ถาม - การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน ที่บ้าน ที่ทำงาน ในสังคม ไม่ใช่ในสำนักปฏิบัติธรรม ยากไหม?
ตอบ - พรหมวิหารธรรมปฏิบัติได้ในทุกขณะของการดำเนินชีวิต ในประสบการณ์ส่วนตัวของผม ความยากเป็นตามลำดับครับ
๑. เ ม ต ต า ปรารถนาให้เขา-และเราด้วย-มีความสุข น่าจะง่ายสุด โดยแค่นึกอยู่ในใจ (มโนกรรม) ก็ได้ ผู้ได้รับประโยชน์ก่อนใครอื่นคือเราผู้เมตตาเอง เพราะเกิดความสุขในใจตนก่อนเขา
๒. ก รุ ณ า ยากขึ้นเพราะต้องลงมือช่วยเขาด้วยการพูด (วจีกรรม) หรือการกระทำ (กายกรรม) แต่หากลงมือช่วยใครหรือให้อะไรใครโดยหวังผลใดๆ เช่น หวังว่าสอนแล้วเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรม ให้บางอย่างแล้วจะได้อะไรตอบแทน อย่างนี้อาจเป็นการให้ที่นำทุกข์มาให้ได้เช่นกัน เมื่อเขาไม่เปลี่ยน เมื่อเขาไม่ตอบแทน ความกรุณาที่นำสุขมาให้คือ กรุณาอย่างบริสุทธิใจ เขาไม่เปลี่ยนก็เป็นเรื่องของเขา เขาจะขอบคุณหรือไม่ขอบคุณ จะตอบแทนหรือไม่ตอบแทนที่เราให้ก็เรื่องของเขา ความกรุณาอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบจึงนำสุขมาให้ตั้งแต่เมื่อเริ่มทำทันที
๓. มุ ทิ ต า ยากขึ้นอีกกับการชื่นชมยินดีกับการได้ดี(เจริญ)ของเขา แทนที่การอิจฉาตาร้อน ผมเองก็ยังมีแว็บๆ อยู่ แต่จะจับได้ไล่ทันตนมากขึ้นๆ ทุกครั้งที่ทัน ใจก็สงบ
๔. อุ เ บ ก ข า การสามารถปล่อยวางโดยเชื่อว่า สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม (กัมมุนา วัตตี โลโก) ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเองยังพอได้ในระดับความคิดหรือเหตุผล เช่น คิดได้ว่าไม่มีใครสามารถบังคับควบคุมใครหรือโลกให้เป็นไปอย่างใจเราได้ทุกอย่าง (แม้แต่ตัวเราเอง) แต่ในระดับความรู้สึกบางเรื่องก็ยังไปไม่ได้ มันยังหนักอยู่ในใจ อุเบกขาจึงน่าจะยากสุด
ข้อปฏิบัติทั้งสี่นี้เป็นสิ่งที่พยายามฝึกฝนตนเองในชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ โดยมีความเชื่อ(ไม่สงสัยอีก)ว่าผลแห่งการทำดี(กุศลกรรม)นี้จะส่งผลต่อผู้ปฏิบัติเสมอ ตามกฏแห่งกรรม
เชื่อว่าหากเราสามารถปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันได้ทุกที่ สังคมเราคงอยู่อย่างสันติสุขค่ะ