คุณค่าของคนหรือคนที่มีค่า อยู่ตรงไหน หลายคนในรอบตัวเรา มีงานทำแล้วหากแต่คิดว่ามันเป็นงานที่ต่ำต้อย งานที่ไม่มีอนาคต คำถามก็คือทำอย่างไรกับความกังวลตัวนี้
เราลองมาปรับมุมมองแบบกลับทางกันดูหน่อยก็น่าจะทำให้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั้นเปลี่ยนไปก็ได้
อย่างผมนี่ทำงานในการดูแลระบบเครื่องเสียงของหน่วยงานแบบนี้
มีหลายครั้งที่เราไม่เคยตระหนักเลยว่ามันสำคัญเพราะว่าเราทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
คนที่สำคัญมากๆ ก็คือแพทย์และพยาบาล คือคนที่ทำงานหลัก อนาคตของพวกเขาก็สดใส
ก้าวหน้าได้อย่างเต็มกำลัง เป็นใหญ่เป็นโตกันไป
ส่วนเราทำงานในแบบภาระรองของหน่วยงานมันก็ธรรมดานะที่จะต้องว่ากันไปตามเนื้องาน ความก้าวหน้าหรือผลตอบแทนอะไรก็น้อยหน่อย ตรงนี้ก็นำมาซึ่งการทำงานที่ไม่แสดงศักยภาพ ทำงานแบบเนื่อยๆ อะไรทำนองนั้น นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทำงานส่วนใหญ่ เฉกเช่นน้องๆ หลายคนก็สับสนแบบนี้แหละ ทำให้ในแต่ละวินาทีก็มองหาสิ่งที่ดีกว่า เพียรสอบเข้าสู่ตำแหน่งที่ดีๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องดี หากแต่ที่ขาดไปก็คือการเปล่งศักยภาพเพื่อสร้างคุณค่าของตนนั้นเขาไม่ได้ทำ
กลับมาตรงที่เราปรับมุมมองนะครับ
แทนที่เราจะแปรการตอบสนองไปตามสิ่งเร้าดังกล่างข้างต้น ผมกลับพากเพียร
สนอกสนใจทำงานเครื่องเสียงของห้องประชุมให้โดดเด่นแบบมืออาชีพ
ไม่ว่าใครหรือศิลปินคนไหนมาเยือนหรือใช้บริการบนเวทีชุดเครื่องเสียงของเรา
เข้าจะได้รับระบบเครื่องเสียงที่ประทับใจ พัฒนาจนกลายเป็นมือทองด้านเครื่องเสียง
ปรับเสียงให้ไพเราะเสนาะหู จับใจผู้ฟังอย่างมิรู้ลืม
เมื่อทำได้แบบนี้แล้วคุณค่าของเราก็จะมากกว่าคนคนเดิมที่ทำหน้าที่นั้นในแบบเก่าอย่างมากมาย ไปทางไหนก็จะได้รับเกียรติอย่างคนพิเศษด้วยเช่นกัน แบบนี้ก็น่าสนใจใช่หรือเปล่า คีย์ของมันก็คือการทำหน้าที่ของตนเองให้เป็นมืออาชีพ แค่นี้เราก็คือคนที่ทรงคุณค่า กลายเป็นคนสำคัญดั่งที่เรานั้นปรารถนาแล้วล่ะครับ ผมคิดอย่างนั้น
การกลับทิศของมุมมองต่ออุปสรรค์นั้น สร้างความสุขได้มากขึ้น อย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว และนี่ก็คือ สิ่งใหม่ที่คุณจะได้รับ หากทำในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ...และจะมีความสุขตลอดไปนะครับ มั่นใจจังอ่ะ
ที่ว่างตรง คนใหญ่คนโต ยืนนั้นน้อยเหลือเกิน มันคือยอดแหลมของปิรามิด แล้วเรายังจะเป็นทุกข์มากมายไปทำไม ...หากทำได้ ก็ว่ากันไปนะครับ
ขอบคุณบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน และส่งความสุขปีใหม่ ๒๕๕๖ ค่ะ
ภาพจากสายบริหารงานสื่อสารองค์กร SCB