อย่างผมมาแนะ  ผมว่านี่เป็นวิกฤตสำคัญของชาติประการหนึ่ง  


ส่วน  ดร. สุขุม พูดดีมากในหลายเรื่อง  จุดหนึ่งท่านพูดว่า  ปัญหาประการหนึ่งของประเทศเราคือ การเมืองพัฒนาไม่ทันเศรษฐกิจ  ซึ่งน่ารับฟังมาก

แต่ผมว่า การเมืองมันผิด...เศรษฐกิจเลยเพี้ยน  เสียมากกว่า  โดยเฉพาะการเมืองไทยแบบแดกด่วนที่ไปลอกรูปแบบฝรั่งมาทั้งดุ้นแบบผิดฝาผิดตัว  เลยมั่วกันนัว  แล้วนำพาเศรษฐกิจแดกด่วนเข้ามากินชาติเราด้วยระบบการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติอย่างบ้าคลั่ง เป็นระยะเวลาประมาณ ๔๕ ปีสืบมาจนวันนี้จนวันนี้คนไทยเราเป็นโรคโง่เรื้อรังที่คิดอะไรไม่ออก ได้เป็นแต่ขี้ข้าต่างชาติเท่านั้นเอง  และนี้เป็นกับดักวงใหญ่ที่สุด และร้ายแรงที่สุด ที่ผมได้ชี้ให้เห็นมานานในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาแล้ว  (ผมเชื่อว่าผมเป็นคนแรก และยังอาจเป็นเพียงคนเดียวจนถึงวันนี้ ๑ มค. ๒๕๕๖ ที่ได้เตือนมาด้วยความเครียดและหดหหู่) 


อุบัติการณ์ “ติดกับดัก” ดังกล่าว ที่สะสมกันมานานหลายสิบปี  ทำให้ดิ้นไม่หลุด จากกับดักว่า  การเมืองตามเศรษฐกิจไม่ทัน  เพราะเรามีรายได้จากการเป็นขี้ข้าต่างชาติกันจนมีรถขับกับเต็มประเทศ  จนรถติดแหงกไปไหนไม่ได้...โหย รวยปานนี้   แต่ไฉนคนไทยังขายเสียงเลือกตั้งกันอยู่อีกเล่า 


ตรองดูกันให้ดี  อาจเห็นว่า  การเมืองสะเพร่าต่างหากเล่า ที่นำพาเศรษฐกิจแดกด่วนเข้ามากลืนกินจิตวิญญาณชาติเราได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายปานนี้.....ขนาดที่คนส่วนใหญ่ แม้มีเศรษฐกิจดีแล้ว  มีทีวีดู(ข่าว)  ตู้เย็น  บ้านปูน  ส้วมชักโครก  แต่กลับยอมรับเงินเพียง   ๕๐๐ บาท เพื่อขายเสียงเลือกตั้ง...

....  เพื่อส่ง สส.  ที่ซื้อเสียงเหล่านั้น เข้าไปกำหนดชะตากรรมประเทศชาติ....เพื่อให้ติดกับดักกรอบใหญ่กันแบบจะต้องถูกนายพรานเขาจัึบไปฆ่าแกงกินสักวันเป็นแน่


...........................คนถางทาง (๑ มค. ๒๕๕๖) 

หมายเลขบันทึก: 514787เขียนเมื่อ 1 มกราคม 2013 23:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2013 08:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นั้นน่ะซิครับ

แล้วเมื่อไหร่คนไทยจะคิดได้ ไม่เป็นทาสคนต่างชาติหล่ะครับ

ส่งเสริมเข้าไปครับรถยนต์คันแรก

ช่วงเทศกาลรถติด ถนนไม่พอ...ขนาดรถยังผลิตไม่เสร็จน่ะครับนี้

ยังไม่อยากจะคิดต่อไป......

สวัสดีครับ ท่าน yong   


ที่ผมเขียนว่า "ฟังโททัด" นั้น เป็นตามนั้นนะครับ  เพราะตาผมนั้นดูกระดาษ  เีขียนหนังสือ ส่วนหูก็ฟังโททัดไปพลาง

 สวัสดีปีใหม่ค่ะท่าน

ถามเด็กเก่งๆ ม.6 (admissionมหาวิทยาลัยปี56) อยากเรียนอะไร เด็กตอบว่าจะเรียนที่จบไวๆๆ หาเงินได้เยอะๆ (ฟังแล้วห่อเหี่ยวใจ  ลูกเพื่อน จบ ป.ตรี พ่อแม่ ก็ถอยป้ายแดงให้แล้ว)  งานที่ทำแล้วมีความสุข รายได้พออยู่พอกิน เด็กไม่สนใจแล้ว  อาชีพนักวิชาการ, นักวิทยาศาสตร์ (ทุนประเทศในอนาคต) 

สวัสดีปีใหม่..ขอให้มีความสุขและมีพลังในงาน..สรรค์สร้าง..ความคิด..ตลอดไปเจ้าค่ะ  ยายธี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท