The Master

สงครามสร้างคนวิกลจริต

กำกับ : Paul Thomas Anderson

เขียนบท : Paul Thomas Anderson

นำแสดง :  Philip Seymour Hoffman, Joaquin Phoenix, Amy Adams

ความยาว : 144 นาที

ระดับความชอบ : 8/10

ว่ากันว่านี่คือหนังที่จะอยู่บนเวทีการประกวดในปีนี้ เลยต้องไปพิสูจน์เสียหน่อย

หนังเข้าที่โรงภาพยนตร์ในดวงใจ สกาลา

ผู้กำกับคนนี้เคยฝากผลงานจากเรื่อง There Will Be Blood และ Magnolia เคยชมในเรื่องแรก อึดอัดได้ใจทีเดียว

มาในเรื่องนี้เปิดเรื่องปูพื้นสั้นๆ แต่เข้าใจได้ดีเหลือเกิน

ผลผลิตของสงครามคือคนบ้า เพราะคนที่ทำให้เกิดสงครามก็คือคนบ้า!

ลองคิดดูต้องไปจับอาวุธเข่นฆ่าคนที่เราไม่รู้จัก สู้เพื่ออะไรไม่รู้ พอเลิกสงคราม ความทรงจำร้ายๆ ตามมาแน่นอน

หนังเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นชัดเจน ตัวเอกของเรื่องกลับจากสงคราม ความวิปริตในตัวก็ติดตามมา ต้องบอกว่าลุ้นตลอดว่าพระเอกจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรอีกหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องที่เขาขาดแคลนมาในช่วงสงคราม

แล้วเขาก็เจอสำนักที่บำบัดทางจิต คนที่มีความทรงจำเลวร้ายต่างมารักษาที่นี่ รวมถึงพระเอกของเราด้วย

แต่ชีวิตของ The Master ที่เป็นผู้บำบัดจะโรยด้วยกลีบกุหลาบตลอด บางครั้งก็โดนลองภูมิโดยนักวิทยาศาสตร์ บางครั้งก็โดนจับด้วยข้อหาต่างๆ พระเอกของเราก็จะมีบทบาทในทุกเหตุการณ์ บางครั้งทำหน้าที่พิทักษ์ The Master ด้วยความรุนแรง แต่ที่ Peak ที่สุดเห็นจะเป็นฉากโดนจับเข้าคุกพร้อม The Master ที่พระเอกระเบิดอารมณ์ในห้องขังได้ทรงพลังเหลือเกินครับ แกจะได้รางวัลก็เพราะฉากนี้แหละครับ เล่นดีจริงๆ

มีฉากวิ่งหนีในไร่ที่น่าสนใจ เป็นฉาก Long Take หรือเปล่านะ?

เรื่องราวของพระเอกก็มีเรื่องความรักกับเขาเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มาสายเกินไป

ตัวละครอีกตัวที่สำคัญคือ ภรรยาของ The Master ที่คอยปกป้องสามีโดยตลอด เธอฉลาด ช่างสังเกต และใจกล้าที่จะเผชิญหน้ากับพระเอกอย่างตรงไปตรงมา ฉากขอให้เลิกทำน้ำอมฤทธิ์ให้สามีเธอดื่ม เจ๋งจริงๆ ครับ

ตอนท้ายมีการอ่านฉากอัศจรรย์ให้พระเอกทนให้ได้ด้วย

ตอนแรกก็กังขาว่า Amy Adams กับบทนี้จะดูเด็กเกินไปเมื่อเทียบอายุกับ The Master แต่ดูไปเรื่อยๆ ก็พอรับได้ ผมว่าเธอเป็นหลังบ้านของสามีที่ดีเหลือเกินแม้จะเป็นฉากท้ายๆ เธอก็ยังเคียงข้างสามีเสมอ

แล้ว The Master ก็หมดแรงเยียวยาพระเอก จนแยกทางกัน แล้วเจอกันอีกครั้งในตอนท้ายที่เขาถอดใจในการรักษาเขาเสียแล้ว

ปิดท้ายด้วยฉากในสงคราม ตอกย้ำว่าสงครามหล่อหลอมพระเอกให้บ้าสนิทจนเกินเยียวยา

ใครคิดทำสงคราม เขาคืออาชญากรของโลกครับ

มีตัวอย่างให้ดูเยอะมากพอแล้ว อย่าแม้แต่จะคิดเลยครับ

ผมว่าเริ่มจากจุดเล็กๆ ในสังคม ในครอบครัว ลดการทะเลาะเบาะแว้ง ยอมๆ กันบ้าง ก็คงไม่เกิดเรื่อง อย่าโลภมากจนก่อสงครามบังหน้า แล้วคนที่ไปสู่สมรภูมิก็ไม่ใช่คนคิดทำสงครามแต่เป็นทหารหาญที่ต้องทนทรมานทั้งก่อน ระหว่าง และหลังสงคราม

หยุดสงครามเถอะครับ 

ขอความสงบสุขจงมีแก่โลกและแก่เรา

มีความสุขทุกคนครับ