ดอกเข้าพรรษาเป็นพืชถิ่นเดียวของประเทศไทย พบขึ้นในสภาพตามธรรมชาติแถบหวัดสระบุรี และลบบุรี เป็นพืชในวงศ์ขิง เป็นสกุลใหม่ของโลก เป็นพืชที่มีความเกี่ยวข้องกับประเพณีทางพุทธศาสนา และวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะในช่วงเทษการเข้าพรรษาซึ่งเป้นช่วงที่พืชชนิดนี้ออกดอกชาวบ้านจะนำ ดอกเข้าพรรษานี้ไปถวายพระ เนื่องจากดอกมีลักษณะและสีสันที่มีความเหมาะสมโดยส่วนของใบประดับ ( คนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นกีบดอก ) มีสีขาว ตรงกับสีของพุทธศาสนา และทุกส่วนมีสีเหลืองตรงกับสีของพระสงฆ์
ดอกเข้าพรรษา : เป็น ไม้ล้มลุก เหง้า มีรากหัวกลม ต้นสูง 120 เซนติเมตร มีใบ 5-7 ใบ กาบใบสีเขียวอ่อน ก้านใบยาว แผ่นในสีเขียวอ่อน รูปใบหอก เรียบ บาง ปลายใบเรียวกลม โดคนใบสอบเรียว ใบตรงโคนต้น ขนาดเล็กกว่า ช่อดอกออกที่ปลายต้น ก้านช่อดอกอาจจะยาวถึง 1 เมตร รูปคล้ายทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5เซนติเมตร สีขาวหรือขาวอมชมพู เรียงเป็นวงแน่น และซ้อนเหลื่อมกัน ปลายโค้งออก แต่ละใบประดับมีดอกเดียว มีใบประดับย่อยยาว 5-6 มม. ผิวเรียบ กลีบเลี้ยงเชื่อมกันเป็นดอก ยาว 7-10 เซนติเมตร มีขนประปราย ปลายจักเป็น3ซี่ กลีบดอกเชื่อกันเป็นหลอด แคบ วัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ 1.5-2.5ซม. ปลายเว้าเป็นแฉกไม่เท่ากัน แฉกสีเหลืองยาว 8-10 มม. แฉกหลังใหญ่กว่าหลอดกลีบดอก ตรงโคนแฉกผายออกเล็กน้อย กลีบปากสีเหลือง ปลายเว้าลึก 2แฉก แต่ละแฉกปลายเว้าตื้นๆโค้งพับลง เกสรตัวผู้ยาว 5 มม. สีเหลือง อับเรณูแบบติดกลางยอดเกสรตัวเมียสีขาวรูปกรวย ผลเป็นผลแห้ง ไม่แตก ยาวราว1-1.5 ซมมีเยื่อหุ้มเมล็ดสีน้ำตาล
ตามรายงานพบในประเทศไทยเท่านั้น โดยพบที่บริเวณที่มีหินปูน ที่จังหวัดสระบุรีและ จังหวัดลบบุรีเท่านั้น ออกดอกราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ยามเมื่อฤดูกาลเข้าพรรษาเวียนมาถึง ดอกไม้ชนิดหนึ่งก็เริ่มผลิดอกบานสะพรั่ง ผู้คนต่างพากันเก็บมาถวายพระจนก่อเกิดเป็น ประเพณี “ตักบาตรดอกไม้” ซึ่งเป็นประเพณีไทย เก่าแก่ดั้งเดิมของชาวอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ประเพณีตักบาตรดอกไม้จังหวัดสระบุรี
ที่มา วิชาการ.คอม