ห้องเรียนกลับทาง แต่คุณครูไม่กลับใจ โดยลูกสายลม


จากการที่ผมไม่ได้เขียนมาสักพักหนึ่งนะครับ  จากภาระงานที่เพิ่มขึ้น  วันนี้เลยหาโอกาสและเวลาแวะมาเขียนบทความบ้างนะครับ  เรื่องห้องเรียนกลับทาง  หลายท่านฟังดูอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหม่  แต่ตัวผมนั้นได้ใช้มาตั้งนานแล้วครับ  เลยไม่ได้คิดว่าใหม่หรือเก่า

ห้องเรียนกลับทางนั้น  ก็เป็นการที่เป็นระบบการสอนที่ไม่ได้ยึดติดอยู่เพียงคุณครูผู้เดียวอยู่ตลอดเวลา  แต่เป็นการบูรณาการการสื่อสารที่หลากหลาย  เพื่อจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียว คือ ทำอย่างไรทำให้เด็กได้เข้าใจ 

เช่น  เมื่อมีนักเรียนหนึ่งคนที่ไม่สนใจที่จะเรียนวิชา ภาษาไทย  อันเป็นวิชาที่เด็กต่างรู้สึกว่าเป็นวิชาที่ยาก  ผู้สอนเองก็ต้องคิดหาสื่อต่าง ๆ มาให้เด็กนั้นได้เข้าใจในเนื้อหาวิชาให้ได้  แต่เด็กก็ไม่ได้สนใจ  ผู้สอนอาจจะต้องเข้าไปสัมผัสกับเด็กมากขึ้น  ลองเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เขา  ให้รู้สึกว่าเขาต้องการจะให้เราสอนก่อน  แล้วจึงค่อยอธิบาย  วิธีการอธิบายส่วนนี้เองที่ทำให้เด็กได้มีพัฒนาการที่ดีต่อวิชา

การเรียนการสอนในยุคปัจจุบันนั้น  อาจมีสื่อหลากหลายที่เราสามารถนำมาสอนเด็กได้  แต่ผู้สอนก็ไม่ควรที่จะมุ่งเน้นให้เด็กรู้สึกว่าจะต้องเรียนแต่ในหนังสือเท่านั้น  การเรียนรู้ที่กลับทางก็เป็นการบอกว่า  ครูนั้นจะต้องพัฒนาตัวเองให้รู้ไปเสียทุกเรื่อง  เพื่อเป็นการก้าวข้ามความรู้สึกหรือการสอนแบบเดิม ๆ

หลายคนที่มีแนวคิดเดิมก็จะบอกว่าครูดีที่สุด แต่ถ้าเราย้อนกลับไปคิดดูดีๆ แบบไม่มีอคติ  เด็กก็ไม่ได้พัฒนาความรู้อะไรมาก  แต่ถ้าครูที่มีคุณภาพก็กับมีไม่เพียงพอกับดี  ซึ่งก็เป็นปัญหาอย่างมาก

ผมยอมรับอย่างหนึ่งว่าโรงเรียนที่เป็นเอกชนนั้นมีการกลับทางมานานมาก  แต่อาจไม่มีใครสนใจ  ผู้ที่รู้และสนใจก็นำบุตรหลานไปเรียน  เพื่อพัฒนาความรู้และพัฒนาการด้านต่าง ๆ 

การเรียนรู้การกลับทางนั้นดีมากครับ  สำหรับยุคปัจจุบันนี้  โดยผู้อ่านทุกท่าน ก็สามารถทำได้ เพื่อจะนำวิธีการสื่อสารความรู้ให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจในเนื้อหาวิชาแบบง่าย  ผ่านช่องทางที่ท่านสามารถเข้าถึงได้ 

 

สรุป

การเรียนการสอนที่กลับทางหรือไม่กลับทางนั้น  เมื่อเวลาผ่านจึงสามารถที่จะบอกได้ว่าดีหรือไม่ดี  การที่ทำให้เด็กนั้นมีความรู้ที่เจริญเติบโตตามวัยนั้นสำคัญมาก  แต่ก็จะต้องควบคู่ไปกับอัตลักษณ์ของความเป็นไทยด้วย  ความรู้หรือไม่รู้นั้นอาจทันกันได้  แต่ว่าความเป็นไทยไม่สามรถตามทันกันได้  ถ้าผู้นั้นไม่มีเสียแล้วภายในจิตใจ  ฉะนั้น  เราก้ควรสร้างเด้กให้มีความเป็นไทย  โดยไม่ต้องคำนึกว่าเด็กจะโตขึ้นจะสามารถหาเงินได้เป้นล้านๆ หรือไม่ ถ้าหามาได้  แต่ไม่มีความสุข  ก็ไม่สู้เป็นชาวนาที่มีเงินกินเงินเก็บแบบธรรมไม่ได้

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 508572เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 12:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

 

เมื่อ...เวลา...ผ่านจึงสามารถที่จะบอกได้ว่าดีหรือไม่ดี  ....  การที่ทำให้...เด็กนั้นมีความรู้...ที่เจริญเติบโต.....ตามวัยนั้น....สำคัญมาก .... ใช่แล้ว ... ค่ะ

 

ขอบคุณ บทความดีดี ที่มีให้อ่านนี้้ค่ะ

ขอบคุณพี่เปิ้นนะครับสำหรับ Comment และ กำลังใจ เสมอมานะครับ

ขอบคุณ คุณนาง นงนาท สนธิสุวรรณ

และคุณ อ.นุ. นะครับ

สำหรับการแวะมาให้กำลังใจนะครับ

แรง ได้ใจ จริง ..เหตุผลดี ฟังได้ และรู้สึกดี เอ้า ครูสพฐ.เรา ใครเห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไม่เห็นอะไรเลย เฉยชา รอแต่วันสิ้นเดือน เอาเปรียบเพื่อน ไม่เคยคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโรงเรียน ห้องเรียนและเด็ก มาแต่ตัว ไปเอาชอร์ค กับกระดานดำข้างหน้า พกแต่กระเป๋าตังค์ มือถือ อ่านบทความของน้องเขาแล้ว..เปลี่ยนซะ เวรกรรมมีจริง อิอิอิ

ขอบคุรนะครับ คุณชยันต์ เพชรศรีจันทร์ สำหรับการมาแนะนำให้นะครับ

ต้องค่อยๆ เป็นไปนะครับ เดียวครูตามไม่ทัน....อิอิ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะครับ

คุณอักขณิช

คุณ krugui

คุณชยันต์ เพชรศรีจันทร์

อาจตอบช้าไปบางนะครับขอโทษด้วยครับ

-สวัสดีครับ..

-แวะมาเยี่ยมครับ..

-ขอสนับสนุนห้องเรียนกลับทาง...

-ขอบคุณครับ..

 

 ความรู้หรือไม่รู้นั้นอาจทันกันได้  แต่ว่าความเป็นไทยไม่สามารถตามทันกันได้  

ชอบประโยคนี้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท