อำมหิต ศิษย์ เมตตา


   การมาเขียนบันทึกครั้งนี้มันก็มาจากหลายเรื่องที่มันเป็นคำถามในใจว่าเรา "อำมหิต"ไหม แล้วก็อีกหลายๆเรื่องที่มันค้างคาในตัวเราอย่างงานศูนย์สงเคราะห์ก็สงสัยตัวเองอยู่ว่าทำไปทำไมวะ เหนื่อยก็เหนื่อยแล้วยังมาถูกคนเอาเปรียบดูถูกอีกมากมายจะมีก็เพียงไม่กี่คนที่คอยประคับประคองก็เช่นหลวงปู่ละหนึ่ง พี่กะปุ๋มละหนึ่ง อย่างรุ่นนี้เองเราพักไปหลายเดือนแบบประมาณว่าไม่ทำสะบายกว่าในหลายคราหลวงปู่ก็จะถามว่าเขาจะเอามาให้อีกเมื่อไร(เขาในที่นี้หมายถึงคุมประพฤติ) เมื่อเจ้าห้น้าที่ประสารงานมาก็บอกว่ามีงบของ อ.บ.จ. แล้วก็เล็งว่าให้มีหนองไคร้ด้วยเราก็ว่าน่าจะได้นะแต่ต้องให้ดูโครงการกันก่อนกระบวนการวิทยากรเราจัดเองนะห้ามก้าวก่ายถ้าได้ก็ตกลงรับของ อ.บ.จ. เวลาผ่านไปก็ได้คำตอบว่าได้ครับของหนองไคร้ตามแต่พระอาจารย์เลยครับ แต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้วมีโครงการของจังหวัดโดยท่านผู้ว่า ก็เลยแจ้งว่าขอเปลี่ยนให้เรารับของจังหวัดแทนแต่คนมากกว่าเราก็ไม่มีปัญหาแต่ก็แค่เงื่อนไขเดิมที่เคยทำกันมาหลายปีแต่ทำไปทำมาก็ขอให้กลับมาเป็น อ.บ.จ.อีกในเวลากระชั้นชิดก็ไม่รู้จะทำไงวางงานไว้เรียบร้อยเกือบหมดแล้วแต่เขายังไม่แจ้งรายละเอียดโครงการมาให้ดูเลยเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคงเหมือนเดิมครับ(นึกในใจเหมือนเดิม อ.บ.จ.มันเอาเปรียบนะเว้ย)

   ซึ่งตามความชอบเอาหน้าของ อ.บ.จ.มันต้องมีพิธีเปิด เปิดก็เปิดไปประเด็นหลักก็แค่เราอยากเจอท่านผู้ว่ากับนายก อ.บ.จ.จะได้เชิญมางานปล่อยปลา แต่เมื่อถึงเวลาถวายค่าใช้จ่ายวัดอื่นท่านจับปัจจัยท่านก็รับแล้วหยิบใส่ย่ามแต่เราไม่รับให้ท่านนายก อ.บ.จ. วางไว้ที่โต๊ะพอพ่อเนียรคนขับรถมารับซองไปเราก็ให้ฉีกเอาเอกสารมาดู ส่วนท่านอื่นท่านนั่งวางท่ากันเฉย(ประมาณว่าได้แล้วเว้ย) เราก็มาอ่านรายละเอียด เป็นไฟเลย ด้วยลักษณะความ "อำมหิต" ที่มีในตัวคือ ลุย เร็ว แรง ต้องรู้เลยถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นเลยมันไงวะนี่ ถามไปถามมาไม่ได้คำตอบพอมาฉันอาหารเราอดแต่เช้าเพื่อมาฉันตอนเพลจะได้ไม่ยุ่งยากคนอื่นเพราะถ้าฉันก่อนอยู่วัดก็ต้องให้คนอื่นเตรียมให้พิเศษ เจ้าหน้าที่ก็ให้เจ้าหน้าที่ อ.บ.จ. มาตอบถามเลย แล้วรายละเอียดอื่นๆละแล้วเรื่องตารางวิทยกรละ เขาก็บอกว่าแล้วแต่ทางวัด ถามต่อทางวัดแล้วแต่ทางวัดจะจัดใช่ไหมก็ตอบแบบไม่อธิบาย ก็เลยเลิกถามแล้วก็ถามกับเจ้าหน้าที่ว่าให้ถามให้ได้คำตอบให้พระอาจารย์นะ ปกติค่าอาหารมันไม่พออยู่แล้วก็ได้ค่าวิทยากรมาเสริมแล้วก็ศรัทธาช่วยเหลือจากทางพี่ปุ๋มมันจึงพออยู่ได้

   กลับถึงวัดคนก็ตามมาแต่คำตอบยังไม่ได้เอาใงวะรับทำก่อนสงสารคน อีกวันเลยโทรถามได้คำตอบว่า อ.บ.จ. จะให้ค่าใช้จ่ายทีละเดือน ส่วนค่าวิทยากรไม่มีครับ ชุดขาวก็ไม่มีครับ อ.บ.จ.ว่าค่าอาหารเยอะแล้ว(45000 บาท 60 วันที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างแล้วให้ทีละครึ่งอีก)เป็นไฟเลยเอาอีกแล้ว ในจะเรื่องส่งตัวมาแล้วไม่มีหนังสือส่งตัว  ส่งตัวมาแล้วมีส่งซ้ำวัดอีกก็ได้คืน พอวันหลังมาส่งเพิ่มก็ไม่แจ้งล่วงหน้า ล่าสุดเลยมาส่งตัวไม่แจ้งล่วงหน้าเราไม่อยู่ก็ไม่โทรแจ้งให้สมาชิกด้วยกันรับไว้ อะไรวะโคตรชุ่ยเลย

   ติดต่อว่ากล่าวตามนิสัยเลย ในเรื่องต่าง ทั้งๆที่เริ่มเป็นศูนย์ระบบวัดได้ก็เพราะว่าเราทำที่หนองไคร้มันทรงตัวอยู่ได้แล้วเขาถึงกล้าไปขยายที่อื่นเป็นผลงานเขาถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนกันแต่มันก็เป็นรูปร่างมาจากเรา ซึ่งที่อื่นๆก็ไม่ได้ระบบ ระเบียบและคุณภาพเท่าเรา แต่ก็กล้าอ้างว่ามีศูนย์วัด ๑๔ ศูนย์ อะไรก็ไม่ดูแลความเรียบร้อยก็ไม่มี แถมไม่ให้ความสำคัญอีกอย่างผู้ช่วยผู้อำนวยการ ก็มาขอประวัติข้อมูลเราไปทำผลงานเอาขันเอาซีจนได้ตำแหน่งผู้ช่วยแต่ก็ยังไม่ดูแลเรา สุดท้ายพูดกับทุกคนที่คุยด้วยทางโทรศัพย์ของเจ้าหน้าทีคุมประพฤติว่าทำอย่างนี้ไม่อยากให้พระอาจารย์และวัดหนองไคร้สงเคราะห์คนกันแล้วใช่ไหมไม่อยากร่วมงานกันแล้วใช่ไหม มารับกลับไปเลยคนนะ เขาก็ขอความเมตตาให้รับก็คิดสักระยะแล้วก็ว่าอย่าทำอย่างนี้กันอีกจะง่ายกับที่ไหนไม่รู้แต่หนองไคร้ระเบียบตกลงกันไว้มันต้องชัดเจนจน(ป่านนี้8วันทะเบียนยังไม่ได้เลย)แล้วถ้าโครงการ อ.บ.จ. ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่คนเดิมแล้วไม่เอารายละเอียดมาให้ดูอีกไม่ต้องมาคุยกันไม่ทำแล้วถ้าส่งมาอย่างนี้แล้วก็มารับกลับไปเลย

  แรงนะแต่เขาก็ยังหน้าด้านเหมือนเคย ก็คงต้องสงเคราะห์ไปแบบตามมีตามปัญญากันไปละ ถ้าหากเปรียบเป็นทหารก็ไม่มีเสบียงสำรองกันละ หลวงปู่ก็พูดเรื่อยให้เขากินให้อิ่มนอนสบายก็จะได้งานจากเขาแล้วเขาก็จะเป็นคนดีขึ้น จะอิ่มได้อย่างไรงบก็น้อยทุนสำรองก็ไม่มี บ้านพักพังก็ไม่มีเงินซ่อมหากใช้ของวัดมากไปคนมันก็จ้องว่าให้อีกเซ็งอีกแล้วหรืออย่างหลายคน ก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำสักเท่าไรแต่พอมีก็ใช้ด้วยช่วยไม่ช่วยแล้วก็ไม่เคารพความคิดกันด้วยมันก็เป็นเรื่องราวต่างๆให้ได้คิด

 มาทบทวนดูแล้วด้วยความที่เป็นคน ลุย - ทำทุกอย่างไม่สนหนักเบาง่ายยาก เร็ว - คิดไวทำไวแก้ไวจบไว แรง - ทำได้ทุกเวลาทุกกาลสถานที่ มันเลยกลายเป็นสิ่งที่คนหลายๆคนอืมในความเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วย ก็จะว่าใงใครบอกให้ไม่ทันเราเองแถมไม่กล้าไม่ใจด้วยแต่กลับไม่ยอมรับกันนะทีนี้มันก็เลยกลายเป็นคน"อำมหิต"หรืออย่างเรื่องราวข้างต้นหากเขายอมรับกระทำตามกันมันก็คงไม่ต้องมามากความกัน

  แต่ส่วนหลวงปู่ก็กลับเย็น เอาอะไรมาให้ก็รับคนดีก็รับคนไม่ดีก็รับเมตตาไปซะหมดเขาอยากได้อะไรก็ให้สอนเขาไปหมดให้ไม่ได้ก็หยุดแต่กลับมีลูกศิษย์ที่แสนจะ "อำมหิตอย่างเราแล้วก็ใช้งานเราในงานสงเคราะห์" จะอย่างไรหากยังได้โอกาศอยู่ก็ทำกันไปละแล้วแต่จะหาโอกาศแก้ปัญหาไป

 ทำด้วยใจ แต่ปากต้องกิน รถต้องเติมน้ำมัน บ้านพังต้องซ่อม กิจกรรมต้องหาอุปกรณ์  ทำไปคนก็เอาเปรียบ

ว้าแย่จัง

หมายเลขบันทึก: 514089เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2012 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม 2012 00:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท