ธาตฺรีว ชนนี ปศฺจาตฺ ตทา โศกสฺย กะ กฺรมะ ๚ ๘ ๚
क्रोडीकरोति प्रथमं यदा जातमनित्यता ।
धात्रीव जननी पश्चात् तदा शोकस्य कः क्रमः ॥
ความไม่เที่ยงกอดเราตั้งแต่แรกเกิดฉันใด
แม่ในภายหลังก็เหมือน(เพียง)แม่นมฉันนั้น
เหตุใดจึงต้องโศกเศร้าเล่า
จากโศลกที่ 8 ในองก์ที่ 4 ของบทละครเรื่อง "นาคานันทะ" รจนาโดยพระเจ้าศรีหรรษะ (श्रीहर्ष) หรือหรรษวรรธนะ (हर्षवर्धन) (ราว พ.ศ. 1133 - 1190) เป็นบทละครอิงพระพุทธศาสนา น่าสนใจมาก
(ขอบคุณภาพจาก http://hmindia.blogspot.com/2008/12/ack-036-nagananda_3557.html)
ข้อความนี้ศังขจูฑะผู้เป็นนาคกล่าวกับมารดา เมื่อนางคร่ำครวญขณะที่ศังขจูฑะเตรียมจะไปให้ครุฑกินเป็นอาหาร ศังขจูฑะบอกว่า สิ่งมีชีวิตเกิดมา (ชาต) ก็พบกับความไม่แน่นอนอยู่แล้ว(เหมือนแม่คนแรก) แม่คือผู้มาหลังจากนั้นจึงเป็นเพียงพี่เลี้ยงหรือแม่คนที่สอง การจะต้องสูญชีวิตไปก็เป็นเรื่องธรรมดา คือกลับไปสู่ความไม่แน่นอนของโลก แม่คนเดิม แล้วเหตุใดจึงจะต้องโศกเศร้า
ความไม่เที่ยงในที่นี้
ท่านใช้ว่า "อนิตฺยตา" ตรงกับศัพท์บาลีว่า อนิจจตา ท่านมักแปลว่า “ความเป็นของไม่เที่ยง”
หรือ "ภาวะที่ไม่เที่ยง" เป็นอาการนาม (อนิตฺย ตรงกับ อนิจจัง เป็นคุณศัพท์ แปลว่า ไม่เที่ยง หรือหมายถึงคำนาม คือ สิ่งที่ไม่เที่ยง)
สำหรับผู้สนใจภาษาสันสกฤต
แยกสนธิ
โศลกนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นข้อความเปรียบเทียบสองประโยคย่อย กับประโยคสุดท้ายเป็นคำถาม
ศัพท์
ข้อสังเกตสำหรับผู้เริ่มเรียน
ประโยคนี้มีกริยาเพียงตัวเดียว
ในประโยคที่สอง ไม่มีกริยา หากจะเติมกริยา “เป็น”
ภวติ, อสฺติ, วรฺตเต, ติษฺฐติ ฯลฯ ประโยคที่มี ยทา.. ตทา.. แบบนี้ ทั้งสองส่วนจะสัมพันธ์กัน
ประโยคที่สาม โศกสฺย กะ กฺรมะ อาจแปลตรงๆ ว่า สาเหตุใดเล่าเป็นของความเศร้า, หรือ ความเศร้ามีสาเหตุจากสิ่งใดเล่า ความหมายคือ เมื่อเป็นเช่นที่กล่าวข้างต้น ก็ไม่เห็นจะต้องเศร้าโศก และไม่มีเหตุจะต้องเศร้า
ข้อความในร้อยกรองมักจะไม่เรียงลำดับประธานไว้ต้นประโยค ไม่เรียงกริยาไว้ท้ายประโยค อย่างในร้อยแก้ว การแปลควรหาประธาน กริยา และกรรม ตามลำดับ จะเข้าใจได้เร็วขึ้น
อีกอย่างหนึ่ง เราอาจแปลได้หลายอย่าง ไม่จำเป็นต้องยึดตามคำแปลข้างต้นก็ได้ ถ้าสอดคล้องกับหลักไวยากรณ์ ก็เป็นอันใช้ได้ การอ่านภาษาสันสกฤตจึงต้องอาศัยการตีความจากความเข้าใจศัพท์ และภูมิหลังความคิดต่างๆ.
สวัสดีค่ะคุณครู
ชอบบันทึกนี้มาก ๆๆๆ
นี่คือสัจพจน์...
"...สิ่งมีชีวิตเกิดมา (ชาต) ก็พบกับความไม่แน่นอนอยู่แล้ว(เหมือนแม่คนแรก) แม่คือผู้มาหลังจากนั้นจึงเป็นเพียงพี่เลี้ยงหรือแม่คนที่สอง การจะต้องสูญชีวิตไปก็เป็นเรื่องธรรมดา คือกลับไปสู่ความไม่แน่นอนของโลก แม่คนเดิม แล้วเหตุใดจึงจะต้องโศกเศร้า..."
ขอบคุณค่ะ :)
ขอบคุณมากครับ ท่านเขียนไว้ประทับใจหลายบท ไว้จะทยอยเอามาเล่าให้ฟังนะครับ ;)
ความไม่เที่ยง ....กอด .... เราตั้งแต่แรกเกิด ..... เป็นสัจธรรมจริงๆๆ นะคะ ท่านอาจารย์
ขอบคุณมากๆ กับ คำเตือน + + บอกกล่าว + กระตุ้นสอน + ตระหนักรู้ .... ประโยคนี้ค่ะ
รออ่านเรื่องเล่าสนุกๆ อีก โดยไม่ค่อยยอมรับรู้กับภาษาสันสกฤตที่ยากๆนะคะ
แต่หากถูกหลอกล่อด้วยเรื่องสนุกๆ บ่อยๆ คงเรียนรู้ซึมซับเรื่องยากๆ ได้บ้าง...ฮาๆๆๆ :)
ขอบคุณครับพี่เปิ้ืล เป็นคำสอนของครูอาจารย์แต่โบราณกาลครับ
คุณหยั่งรากฯ เดี๋ยวจะหาเรื่องสนุกๆ มาหลอกต่อครับ อิๆๆ
มาอ่านและยอมรับว่า ภาษาสันสกฤตยากจังเลย มีความคิดเช่นเดียวกันเปี๊ยบกับน้องโหล คุณหยั่งรากฯ(ซึ่งเดิมไม่มีราก แซวน้องโหล)
กำลังคิดอยู่ว่า อลํ+√กฤ (ตกแต่ง) คือคำว่าอลังการหรือเปล่า เพราะมันก็แปลว่าการตกแต่ง, การประดับ; เครื่องตกแต่ง, เครื่องประดับ แถมยังเคยได้ยินอินเดียพูดว่าอลังการัมในความหมายว่าตกแต่งเทวรูปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ถูกไหมค่ะ
ภาษาสันสกฤตมีรายละเอียดเยอะครับ เลยยากนิดหน่อย ;)
จริงๆ แล้วอลังการแปลว่าตกแต่ง หรือเครื่องปรับดับ ถูกแล้ว, แต่ตอนหลังๆ เรานำมาใช้หมายถึง ใหญ่โตหรูหรา ซึ่งไม่ตรงกับความหมายเดิมนัก