เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง .....
การให้การประเมิน บำบัดและฟื้นฟูในผู้รับบริการอายุ 64 ปี ที่ได้รับการวินิจฉัยโรค Basilar invagination ด้วยอาการของโรค ผู้รับบริการเข้ารับการผ่าตัดที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอระดับที่ 2 จำนวน 4 ครั้ง..
หลังการผ่าตัดครั้งล่าสุด(สิงหาคม 2555) ผู้รับบริการมีร่างกายซีกซ้ายและขวาอ่อนแรง โดยร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรงมากกว่าซีกขวาร่วมกับมีอาการชาบริเวณร่างกายซีกขวา..
ปัญหาที่สำคัญยิ่งของผู้รับบริการนอกจากการทำกิจวัตรประจำวัน การทำกิจกรรมการทำงาน และการรับรู้และประมวลผลความรู้สึก คือ"ปัญหาเรื่องความล้าของกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างขณะทำกิจกรรม" ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต ปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุจากช่วงการเคลื่อนไหวที่จำกัดและการอ่อนแรงของกำลังกล้ามเนื้อที่มือ แขน ไหล่ทั้งสองข้าง ทำให้ผู้รับบริการมีความทนทานของกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างในการทำกิจกรรมนาน 2 นาที..
การบำบัด ฟื้นฟูมีเป้าประสงค์หลักสองเป้าประสงค์คือ
1. เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวและกำลังกล้ามเนื้อของแขน มือ ไหล่ทั้งสองข้าง ตัวอย่างกิจกรรมเช่น กิจกรรมหยิบบล็อกหมากรุกที่ติดกับตีนตุ๊กแกใส่ตะกร้า เป็นต้น ซึ่งเป็นการแก้ที่สาเหตุปัญหาของผู้รับบริการ
2. จัดการความล้าของผู้รับบริการขณะทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต โดยการให้ผู้รับบริการแสดงความสามารถในการจัดการความล้าด้วยตนเอง คือการตระหนักรู้ตนเอง เมื่อเหนื่อยหรือล้า เมื่อตระหนักรู้แล้วผู้รับบริการจะนั่งนิ่งทำสมาธิ หลับตาโดยมีศาสนาเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อหายเหนื่อยหรือล้าแล้ว ผู้รับบริการจะกลับมาเริ่มทำกิจกรรมดังกล่าวอีกครั้ง ในส่วนการทำกิจวัตรประจำวันเช่น การอาบน้ำ การรับประทานอาหาร ได้มีการแนะนำแก่ผู้รับบริการและบุตรของผู้รับบริการในเรื่องการจัดอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อจัดการความล้าที่อาจเกิดขึ้นได้และเป็นการสงวนการสูญเสียพลังงาน เช่น ในการอาบน้ำด้วยการนั่งเก้าอี้และใช้ฟองน้ำถูตัวที่มีสายยืด การรับประทานอาหารโดยใช้ช้อน ส้อมที่เสริมด้ามแและมีแผ่นรองกันลื่นที่จาน เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ เป็นการให้การบำบัด ฟื้นฟูแก่ผู้รับบริการ และสะท้อนการจัดการความล้าของตนเองของนักศึกษา........
เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกปฏิบัติงาน นักศึกษาเริ่มมีสัญญาณของร่างกาย บ่งบอกถึงความเหนื่อยง่าย ล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ และด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฝนตกหนัก ทำให้สุขภาพของนักศึกษามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีนัก
เมื่อสัญญาณดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และมีการจัดการตนเองในด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ร่วมกับการสะท้อนการจัดการความล้าของผู้รับบริการคนดังกล่าว ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้วิธีการจัดการความล้าของผู้รับบริการ การใช้สมาธิในการตระหนักรู้ตนเอง ตั้งสติอยู่ในความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตต่อไป
... ทำให้ได้ข้อคิดที่ว่า การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และผู้รับบริการเป็นอาจารย์ที่สำคัญยิ่งที่ไม่เพียงให้ความรู้ในด้านกิจกรรมบำบัด แต่ยังให้ความรู้ในด้านการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขอีกด้วย...
ไม่มีความเห็น