รู้สึกในตัวตน และค้นหา

การหันมาฝึกความรู้สึกภายในที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจ เมื่อมีอะไรๆมากระทบใจ กระทบกาย และกระทบสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรานั้น เมื่อรู้สึกตัวแล้วจึงเฝ้ามอง มองเฉยๆ เป็นสิ่งที่ฉันเองยังต้องฝึกฝนตนเองอย่างสม่ำเสมอ

ความสำคัญของการมองโลกในแง่ดี รู้จักปล่อยวาง ก่อนคิดตัดสินใจในชั่วขณะอุบัติการณ์กำลังจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้ว จึงช่วยให้ผ่อนหนักให้เป็นเบา ร้ายกลายเป็นดี หรือเสมอๆก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อเราหันมามองความคิด เราจึงรู้ว่าการเชื่อมโยงฐานกายที่ทำความดีคู่ฐานใจ และได้รับการฝึกพัฒนานั้น จะส่งผลให้เกิดความสุขขึ้นในจิตใจเงียบๆ เบาๆ และรู้สึกสบายกายขึ้นมา เมื่อสบายกายก็รู้สึกยินดี และบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไว้ เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ทุกขณะ และการสะสมกรรมดีจึงเท่ากับการเพิ่มทุน เป็นกองทุนหนุนนำ ให้ชีวิตมีความสุข และเมื่อหันมาหาความรู้สึกในตัวบ่อยมากขึ้นๆเราจึงวางมันลงได้

การใช้แบบทดสอบถามใจก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะเหมาะกับผู้ที่ไม่เคยถามใจตัวเอง หรือไม่มีเวลาถามใจ ชั่งใจ ก่อนตัดสินใจทำกรรมใดก็ตามขึ้นมา   แบบทดสอบถามใจนี้จะช่วยสะกิดให้เกิดความคิดใคร่ครวญ หยุดคิดสักนิด เพิ่มความเข้าใจในจิตวิญญาณของตนเอง ในแต่ละคำถามนั้นจึงควรเป็นคำที่เชื่อมโยงให้ได้นึกถึงอะไร ...นั่นซิ แล้วจะนึกถึงอะไร ...ซึ่งอาจมีทั้งบวกและลบเกิดขึ้น สติ จะกำกับให้รู้จักแยกแยะ บวกลบ หรือผลที่เกิดได้ หากได้รับการฝึกพิจารณาโดยมีองค์ประกอบช่วย  ผู้นำแบบทดสอบไปใช้จึงควรได้พิจารณาถึงความเหมาะสมของวัย  จิตใจ ร่างกาย จิตวิญญาณ สังคม และเพื่อช่วยให้การฝึกคิดได้เกิดความเชื่อมโยง และทำความรู้สึกตัว เราจึงมีแบบทดสอบหาความรู้สึกในตัวตนเองหลากหลาย หลายแบบ 

ดั่งเช่น เป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น แบบทดสอบก็จะมีความสอดคล้องกับพัฒนาการ ชีวิตความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตประจำวัน ครอบครัว และเพื่อนเป็นสำคัญ  หากเป้าหมายเป็นผู้ป่วย ผู้สูงอายุ แบบสอบถามนั้นจะเน้นด้านอาชีพ การดำรงชีวิตประจำวัน สวัสดิการ ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว การจัดการ กับชีวิตในบั้นปลายของตนเอง อย่างนี้เป็นต้น โดยจัดเรียงคำถามจากสิ่งใกล้ตัว ค่อยๆขยายออกไปเป็นวงกว้างในลักษณะของวงกลมที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน หรือแม้แต่ในรูปรัศมี แล้วสร้างความเชื่อมโยงเมื่อยิ่งห่างตัวออกไปมากเท่าไหร่ความเชื่อมโยงก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้นดั่งรัศมีใบพัดที่เริ่มจากโคนใบพัด และขยายออกจนเกือบสัมผัสกัน

ตัวอย่าง คำที่สะกิดให้คิด และค้นหาความรู้สึกในตัวตน 

ก่อนจะก้าวไปสู่การคิดได้ด้วยตนเอง

สำหรับกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน

1. ความรัก

2. แม่

3. เงิน

4. อาหาร

5. เสื้อผ้า

6. บ้าน

7. เจ้านาย 

8. เว็บไซด์

9. พักผ่อน

10. พ่อ

ฯลฯ

ที่สำคัญหลังทำแบบทดสอบแล้ว ควรได้ร่วมกันสรุปความสำคัญของการมองความรู้สึกตัวในตนเอง

การปรับเปลี่ยนทัศนคติเพื่อให้เกิดผลต่อตนเองในทางบวก 

การแก้เสริมความคิดบวก ควรจัดทำผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบกิจกรรม 

มีการออกแบบการเรียนรู้เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ได้และนำพาไปสู่การพัฒนาทางความคิด

ส่งผลให้เกิดการกระทำเชิงบวก อย่างเข้าใจ และมีสติ 

นำไปปรับใช้กับการเฝ้ามองการเจ็บป่วยเรื้อรังของตนเองได้

การแสดงความคิดเห็นทั้งเชิงบวกและลบที่เกิดขึ้นหลังใช้แบบทดสอบความรู้สึกตัว เช่น

ความรัก : คิดถึงรักครั้งแรก ความไม่สมหวัง รักเขาข้างเดียว  พ่อแม่  เหงา อบอุ่น ตรึงอยู่ในความคิด

แม่ : แม่ผู้ให้กำเหนิด  แม่เหนื่อย แม่ไม่รัก กลัวตั้งท้องในขณะที่ยังเรียนไม่จบ  กลัวเลี้ยงลูกไม่เป็น

        อบอุ่น กลัวการเป็นแม่คน  กลัวคนรู้ว่าตั้งครรภ์  เกรงว่าจะเรียนไม่จบ  กลัวแม่เสีนใจ 

เงิน : ต้องมีติดกระเป๋า ขอพ่อแม่ ขอแฟน ขายของ ทำงาน เหนื่อย  อยากรวยแต่ไม่อยากเหนื่อย

                                                                    ฯลฯ

คำตอบที่ได้จึงช่วยให้มองเห็นภาพปัญหาเบื้องต้น และแนวทางช่วยเหลือ ส่งเสริม 

การนำคำตอบมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคนจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ 

เพราะสังคมทุกสังคมย่อมมีความเหมือน และต่างกันตามบริบทของสังคมนั้นๆ

และแม้สังคมแตกต่างกัน ความคิดต่างกัน ก็ย่อมยังประโยชน์ต่อการเรียนรู้

และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในวิถีธรรม และเศรษฐกิจแบบพอเพียง

ขอบคุณทุกความคิดเห็น

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือน

ขอบคุณค่ะ

[ขจิต ฝอยทอง]

พี่ครูต้อย เก่งมากเลย รออ่านอีกครับ

[krutoiting]

• ขอบคุณน้องดร.ขจิต
• ทุกความรู้ที่ถ่ายทอดให้นั้น
• พี่นำมาใช้หมดแล้ว
• ขอบคุณที่แบ่งปันและถ่ายทอดให้นะคะ
• คงจะได้เจอกันภายในเดือนธันวานี้นะคะ
• รอน้องแหม่มอีกคนเพื่อกำหนดวัน
• เชิญร่วมแบ่งปันและสานฝันจิตอาสาค่ะ 

 

 

[krutoiting]

ขอบคุณดอกไม้แทนใจจากทุกท่านค่ะ

เป็นกำลังใจมากเลยนะคะ