พริก เป็นพืชที่ให้สารที่มีความเผ็ดซึ่งเราเรียกว่าสาร Capsicin ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในแง่ของการเพิ่มรสชาติของอาหาร ความสวยความงาม และการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
ดังนั้นพี่น้องเกษตรกรในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษจึงหันมาประกอบอาชีพการปลูกพริกเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูการทำนาทำให้มีรายได้ปีหนึ่งหมุนเวียนในพื้นที่หลายสิบล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตามในระบบ หรือกระบวนการปลูกพริกของพี่น้องเกษตรกรนั้น เราไม่สามารถควบคุมปริมาณการปลูกได้ ดังนั้นผลผลิตที่ผลิตออกมาในแต่ละปีไม่ค่อยแน่นอน จึงส่งผลให้ราคามีความแปรปรวนตามไปด้วย กล่าวคือ ปีใดที่พี่น้องเกษตรกรปลูกพริกมากก็จะส่งผลให้ราคาตกต่ำ แต่หากปีใดมีการปลูกน้อยก็จะส่งผลให้ราคาสูง เกษตรกรยิ้มแย้มแจ่มใจ
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเสี่ยเป้า พ่อค้ารับซื้อพริกรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีประสบการณ์การรับซื้อพริกที่ยาวนานกว่า 20 ปี ท่านได้อธิบายถึงวัฎจักรของราคาพริกที่ขึ้นๆ ลงๆ ในแต่ปี ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เสี่ยเป้าบอกว่า ในปีนี้ (2548/2549) ราคาพริกดี เนื่องจากในปีที่แล้วราคาพริกตกต่ำอย่างสุดๆ จนกระทั่งชาวสวนต้องปล่อยพริกทิ้งไม่เก็บผลผลิต เนื่องจากไม่คุ้มกับค่าจ้างเก็บ อีกทั้งในปีนี้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น จึงทำให้พี่น้องเกษตรกรปลูกพริกน้อยลง แน่นอนเมื่อจำนวนคนปลูกน้อย จึงทำให้ราคาพริกปีนี้ค่อนข้างดี บางช่วงถึงกิโลกรัมละ 60 บาท
แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อปีนี้ราคาพริกดี เสี่ยเป้าบอกว่าปีหน้าจะมีจำนวนเกษตรกรปลูกมากเพิ่มขึ้น แน่นอน เมื่อผลผลิตมากราคาขายมักจะตกต่ำ ดังนั้นพี่น้อง KM ที่คิดจะปลูกพริกต้องวางแผนให้ดีนะครับเพื่อจะได้ไม่เสี่ยงเกินไป
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
19 กันยายน 2549