Tablet เพื่อการศึกษา
ถ้าเปรียบเทียบสมัยก่อนกับสมัยนี้แล้ว สำหรับการศึกษาไทยมีความแตกต่างกันอย่างริบลับ เมื่อ ๔๐ กว่าปีที่แล้ว ผู้เขียนซึ่งเป็นย่าของเจ้าฟ้าคราม เรียนรู้ได้จากกระดานชนวนที่คุณครูได้หาความรู้มาสอนเพื่อให้ย่าได้มีความรู้ พร้อม ๆ กับฝึกให้ย่าเป็นต้นแบบในการเป็นครูเขียนนำเพื่อน ๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วให้เพื่อน ๆ ลอกข้อความที่ย่าได้เขียนบนกระดานชนวนตาม เมื่อเขียนนำเพื่อน ๆ เสร็จแล้ว ย่าก็จะต้องมานั่งลอกข้อความนั้นลงบนสมุดของย่าเอง...สำหรับความรู้นั้นไม่ต้องพูดถึง จะได้เฉพาะที่คุณครูนำมาบอกหรือก็อยู่ในหนังสือเท่านั้น ย่าไม่สามารถรู้ไปมากกว่านี้
หนังสือ ก.ไก่ สมัยก่อน ก็มีท่องภายในหนังสือ ก. ไก่ รู้เท่าที่เห็นในหนังสือเท่านั้น เรียกว่า "เห็นและรู้เรื่องอักษรไทยภายในกรอบ" แตกต่างกับสมัยนี้ บทเรียน ก. ไก่ มีใน Tablet ที่มีมากมายหลายโปรแกรมที่เด็ก ๆ จะได้ศึกษาหาความรู้ สำหรับเจ้าฟ้าคราม เด็กน้อยวัย ๑ ขวบ ๔ เดือน เริ่มเรียนรู้อักษรไทยจาก Tablet พร้อม ๆ กับหนังสือ ก.ไก่ ที่ย่าได้ซื้อให้ได้เห็น ได้ศึกษา...สิ่งที่เห็นว่าเด็กในวัยนี้ทำได้ นั่นคือ...เจ้าฟ้าครามจะทำท่าทางด้วยการสัมผัสไปที่หน้าจอ เพราะหนูรู้ว่า ipad นี้ หนูต้องใช้นิ้วสัมผัสเท่านั้น หนูทำอาการดังกล่าว...จนย่าแปลกใจว่า ทำไมวัยเพียงแค่ขวบเศษ ๆ หนูจึงรู้ว่า ipad หรือ Tablet ที่ย่าซื้อให้หนูไว้ศึกษานั้น หนูจะต้องทำกิริยาดังกล่าว อีกกริยาหนึ่งที่หนูจะทำ นั่นคือ การที่หนูใช้ปลายนิ้วเพื่อสัมผัสให้มันเลื่อนไปหน้าต่อไป หรือถ้าหนูต้องการให้มันย้อนกลับ หนูก็จะทำปลายนิ้ว Slide เพื่อกลับ หนูทำลักษณะอาการเหมือนคนคุ้นเคยกับ ipad เหมือนหนูเคยได้ศึกษากับมันมาแล้ว ทำให้ย่าอดที่จะแปลกใจไม่ได้...
หนูทราบว่า ถ้าหนูใช้ปลายนิ้วจี้ไปที่ตัวอักษร ก ไก่ จะมีเสียงอ่านออกมาว่า ก.ไก่ แล้วถ้าหนูจี้ไปที่รูปภาพของไก่ มันจะมีเสียงร้องของไก่ หนูรู้แม้แต่ถ้าต้องการจะไปตัวอักษรต่อไป หนูจะต้องไปที่ตัวเลื่อนสามเหลี่ยมด้านขวา บางครั้งหนูต้องการกลับ หนูก็จะใช้นิ้ว Slide ไปที่สามเหลี่ยมด้านซ้าย...หรือนี่...เป็นโลกของหนูโดยเฉพาะเจ้าฟ้าคราม บางคราวที่ตัวอักษรมันเล็ก หนูก็จะใช้มือกระจายเพื่อให้มันขยายภาพกว้างขึ้น เมื่อกว้างเกินไป หนูก็จะใช้นิ้วมือขยุ้มเพื่อให้มันแคบลง...อายุเท่านี้ ทำให้ย่าอดนึกขำอาการของหนูเองไม่ได้...
การที่หนูทำอาการดังกล่าว...หนูได้นำไปสอนตาทวด ซึ่งอายุ ๗๘ ปี ให้ทำตามหนู หนูถือไปให้ตาทวดดู แล้วหนูก็เริ่มสอนตาทวดให้ทำ...ซึ่งตอนแรกย่าอยู่ด้วยสักประเดี๋ยวย่าบอกว่าย่าจะไปเอาน้ำในตู้เย็นมาให้ตาทวดก่อน พอกลับมา ย่าเห็นหนูสอนให้ตาทวดทำมือ Slide แล้วก็ทำปลายมือหุบ ๆ บาน ๆ เหมือนกับที่หนูทำ...ย่าสังเกตเห็นตาทวดมองที่แป้นของ Tablet ที่มีอักษร ก.ไก่ ย่ามองสายตาตาทวด ท่านคงรับรู้ว่า มันคงเป็นหนังสือรุ่นใหม่สำหรับเหลนอย่างเจ้าฟ้าคราม เพราะรุ่นย่าได้เรียนนั้น เป็นเพียงหนังสือ ก.ไก่ เท่านั้น ย่าคิดว่า ตาทวด คงรับรู้ได้ว่า มันแตกต่างกันมากเลยระหว่างสมัยนี้กับสมัยก่อน
แถม Tablet มีการ์ตูน ฝึกทักษะของหนูได้อย่างมากมาย เช่น การกระโดดเชือกของนกที่หนูจะต้องใช้ทักษะในการเล็งทิศทางของนกว่าจะไม่ให้ถูกอุปสรรคในการขวางแล้วถูกนกตกลงมาตาย เป็นการฝึกทักษะในการคิด การกะระยะทางเป็นอย่างดี...แล้วก็ยังมีเกมส์ในการเล่นอีกหลายโปรแกรมที่เป็นการฝึกทักษะต่าง ๆ สำหรับเด็กเล็ก ๆ อย่างหนู...นี่เป็นโลกของการเรียนรู้ในโลกสมัยปัจจุบัน ซึ่งเริ่มเป็นระบบสัมผัสกับหน้าจอ
ใน Tablet มีโปรแกรมที่จะเอาลงสำหรับเด็กเล็ก ๆ อย่างหนูที่จะเรียนรู้ในเรื่องภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับภาษาไทย เช่น มีคำศัพท์เกี่ยวกับร่างกาย ครอบครัว บริเวณบ้าน สิ่งรอบ ๆ ตัวของหนูที่จะได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยไปพร้อม ๆ กัน นี่คือ ประโยชน์ของการที่ได้ศึกษา
เมื่อหนูใช้นิ้วชี้ไปที่จุดต่าง ๆ จะมีเสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ควบคู่กันไป เหมือนกับการท่องคำศัพท์ จะทำให้เด็กเล็ก ๆ อย่างหนูจำได้ว่ามันคืออะไร? แม้ในขณะนี้ พอย่าถามหนูว่า ผมอยู่ไหน หนูจะใช้มือจับไปที่ผมได้ถูก พอย่าถามว่า แก้มอยู่ที่ไหน หนูก็จะใช้มือจับแก้มได้ถูก เป็นต้น เป็นการเรียนรู้ของหนูตามที่ย่าและแม่อ้อมได้ทำการสอนหนูกับวัยเพียงขวบเศษ ๆ ที่หนูได้เริ่มเรียนรู้กับสิ่งรอบ ๆ ตัวของหนูเอง
ย่ามีความคิดว่า สมัยนี้ การศึกษาไทยได้เปลี่ยนแปลงไปสำหรับเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่พึงได้เรียนรู้อย่างหนู แต่ก็อดสงสารเด็กไทยที่อยู่ในสภาวะครอบครัวที่พ่อ - แม่ ไม่พร้อมที่จะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อให้กับลูก ๆ ได้ศึกษา ย่าคิดว่า คงยังมีอีกหลายครอบครัว เด็กไทยอีกมากมายที่ยังขาดการศึกษาในด้านนี้ แต่สำหรับหนู ๆ มีโอกาสที่ย่าได้จัดหาให้หนูได้ศึกษาเพื่อเป็นพื้นฐานในอนาคตของหนูเองได้เรียนรู้จากสิ่งที่ควรเรียนรู้...
หนูก็เหมือน ๆ กับเด็กทั่ว ๆ ไป ที่จะต้องเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากตำรา หนังสือ หรือการเรียนรู้จากชีวิตของหนูเองซึ่งแม่อ้อม ยาย ตา ย่า ปู่ จะเป็นคนป้อนข้อมูลให้กับหนูได้เรียนรู้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้กับหนูยามที่หนูได้เติบโตขึ้นและสามารถนำความรู้ที่ได้รับนั้นไปใช้กับชีวิตประจำวันของหนูได้โดยสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมกับสังคมที่หนูอยู่ได้อย่างมีความสุข
สำหรับโทษนั้น ก็ขึ้นอยู่หนูจะต้องได้รับคำแนะนำจากย่า แม่อ้อม จะต้องเป็นคนที่บอกให้หนูได้รับรู้กับมันว่ามันมีอะไรบ้าง? เพื่อหนูจะได้เตรียมรับมือกับมัน...นี่คือ สิ่งที่หนูหรือเด็กรุ่นใหม่ ๆ จะต้องได้เริ่มเรียนรู้แล้ว...ความรู้ที่หนูได้รับย่าคิดว่าคงได้รับมากกว่าสมัยที่ย่าได้เรียนรู้เมื่อ ๔๐ กว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน เพราะโลกปัจจุบันนี้เป็นโลกที่ไร้พรมแดน ไร้ขีดจำกัดในการเรียนรู้เสียจริง ๆ...ขึ้นอยู่กับตัวของหนูที่จะได้ศึกษา ค้นคว้าหาความรู้จาก Tablet หรือ iPad แล้วล่ะ...แม่ฟ้าครามของย่า...สิ่งที่ย่าคิดว่าสำคัญสำหรับหนูอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เรื่องของคุณธรรม ความดีที่ย่า + แม่อ้อม และทุก ๆ คนในครอบครัวจะต้องสอนให้กับหนูเพิ่มเติมนอกเหนือจากตำราหรือใน Tablet หรือ iPad แล้วล่ะ เพราะโตขึ้น หนูจะได้เติบโตจากความเก่งพร้อม ๆ กับคุณธรรม ความดีที่จะก่อให้เกิดในจิตใจของหนูควบคู่กันไป...
สวัสดีค่ะ
Tablet เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ตามยุคสมัย....
แต่ความดีคุณธรรม เป็นสังคมประกิตที่สถาบันทางสังคมต้องช่วยอบรมบ่งเพาะนะคะ
หนูฟ้าคราม โชคดีมีคุณย่าช่วยสนับสนุนให้เท่าทันเครื่องมือในการเรียนรู้นั้นๆ
ต้องเป็นคนเก่ง คนดี และคนสุข..... เห็นจากภาพแล้ว น่ารักทุกวันเลยค่ะ ^^
สวัสดีค่ะคุณย่า น้องฟ้าคราม
มาเป็นเป็นกำลังใจให้คุณย่าน้องฟ้าครามค่ะ
สิ่งที่ย่าคิดว่าสำคัญสำหรับหนูอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เรื่องของคุณธรรม ความดีที่ย่า + แม่อ้อม และทุก ๆ คนในครอบครัวจะต้องสอนให้กับหนูเพิ่มเติมนอกเหนือจากตำราหรือใน Tablet หรือ iPad แล้วล่ะ เพราะโตขึ้น หนูจะได้เติบโตจากความเก่งพร้อม ๆ กับคุณธรรม ความดีที่จะก่อให้เกิดในจิตใจของหนูควบคู่กันไป...
-สวัสดีครับอาจารย์..
-แวะมาเยี่ยมน้องฟ้าคราม..
-น่ารักมาก ๆ
-ชอบท่านอน..55
-ความสุขของฟ้าคราม..
-คืนนี้คุณย่าจะพาหนูไปลอยกระทงที่ไหนครับ???
หลานน้อย โตไวมาก