ประสบการณ์วิทยาศาสตร์ปฐมวัย


การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

  เป็นการจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆให้กับเด็กโดยผ่านกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้เพื่อให้เด็กรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคม การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการศึกษาปฐมวัย ครูจึงควรคำนึงถึงความพร้อม ความสนใจและความต้องการของเด็ก เพราะครูเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการจัดประสบการณ์ให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนในชั้นเรียน ดังนั้นการจัดกิจกรรมที่เด็กได้มีโอกาสใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองจากความต้องการ ความสนใจ ความอยากรู้ อยากเห็นเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาเด็กให้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพและตอบสนองความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้เป็นอย่างดี 

 

แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

เรื่อง  การเปลี่ยนแปลงสถานะ

จุดประสงค์   1.  ฝึกการสังเกต สำรวจ การเปรียบเทียบ

     2.  ฝึกการแสดงความคิดเห็น     

       3.  ฝึกทักษะการลงความเห็น     

   4.  ฝึกทักษะในการฟังและการพูด

    5.  ฝึกทักษะการสื่อความหมาย

สาระการเรียน  

   1.  สาระที่ควรเรียนรู้  :  1.  ขั้นตอนการทำไอศกรีม

    2. การเปลี่ยนแปลงสถานะจากน้ำเป็นน้ำแข็ง

  3.  การเปลี่ยนแปลงสถานะจากของแข็งละลายกลายเป็นน้ำ

    4.  การเปลี่ยนแปลงสถานะจากน้ำระเหยกลายเป็นไอ

  2. ประสบการณ์สำคัญ  :  1.   การทดลองทำไอศกรีม

    2.  การสังเกต การสำรวจ การทดลอง การเปรียบเทียบ การตั้งสมมติฐาน

  3. การสื่อความหมายด้วยการจดบันทึกจากคำพูดและคำตอบของเด็ก

การดำเนินกิจกรรม

ขั้นนำ

ขั้นที่ 1  ขั้นกำหนดปัญหา

ครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการทำอาหารและแนะนำเด็กเกี่ยวกับการทดลองทำไอศกรีม พร้อมใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กอยากเรียนรู้ “ เด็กๆลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงซิว่าน้ำหวานเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งได้จริงหรือไม่ หรือของเหลวเป็นของแข็งได้จริงหรือไม่”

ขั้นที่ 2 ขั้นตั้งสมมติฐาน

เด็กๆคาดเดาคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ของปัญหา เช่น  นำน้ำหวานมาใส่แก้วให้เด็กสังเกตลักษณะของน้ำหวานที่เป็นของเหลว ครูกับเด็กช่วยกันเทน้ำหวานจากในแก้วลงในถุงพลาสติกมัดยางให้แน่น แล้วให้เด็กนำถุงพลาสติกมาใส่ลงในกระบะ หรือกระติกที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม โดยใส่เกลือในน้ำแข็งด้วย

ขั้นสอน

ขั้นที่ 3 เก็บรวบรวมข้อมูล

ครูให้เด็กทดลองปฏิบัติหมุนกระบะหรือกระติก และรอเวลาให้น้ำหวานเกิดการแข็งตัว ครูนำไอศกรีมออกมาจากกระบะหรือกระติก ให้เด็กสังเกตการแข็งตัวของน้ำหวาน และร่วมกันสนทนากับเด็กเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง ครูนำไอศกรีมมาวางทิ้งไว้ แล้วสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการละลาย ครูกับเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานะของสารจากของแข็งเป็นของเหลว  ครู :  คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือเมื่อเด็กต้องการ

ขั้นที่  4  ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล

  ครูถามคำถามเพื่อกระตุ้นให้เด็กคิดหาเหตุผลจากกระบวนการทดลอง ดังนี้

1.  อาหารต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงสถานะ (ของแข็ง  ของเหลว แก๊ส ) หรือไม่ อย่างไร

2.  น้ำหวานเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งได้อย่างไร

3.  น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำได้อย่างไร

4.  น้ำระเหยกลายเป็นไอได้อย่างไร

ขั้นสรุป

ขั้นที่  5  ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป

ครูกับเด็กร่วมกันสรุปและอภิปรายการเปลี่ยนแปลงสถานะจากน้ำหวานแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ และน้ำเดือดกลายเป็นไอ โดยเชื่อมโยงจากประสบการณ์เดิมของเด็ก แล้วร่วมกันบันทึกลงในแบบบันทึกข้อมูลจากการทดลองและสังเกตการเปลี่ยนแปลงสถานะของสารโดยครูบันทึกจากคำพูดและคำตอบของเด็ก

ครู : อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่ได้จากการเรียนรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงอาหารจากของแข็งเป็นของเหลวเรียกว่า “ การละลาย ”  การเปลี่ยนแปลงจากของเหลวเป็นแก๊สเรียกว่า “ การระเหย ”  และจากของเหลวเป็นของแข็งเรียกว่า “ การแข็งตัว ”

สื่อและแหล่งเรียนรู้

1)  กระติกน้ำแข็ง หรือกระบะน้ำแข็ง

2)  น้ำหวาน

3)  ถุงพลาสติก

4)  เกลือ

การประเมินผล

สังเกต

1)  ความสนใจและความร่วมมือในการสังเกต สำรวจ และทดลองการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร

2)  การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การแข็งตัว การระเหย การละลาย

3)  การเปรียบเทียบความแตกต่างของน้ำหวานก่อนกลายเป็นน้ำแข็ง และน้ำแข็งระเหยเป็นไอ

4)  การใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการ สังเกต สำรวจ และทดลอง

5)  การพูดและการตอบคำถามของเด็ก

6)  การทำงานร่วมกับผู้อื่น

อ้างอิง :   ประภาพรรณ  สุวรรณสุข. (2538).  การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

คำสำคัญ (Tags): #วิทย์ปฐมวัย
หมายเลขบันทึก: 512420เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2012 20:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2012 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท