ในอดีตฟาร์มโคนมในรัสเซีย สมัยที่ยังไม่มีตู้เย็น หรือเทคโนโลยีที่เก็บน้ำนมแบบทันสมัย ตอนนั้นมีเกษตรกรเชื่อกันว่าหากปล่อยกบให้ว่ายอยู่ในถังนม แล้วจะช่วยให้น้ำนมบูดเสียช้า หรือเก็บน้ำนมได้นานขึ้น และปฏิบัติต่อๆ กันมาด้วยความเชื่อ
ต่อมาเมื่อวิทยาการก้าวหน้ามากขึ้นก็มี นักชีวเคมีที่สนใจเรื่องนี้แล้วทำการศึกษาวิจัย ก็พบว่า ผิวหนังกบนั้นมีสรรพคุณพิเศษอย่างหนึ่งคือ สามารถผลิตสารต้านแบคทีเรียบางชนิดได้ ซึ่งกบแต่ละสายพันธุ์อาจจะผลิตสารยับยั้งแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ต่างกัน และยังพบว่า กบที่ผ่าตัดรังไข่ออกสามารถรักษาแผลผ่าตัดด้วยตัวมันเอง โดยไม่ติดเชื้อแบคทีเรียใดๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะ
กรณีนี้ทำให้เห็นการเริ่มจาก Tacit Knowledge ที่เป็นภูมิปัญญา แล้วกลายเป็นโจทย์วิจัยต่อมาทำให้ค้นพบวิทยากรใหม่ที่เป็น Explicit Knowledge มากขึ้น
http://www.wwno.org/post/scientists-look-new-drugs-skin-russian-frog
ไม่มีความเห็น