"ฟ้าคราม" อายุ ๑ ขวบ ๖ เดือน


"ฟ้าคราม" อายุ ๑ ขวบ ๖ เดือน

"ฟ้าคราม" อายุ ๑ ขวบ ๖ เดือน

 

 

           เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ย่าพาฟ้าครามและก็ชวนแม่อ้อมไปดูนาข้าวกัน เพราะคราวนี้ ข้าวที่หว่าน พ่อเพรียงไปเป็นทหารเลยไม่ได้มาช่วยน้องอ้อมทำ ต้องปล่อยให้น้องอ้อมทำกับตาไปก่อน...พอดี "พี่นุ่น" มาเล่นกับเจ้าฟ้าครามด้วย ก็เลยต้องหอบไปกันทั้ง ๔ คน...เจ้าฟ้าครามชอบบรรยากาศกลางทุ่งนามาก เวลาปล่อยให้หนูเดินหนูจะเดินได้คล่องแคล่วมาก เหมือนกับคนมีความสุข...

 

 

             พ่อเพรียงบอกว่า ทำนาคราวนี้ พ่อเพรียงยกให้เป็นของเจ้าฟ้าครามหมดเลย...นี่ไง!!! เศรษฐีตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เลยจ้า...

             พัฒนาการของหนูในวัยนี้อายุ ๑ ขวบ ๖ เดือนนี้ หนูเริ่มรู้จักโทรศัพท์ รุ่น i Phone ๔ - ๕ แล้ว และหนูก็ใช้มันเป็นเสียด้วย หนูสามารถแยกแยะออกว่า สิ่งไหนคือ i Pad สิ่งไหนคือ i Phone แล้วหนูก็เล่นมันเป็นเสียด้วย...ทำให้ย่านึกไปด้วยว่า...เด็กรุ่นหนูที่รู้จักอะไรต่อมิอะไรนี่ก็อยู่ที่ ผู้ใหญ่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนที่นำสิ่งต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตหนูได้รู้ ได้สัมผัส จึงทำให้หนูได้รู้จักกับมัน และรู้ว่าจะเล่นอย่างไร ควรสัมผัสหน้าจออย่างไรจะทำให้มันกลับไป กลับมา เปิดตรงไหนที่จะทำให้มีรูปหรือเมนูเกิดขึ้น หนูหนูทุกอย่าง...ผิดกับรุ่นย่าเลยที่กว่าจะรู้จัก Computer ก็ปาอายุเกือบจะ ๓๖ ปีแล้ว แต่นี่ แม่ฟ้าครามอายุยังไม่ถึง ๒ ขวบเลย แต่รู้เกือบทุกเรื่องแล้ว...ร้ายจริง ๆ...เวลาหนูเดินผ่านโต๊ะคอมพิวเตอร์ของย่า หนูจะต้องนำมือของหนูลงมาบนแป้นพิมพ์ แล้วทำอาการพิมพ์เหมือนที่ย่าพิมพ์เร็ว ๆ ทุกครั้ง หนูทำ แล้วหนูก็ยิ้ม ทำให้ย่าแซวหนูว่า โตก่อนเถอะจ้า...ย่าจะให้หนูพิมพ์...หนูก็ได้แต่ยิ้ม...

 

 

            หนูสามารถท่อง ก.ไก่ ถึง ฮ. นกฮูก ได้ทุกตัวแล้ว ซึ่งพยัญชนะไทยมี ๔๔ ตัว หนูท่องได้หมด หนูดูรูปภาพจาก i Pad แล้วหนูก็ท่องตาม เช่น เขาบอกว่า...ก. ไก่ หนูก็จะพูดตามว่า "ไก่" "ไข่" "ขวด" ไปเรื่อย ๆ จนถึง "นกฮูก" หนูพูดตาม ย่าสังเกตว่าหนูไม่มีอาการว่า "เบื่อ" เลย หนูชอบและหนูก็สนุกกับมัน...พออ่าน ก.ไก่ เสร็จแล้ว หนูจะบอกย่าว่า "กบ" นั่นหมายความว่า ให้ย่า เปิดนิทานของ "เจ้าหญิงและเจ้าชายกบด้วย" ซึ่งมีภาษาอังกฤษล้วน หนูชอบฟัง ย่าก็ไม่รู้ว่าหนูฟังรู้หรือไม่รู้กับภาษาอังกฤษ แต่ย่าสังเกตเห็นว่า หนูชอบ และก็ชอบมาก ๆ เสียด้วย หนูจะทำท่าทางแลบลิ้นเหมือนกบ เวลาหนูฟังภาษาอังกฤษที่เขาเล่าเป็นเรื่องนิทาน หนูก็จะตั้งใจฟัง...พอมีภาษาอังกฤษเป็นตัวอักษรปรากฎบนจอ i Pad หนูจะใช้นิ้วสัมผัสเพื่อเลื่อนปุ่มให้ปิดตัวหนังสือเพราะมันบังหน้าจอของภาพ...หนูฉลาดมาก...ย่ากับลุงภัครพูดกันว่า "ทำไมมันช่างรู้ล่ะ อายุเท่านี้เอง"...

 

 

              สำหรับแม่อ้อมเริ่มสอนภาษาอังกฤษ A-Z ให้หนูอ่านบ้างแล้ว แล้วก็สอนให้นับเลข ๑ ถึง ๑๐ ด้วย...หนูก็เริ่มทำได้แล้ว...สำหรับอวัยวะของร่างกาย ย่าถามหนูว่า ตรงไหน ผม หนูก็จับถูก ตรงไหนแก้ม หนูก็จับถูก ตรงไหนเท้า หนูก็ชี้ถูก เรียกว่า ทุกส่วนของร่างกาย หนูรู้หมดแล้ว...ลุงภัครบอกว่า...หนูนี่ช่างฉลาดจริง ๆ...แสดงว่า "จิตหนูดี หนูเลยจำสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วมาก"...

              ขนาดไปโรงพยาบาล หนูจะเดินไป เดินมา บางครั้งก็ขอไปดูปลาที่ว่ายในสระน้ำ ทำให้ย่าต้องพาไป...พยาบาลที่เห็นอาการของหนูจึงถามย่าว่า "น้องเขาอายุเท่าไร พอย่าบอกว่า จะขวบกับ ๖ เดือนอยู่แล้ว พยาบาลบอกว่า น้องเขาเดินได้คล่องแคล่วจริง ๆ เดินเก่งมาก"...ซึ่งย่าก็สังเกตว่า หนูเร็วกว่าลุงภัคร พ่อเพรียงมากเลยแหล่ะ...


 

              มีบางคนบอกว่า ย่าเห่อหลาน...แต่ย่าว่า ย่ามีเหตุผลน่ะ...ย่าบอกว่า "ย่าไม่ได้เห่อ" แต่ย่า "ใส่ใจ" หนูมากกว่า ใส่ใจในทุก ๆ เรื่อง เพราะย่าอยากเห็นเมล็ดพืชเมล็ดนี้ โตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์มากกว่า เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทำเท่าที่ย่าที่เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เฝ้าคอยดูแลหนูจะทำให้หนูซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ได้ ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีไปจากย่า...ใส่แต่สิ่งที่ดี ๆ เพราะโตขึ้นหนูจะได้เป็นเด็กดี คนดีต่อย่า ต่อพ่อ แม่ ลุง และคนรอบข้าง เป็นคนดีต่อสังคม ต่อบ้านเมือง ต่อประเทศชาติมากกว่า

             เพียงหนึ่งเมล็ดพันธุ์นี้ ย่าว่าก็น่าจะดีบ้างสำหรับหนูที่ได้เกิดมาเป็น "คน" คนที่สมบูรณ์แบบ...จะได้สร้างปัญหาให้กับสังคมน้อยที่สุด หรือไม่สร้างปัญหาให้กับคนอื่น ๆ เลย แม้แต่เรื่อง "ความคิด" ก็คิดแต่สิ่งที่ดี ๆ คิดสร้างสรรค์ให้กับคนรอบข้าง ไม่คิดร้ายต่อคนอื่น...สอนเท่าที่ย่าจะสอนหนูได้ ทำเท่าที่แรงและกำลังของย่าที่จะมีแล้วทำให้กับหนูได้รับ ได้เก็บ ได้นำไปใช้ประโยชน์กับตนเองและทำต่อคนอื่นได้...นี่คือ..."การใส่ใจของย่า ที่มีให้กับหนูเจ้าฟ้าคราม หลานของย่าคนนี้"...

 

 

             เท่าที่หนูเกิดมาทุกวันนี้ เพียงปีกว่า ๆ ย่าก็เห็นพัฒนาการของหนูในทางที่สร้างสรรค์มาก ผิดกับเด็กทั่ว ๆ ไป หนูฉลาด ฉลาดทั้งอารมณ์และปัญญา...สมองหนูเร็วมาก หนูจะโต้ตอบย่า หรือคนรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับสีหน้า ท่าทาง แววตาของหนูจะมีแต่ความสุข...หนูจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับย่าเลยเชียวแหล่ะ...

             อาการที่หนูถูกสอนอีกเรื่อง นั่นคือ การไหว้ที่ต้องย่อตัว ก้มหัวด้วย พร้อมกับอาการย่อเข่า หนูจะสามารถทำได้โดยย่าว่า "น้อยคนนักที่เป็นเด็กรุ่นเจ้าจะสามารถทำได้" แต่เจ้าฟ้าครามของย่า สามารถทำได้แล้วทำได้สวยเสียด้วย...ทำให้ใคร ๆ เห็นเข้าก็เกิดนึกเอ็นดูหนู แล้วก็ชมหนูทุกคนว่า "น่ารัก"...อาการแบบนี้ ย่าว่า "เป็นเพราะพฤติกรรมส่วนตัวของหนูเองมากกว่าที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่แม่อ้อม ยาย ย่า บอกให้ทราบภายนอกเท่านั้น"...

 

 

              หนูจะชอบนั่งเล่นกับพี่ ๆ ที่โตกว่าหนู เช่น พี่นุ่น พี่เพียว บางครั้งหนูก็จะชอบนั่งเล่นโดยตักดินใส่ภาชนะ เหมือนเล่นขายของ ย่า ยาย แม่อ้อม ก็จะไม่ว่า ให้หนูรู้จัก คำว่า "ติดดิน" เสียบ้าง เพราะไม่อยากให้หนูโตขึ้นมาแล้วรังเกียจพื้นดิน ย่าจะไม่สอนให้หนูรังเกียจสิ่งนั้น สิ่งนี้ แต่จะบอกเหตุผลว่า มันดีตรงไหน ไม่ดีตรงไหน ให้เหตุผลกับหนู เพราะจะสอนให้หนูโตขึ้นแล้วรู้จักใช้เหตุผลในการพูดคุยกับคนอื่น...

 

 

              เกือบ ๓ สัปดาห์ที่หนูป่วยเป็นหวัด หนูเป็นเด็กที่กินยายากมาก ๆ เพราะอะไรไม่ทราบ พูดดีก็แล้ว ปลอบกันก็แล้ว หนูจะไม่ยอมกินยา ต้องจับกรอกปากกันทุกครั้ง จนแม่อ้อมเบื่อ ทำให้หนูหายขาดจากหวัดช้าลง หนูเลยต้องโดนฉีดยา ๒ เข็ม เพราะ X ray แล้ว หมอบอกว่าหนูเป็นหลอดลมอักเสบ ซึ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนด้วย เพราะเริ่มอากาศเย็นที่พรหมพิราม บ้านอยู่ใกล้ต้นสักทำให้อากาศรอบบ้านเย็นมากแล้วเป็นบ้านไม้ด้วย ทำให้ตอนกลางคืนอากาศเย็นมาก ๆ...ขนาดใช้สลิงฉีดยาสูบยาเพื่อให้หนูกินยา หนูยังไม่กินเลย ต้องบังคับกัน ทำให้ย่าว่า...อาการแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยกับการทำกับหนู เพราะเหมือนกับการขืนใจหนู บังคับหนูมากกว่าที่จะทำให้หนูยินยอมกินด้วยใจของหนูเอง...แต่ก็คงต้องรอให้หนูโตขึ้นอีกนิดหนึ่ง จึงคงต้องพูดกับหนูให้เข้าใจกันใหม่ว่า "ถ้าไม่อยากฉีดยา หนูต้องกินยาแทน หนูถึงจะหายเป็นหวัด"...

 

 

 

 

 

 

 

 

               ช่วงนี้ หนูจะพูดได้มากขึ้น แต่เป็นคำเดียว เช่น การจำคำท้ายที่ย่าหรือแม่อ้อมพูดกัน หนูก็จะพูดตาม...หนูเรียก ย่าว่า "ยา ๆ ๆ" ไม่ใช่ย่า ส่วนแม่อ้อม หนูจะเรียกว่า "แม ๆ ๆ " ไม่ใช่ "แม่" ส่วนคนอื่น ๆ เช่น ปู่ ยาย ตา ลุงภัคร หนูจะเรียกได้ชัดเจน...มีอยู่ ๒ คนนี่แหล่ะ ที่หนูยังเรียกไม่ชัดสักที...พอตอนกลางคืน เวลาจะนอน หนูจะต้องกราบหมอนหรือไหว้พระก่อนนอนทุกคืน เวลาแม่หรือย่า ไม่ทำ หนูก็จะเรียก "ยา ๆ ๆ + แม ๆ ๆ" ให้ลุกขึ้นมาก่อน ให้มากราบพระที่หมอนก่อนถึงจะนอน เมื่อหนูเห็นแม่กับย่าทำแล้ว หนูก็จะทำตาม...นี่เป็นพัฒนาการของหนูในวัย ๑ ขวบ ๖ เดือน

 

 

 

 

             ช่วงที่พ่อเพรียงไม่อยู่ แม่อ้อมก็ยังทำนาไปด้วย เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายให้กับหนู ว่าง ๆ ย่าก็จะชวนแม่อ้อม หนูไปเที่ยวที่นา เพื่อดูต้นข้าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีหนู นกมารบกวนหรือเปล่า ควรหว่านปุ๋ยได้หรือยัง ควรสูบน้ำเข้าอีกหรือเปล่า ต้องคอยดูแลสารพัด...เพราะการทำนา ก็คล้าย ๆ กับการทำงานเหมือนกัน บ้างครั้งก็มีปัญหา อุปสรรค เราเป็นเจ้าของนาก็ควรดูแล และแก้ไขปัญหานั้น ๆ ให้ผ่านพ้นไปให้ได้...

 

หมายเลขบันทึก: 514766เขียนเมื่อ 1 มกราคม 2013 20:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2013 22:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

 

สวัสดีปีใหม่..สุขสดใสด้วยความคิดดีงามค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ พี่นงนาท Ico48

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท