ในคืนวันที่ 19 ก.ย. 2549 ดิฉันได้ติดตามข่าวจนถึงเวลาใกล้ตี 1 ก่อนเข้านอนก็ทราบแล้วว่าวันรุ่งขึ้น (20 ก.ย. 2549) ประกาศเป็นวันหยุดราชการ แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปทำงาน เพราะระยะนี้มีหลายอย่างซึ่งทำไม่ค่อยทันเวลาสักเท่าไร
เวลา 06.00 น. ของเช้าวันที่ 20 ก.ย. 2549 น้องพันนิตาโทรมาถามว่าวันนี้ต้องไปทำงานหรือไม่ เพราะประกาศเป็นวันหยุดราชการ งานของเราก็คิดเหมือนเป็นงานสำนักงานน่าจะหยุด แต่ระยะนี้คุณพันนิตาต้องลงไปช่วยห้องเวชระเบียนรับรองสิทธิ์ผู้ป่วยทุกวัน ดิฉันก็เลยบอกว่าไปดีกว่าเพราะเรามีหน้าที่ให้บริการผู้ป่วยด้วย
พอถึงเวลา 06.30 น. น้องอ้อม (สุดารัตน์) ก็โทรมาถามเหมือนกันว่าเราต้องไปทำงานหรือไม่ บังเอิญช่วงนี้เป็นช่วงที่เราเตรียมงานสอนเรื่องการบริหารความเสี่ยงที่จะสอนเจ้าหน้าที่ของสถาบันเรา 100% ในวันที่ 25 -27 ก.ย. 2549 จึงมีงานเอกสารและจัดทำ Power Point ประกอบการสอนของหมอนุ้ยที่ต้องรีบจัดทำด้วย ดิฉันจึงตอบว่าไปทำดีกว่าจะได้มีเวลาเตรียมให้เรียบร้อย และเราเป็นสถานที่ให้บริการประชาชนเผื่อมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือกันเราจะได้ช่วยคนอื่นด้วย
หลังจากนั้นไม่มีใครโทรมาถามอีก แต่พอถึงเวลาทำงานน้องๆ ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพมาทำงานกันพร้อมเพรียงเหมือนเวลาทำงานปกติ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าน้องๆ โทรถามกันเองว่าจะมาทำงานกันหรือไม่มาดี ในที่สุดน้องๆ ก็สรุปกันว่ามาดีกว่าเพราะเราเป็นโรงพยาบาลเผื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ ไม่รู้ว่าการสื่อสารของดิฉันดี...หรือ...ไม่ดี แต่ก็ดีใจมากที่น้องๆ ของศูนย์พัฒนาคุณภาพทุกคนยินดีมาทำงานด้วยความเต็มใจ ต้องขอบคุณน้องๆ ทุกคนค่ะ
และต้องขอบคุณรวมไปถึงน้องปัทมาวดี (งานประสานงานวิจัย)ด้วยนะคะ ซึ่งก็มาทำงานด้วยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ได้แจ้งดิฉันไว้ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 ก.ย. 2549 แล้วว่าวันที่ 20 ก.ย. 2549 ต้องไปประชุมนอกสถาบันเกี่ยวกับงานวิจัยถึงเที่ยงแล้วค่อยมาประชุมงานแผนของสถาบันต่อในตอนบ่าย แต่ถึงแม้ว่าการประชุมข้างนอกงดไปแล้ว ก็ยังมาทำงานและมาเตรียมการเสนอผลงานและแผนงานของงานประสานงานวิจัยด้วยค่ะ
พิสูจน์ค่านิยมร่วมของเราชาวบำราศ ที่ถือ "ผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง" จริงๆค่ะ