วันนี้ระดับพลังงานใกล้ขีดศูนย์ เมื่อกลับถึงที่พัก
การชาร์ตแบตเตอรี่ คือ ความเงียบ..
นั่งอยู่เงียบๆ สัก 15-30 นาที มองไปนอกหน้าต่าง
ก็ช่วยให้ดีขึ้นมาก
.
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
และปรารถนาทำในสิ่งที่มี "ความหมาย" ต่อเพื่อนมนุษย์
ข้อนี้เป็นความจริง รวมทั้งตัวข้าพเจ้าเอง
ปฎิสัมพันธ์ในสังคมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
แต่สำหรับบางคน ไม่รู้ทำไม การพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตา
จึงต้องแลกด้วยพลังงานมหาศาล
(ข้อนี้คงไม่จริงในทุกคน ซึ่งจะกล่าวต่อไปคะ)
.
ดังนั้น เมื่อกลับจากงาน
มุมความสุขเล็กๆ ที่พัก จึงเป็นการ "สื่อสารในความเงียบ"
ปิดโทรศัพท์ ปิดโทรทัศน์หลังสามทุ่ม
สื่อสารกับกัลยาณมิตร ด้วยการอ่านและเขียน
สื่อสารกับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ผ่านมา
หากมีคนรู้ใจอยู่ใกล้ ต่างคนต่างอ่านหนังสือ ทำงานของตัวเองไป
เพียงนั่งชิดไหล่ชนกันก็พอแล้ว
...
"ผู้คนมากมายโหยหวนครวญคร่ำพึมพำร่ำร้อง
เสียงดังขันแข่งแย่งฟ้อง ตะโกนบนกันไม่ฟัง
จะมีบ้างไหม ใช้ความเงียบคุยกันสักครั้งหนึ่ง
...แล้วลองฟังดูข้างใน..เป็นเสียงอะไร"
###
หนังสือ "Quiet" โดย Susan Cain
กล่าวถึงคนสองประเภท ที่เราอาจคุ้นๆ คือ "Extrovert" กับ "Introvert"
ในงานวิจัยเขาว่า อัตราส่วนในประชากรทั่วไปประมาณ 2 : 1
การรับรู้ทั่วไป
Extrovert = คนที่กล้าแสดงออก ชอบเข้าสังคม
Introvert = คนขี้อาย ไม่มีสังคม
.
แต่ความจริง บุคคลทั้งสองประเภทนี้ภายนอก อาจดูชอบแสดงออก และเข้าสังคมได้คล้ายกัน
ต่างกันที่ "การเปลี่ยนแปลงพลังงาน"
Extrovert ยิ่งได้แสดงออก ยิ่งห้อมล้อมด้วยผู้คน เสียงเร้า เขายิ่งมีพลังเพิ่ม
แต่ Introvert ตรงข้าม..เมื่อได้ออกเวที การพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตา
ทำให้พลังงานภายในลด และต้องเติมพลังด้วยการอยู่ในความเงียบ
...
บุคคลทั้งสองประเภท สามารถมีความสุข และสร้างความสุขให้คนอื่นได้
ที่สำคัญอยู่ร่วมกันได้ หากเข้าใจความต่าง
Extrovert อาจเปิดชวนคุย ไม่ใช่ต้องการรบกวนสมาธิ Introvert
Introvert อาจเดินไปหาที่เงียบๆ มิได้เพราะความไม่พอใจสิ่งที่ Extrovert พูด
..แต่ธรรมชาติที่ต้องการรักษาพลังงานภายในทำให้เขาเป็นเช่นนั้นเอง
.
Happy Ba แบบเงียบๆ คะ :)
###
Update จากบุรีเทวี 17 พ.ย. 2555
เมื่อคืนนอนหลับสบาย ในห้องนอนกะทัดรัด เรียบง่าย งดงาม ถูกใจยิ่งนักคะ
ความเงียบ.. ช่วยได้หลายอย่างนะคะอาจารย์ ช่วยให้ได้คิด ทบทวน ลดโกรธ มีสติมองรอบด้าน แต่บางครั้งความเงียบทำให้รู้สึดเศร้า เหงาได้เหมือนกัน
สวัสดียามดึกมากค่ะ
พี่อ้อชอบแบบเงียบ ๆ อยู่คนเดียวมากกว่า ในเวลาอยากอยู่คนเดียว คือ คนเดียวจริง ๆ
แต่ไม่ใช่เวลาทั้งหมด
คราวที่ต้องพบปะผู้คนก็ชอบ แต่ก็ยังไม่ใช่สาธารณชน คนใดก็ได้
กลุ่มญาติ กลุ่มเพื่อนเป็นบางกลุ่มที่เรารู้ว่าแนวคิดไปด้วยกันได้ ก็ชอบมากหน่อย
คนที่คิดต่าง ก็พอฟังได้ ไม่อยากมีเรื่องก็ไม่พูด ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง (เป็นบางที)
สมัยสาว ๆ ...ชน..มามากพอแล้วน่ะค่ะ แฮ่ม
ปล.ไปเชียงใหม่ ไม่มีเวลาอิสระเลย ตอนเที่ยงและเย็นทีมผู้จัดประชุมเลี้ยงข้าว มีวันหนึ่งขอไปเดินสำรวจ ศึกษาภูมิสังคมแถวกาดหลวงเอง กลับมาโรงแรมก็ต้องมาคุยกัน (AAR) สนุกสนานในทีมวิทยากรทุกคืนค่ะ
ในความเงียบนั้นทำให้เราได้คิดทบทวน ความรู้สึกความทรงจำที่ดีเสมอ
พี่แก้วมีมุมสงบ หลายที่ในเวลาที่ต่างกันในที่ต่างๆในบ้าน มีความสุขเสมอเมื่ออยู่บ้านค่ะ
Introvert อีกคนมายกมือสนับสนุนครับ ว่าเวลาพูดคุยกับผู้คนนี่ต้องใช้พลังงานมากจริงๆ ยิ่งต้องพูดต้องสื่อสารมากก็จะยิ่งหมดแรง ต้องหาที่เงียบเพิ่มพลังจริงๆ ด้วยครับ
ผมเคยสงสัยว่าพวก Extrovert เอาพลังมาจากไหนในการพูดคุยกับคนได้ไม่หยุดไม่หย่อน มารู้วันนี้เองว่าเขาคงรู้สึกตรงข้ามคือยิ่งคุยยิ่งได้พลังเพิ่มครับ
ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สงสัยว่า Introvert อยู่ได้ยังไงไม่คุยกับผู้คนเลย (ฮา)
เคยมีเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นผู้จัดการสายสินเชื่อที่ (ครั้งหนึ่ง) อายุน้อยที่สุดของธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งถามผมว่าวันๆ หนึ่งผมทำอะไรบ้าง ผมบอกว่าผมก็อยู่ของผมเงียบๆ เรื่อยๆ ไม่ค่อยได้ไปไหน ถ้าไปก็ไปในพื้นที่ไกลๆ ตามป่าตามเขา ไปทะเล ทำนองนั้น ไม่ค่อยได้เจอผู้คน
เขาอุทาน (เสียงในฟิลม์ด้วยความตกใจ) "ชีวิตมึงนี่น่าเบื่อฉิ....."
ในขณะเดียวกันผมก็จินตนาการไม่ออกว่าถ้าผมต้องมีชีวิตอย่างเขา ผมจะทุกข์ทรมาณเพียงไหน (ฮา)
.......... :):)
คนเราก็มีหลายมุมนะครับ...บางคนชอบมุมเดียว...เปลี่ยนมุมบ้าง...มีความสุขกับทุกมุมมอง....กับความสุขทั้งแบบเงีบย และไม่เงียบนะครับ....ตอนนี้ผมอยู่กรุงเทพฯ....นอกจากการเดินทางความเปลี่ยนแปลง...ความวุ่นวาย...และรีบเร่ง...จนอดนึกไม่ได้ว่า...นาฬิกาที่กรุงเทพ...ใช้เข็มเวลาอะไรเดิน...แต่ได้แต่หวังว่า...ที่นี้ผู้คนคงมีความสุขในความไม่เงียบ...
เช้านี้ตื่นขึ้นมากับแมนชั่นราคาเบาๆ...ก็ได้ยินเสียงคน...เสียงรถแล่น...เสียงน้ำจากห้องน้ำ..จากชั้นไหนนะ แต่งตัวออกจากที่พัก...ขึ้นสะพานลอยที่กำลังก่อสร้าง...เห็นคุณยายแก่มากแล้ว...ท่านหนึ่งเดินขึ้นด้วย มือขวาถือไม้เท้า...มือซ้ายหิ้วถุงพลาสติกใส่อาหาร...สามสี่ถุง
ผมขอถือถุงอาหารให้คุณยาย...คุณยายตกใจ และงง เพราะคนสวนมากสวนไป ต่างรีบเร่ง จนบางครั้งแทบเดินชนกัน
คุณยายเพียงถามว่า ไม่รีบหรือค่ะ...ผมยิ้มและตอบว่า ไม่ คุณยายบอกว่า ปกติข้ามถนน แต่วันนี้รถเยอะ กลัวรถชน...ผมและยาย คุยกันเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่ขาขึ้นและขาลงสะพานลอย...ท่ามกลางคนที่เร่งรีบผ่านมาผ่านไป
เมื่อวานผมเจอลุงป้อม พี่ชายที่หาแมนชั่นให้อยู่...บอกว่า 3 เดือนแรก แทบขาดใจ ปรับตัวไม่ได้ แต่อยู่มาอยู่ไป ตอนนี้ 17 ปี แล้ว
ชีวิตของผมก็เป็นแบบนี้...รับรู้...เข้าใจ...และปล่อยวาง และระลึกถึงเสมอว่า...อย่าลืมที่จะตักตวงหาความสุข บนความทุกข์ และความวุ่นวาย ในการเดินทาง....
ด้วยความระลึกถึง และส่งกำลังใจให้เสมอนะครับ....
ในที่ประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา จากการสังเกตพบว่า
คน Introvert พูดอะไรไป มักจะไม่ค่อยมีใครฟัง ทั้งที่เป็นความคิดที่สุขุมนุ่มลึกและถูกต้อง
ในขณะที่คน Extrovert พูดอะไรออกมา ก็ดูมีคุณค่าแก่การรับฟังไปหมด โดยไม่ค่อยจะคำนึงถึงว่าถูกต้องสมเหตุสมผลหรือไม่
ขอบคุณคะ แต่ละคนก็รู้สึกต่อความเงียบต่างกันไป..
บ้างก็รู้สึกเศร้า
บ้างก็รู้สึกสุข
ไม่เป็นไรคะ พบกันใหม่ได้แน่นอน ดีใจที่มีความสุขในการมาเยือนเชียงใหม่คะ :)
สำหรับ Introvert การพบผู้คนที่สนิท คุยกันเข้าใจ (แต่ไม่ใช่ใครก็ได้แบบ Extrovert) ก็สร้างพลังงานคะ
พี่โอ๋รู้สึกว่า GotoKnow ทำให้คน introvert มีความสุขนะคะ พี่โอ๋ก็เป็นอีกคนที่ดูเหมือน extrovert เวลาอยู่ท่ามกลางผู้คน แต่รู้สึก drain จริงๆ ถ้าเลือกได้ขออยู่เงียบๆในมุมที่ไม่มีใครมาสนใจเราเหมือนกันค่ะ พวกเราในนี้หลายๆคนคุยกันรู้เรื่องน่าจะเพราะความเป็นเราแบบนี้กันด้วยนะคะ
ความเงียบสามารถสนอให้เรารู้ว่าเราคือใคร ความเงียบสามารถหล่อเลี้ยงวิญญาณ และเปิดมุมมองใหม่ให้แก่เรา ถ้ามนุษย์ปล่อยตนอยู่กับสิ่งน่ารำคาญ ยอมให้มันขโมยอิสรภาพภายในของเราไป และเราต้องสูญเสียความสัมพันธ์กับอิสรภาพภายในแล้วไซร์ เราจะสูญเสียความเป็นมนุษย์ และชีวิตมีแต่จะถดถอยลงไป... .... ทานข้าวเที่ยงช้าหน่อยครับ...ทานเสร็จแล้วตรวดิ่งมาที่ ห้องสมุดพ่อเสมครับ.....ใกล้กับตึกที่ผมมาฝึกงาน...ในกระทรวง... เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง...เขียนถึงความเงียบ เลยเอามาเก็บไว้ในบันทึกนะครับ ชื่อ...the spirit of silence โดย...John Lane สู้ๆ ครับ (บอกตัวเองครับ)
ความเงียบ ทำให้เราได้ยินเสียงในใจเราเองนะคะ
ขอบคุณคะพี่แก้ว อยากเห็นมุมสงบแต่ละมุมจัง เผื่อได้ไอเดียไปจัด พื้นที่เล็กๆ ของตัวเองบ้าง
ขอบคุณคะ เรื่องที่อาจารย์เล่าทำให้เห็นภาพดีจริงๆ..
ในหนังสือก็บอกคะว่า
งานที่เหมาะกับคนประเภท Extrovert คือ Bussiness โดยเฉพาะ Customer-related
ส่วนงานที่เหมาะกับ Introvert คือ Artist, Scientist, Writer, Programer
:)) ด้วยคนคะ
"ผมขอถือถุงอาหารให้คุณยาย...คุณยายตกใจ และงง เพราะคนสวนมากสวนไป ต่างรีบเร่ง จนบางครั้งแทบเดินชนกัน"
ด้วยความระลึกถึง และส่งกำลังใจให้เช่นกันคะ....
สวัสดีค่ะ
ต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ
ไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายมากนักในช่วงนี้เพราะหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน พลังงานเลยแทบหมดในทุกๆ วันค่ะ คุณหมอคงสบายดีและกำลังมีความสุขที่บุรีเทวีนะคะ
ตอนเป็นเด็กคิดว่าตัวเองเป็นคนล้าแสดงออก แต่พอโตขึ้นเริ่มรู้สึกว่ามีความสุขกับการอยู่เงียบๆ ตอนนี้ชัดเจนมากสำหรับการมีความสุขในการสือสารในการเขียนกับอ่านค่ะ เพิ่มสถิติของคน introvert อีกคน แต่กับคนสนิท เพื่อนสนิท ยังรู้สึกไม่ต้องใช้พลังงานมากเท่ากับคนแปลกหน้าค่ะ
คิดว่าเราทุกคนคงมีส่วนผสมของทั้งสองประเภทอยู่บ้าง แต่ว่าอัตราส่วนอาจต่างกันนะคะคุณหมอ เห็นดวยกับทุกท่านที่ทุกคนต่างสามารถ contribute ได้เสมอค่ะ
สุขสันต์วันแห่งความสุขนะคะ
ความสงบเงียบเป็นมิตรแท้คนหนึ่งนะคะ
ขอบคุณคะ สั้นๆ แต่ได้ใจความ
เวลาเรามีปัญหา คำแนะนำจามิตรแท้ที่ชื่อ "ความเงียบ" (คือสิ่งที่เราพิจารณาตนเอง)
จึงน่ารับฟังนะคะ