วันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เลขาธิการ กศน. นายประเสริฐ บุญเรือง มอบนโยบาย กศน.ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ณ โรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์
สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. โครงการเพชรน้ำหนึ่งในปีงบประมาณนี้ยังมีเหมือนเดิมโดยจะให้ไปอังกฤษจังหวัดละ/กองละ ๑ คน รวม ๙๐ คน
๒. ฝาก ผอ.กศน.จังหวัด/อำเภอ ทุกแห่ง สอนภาษาอังกฤษให้กับกลุ่มอาชีพ แท็กซี่ มอเตอร์ไซต์รับจ้าง แม่ค้าแผงลอย และทุก ๆ อาชีพ ให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาจีนให้ง่าย
๓. ส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาทุกรูปแบบ ให้ผู้บริหาร ข้าราชการ ครู ศรช. ส่งรายชื่อทุกระดับและทุกคนให้ กจ. เพื่อให้มีการพัฒนา ฝากให้ กจ.จัดอบรม ผอ.กศน.อำเภออีกสักรอบพัฒนาระบบบริหารเพื่อความชัดเจนและปฏิบัติตามระเบียบฯ ได้ถูกต้อง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ฝากให้จัดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ หลักการ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานให้ถูกต้องด้วย
๔. นโยบายสร้างห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี ฝากไปประสานกับจังหวัดซึ่งได้รับงบประมาณ ๑๐๐ ล้าน ซึ่งเป็นงบกลาง ของบผ่าน ผวจ. หรือคุยกับท้องถิ่นก็ได้ สำนักงาน กศน.จะสมทบให้ ๒ ล้าน
๕. โอกาสเข้าเรียน ป.บัณฑิตในปีนี้ หากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดขอให้ กศน.อำเภอได้แต่งตั้งเป็นครูประจำกลุ่มรับเงินจาก กศน. เพื่อให้บุคลากร กศน.ได้เข้าเรียน ป.บัณฑิตและให้ ผอ.กศน.จังหวัด ช่วยประสานให้บุคลากรได้เข้าเรียน ป.บัณฑิต ด้วย
๖. เตรียมสอบเป็นข้าราชการ เป็นบุคลากรที่รับเงินจาก กศน.มาครบ ๓ ปี จะมีสิทธิสอบเป็นข้าราชการ กศน.
๗. การต่อสัญญาพนักงานราชการให้ดูอายุด้วยต้องไม่เกิน ๖๐ ปี
๘. การสั่งจองไดอารี่ ขอให้ กศน.จังหวัด/อำเภอ สั่งให้บุคลากรทุกคน และปีนี้ กทม.รับผิดชอบสั่งทำ โดยขอให้ส่งถึง กศน.จังหวัด/อำเภอ ภายในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ กำชับให้ทุกสถานศึกษาต้องซื้อให้บุคลากรทุกคน
๙. โครงการจริยธรรมคุณธรรม-ปฏิบัติธรรม จะจัดให้ครบทุกภาค ขณะนี้ จัดไปแล้วคือภาคเหนือและภาคใต้ สำหรับวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ถึงวันที่ ๒ มีนาคม จะเป็นภาคกลางและอีสานให้ไปปฏิบัติที่ภาคเหนือ และให้จัด กพช.ของนักศึกษา ๑,๒๐๐,๐๐๐ คน ให้ปฏิบัติธรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ๕๐ ชั่วโมง เป็นเวลา ๓ วัน ๒ คืน โดยจะได้ใบประกาศจากวัดด้วย ซึ่งสามารถใช้เงินค่าพัฒนาผู้เรียน ๒๙๐ คน/คน/ภาคเรียน
๑๐. ขอให้หน่วยงาน/สถานศึกษาทุกแห่ง กันเงินไว้จัดกิจกรรม ๔ ด้าน ดังนี้
(๑) ด้านปฏิบัติธรรมจริยธรรมคุณธรรม
(๒) ด้านเข้าค่ายลูกเสือ
(๓) ด้านการจัดโครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ
(๔) นโยบายเฉพาะกิจของ กศน.
๑๑. ให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดทำบัตรนักศึกษาให้เป็นบัตรรวม – ATM กรุงไทย (ค่าใช้จ่าย ๕๐ บาทให้ใช้เงินพัฒนาผู้เรียนหรือเงินรายหัวจ่ายให้นักศึกษาทุกคน)
๑๒. งบประมาณซื้อหนังสือเรียนขอให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ขณะนี้เงินได้โอนให้ทางระบบ GFMIS แล้ว กำชับอย่าให้ผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
๑๓. ขณะนี้งบก่อสร้าง กศน.ตำบล ได้รับปีนี้ ๕๐ แห่ง แห่งละ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้ดำเนินการได้เลย สำหรับที่ดินตามกติกาหากยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์ ก็ขอให้มีลายเซ็นยินยอมให้สร้างจากชาวบ้านและผู้เกี่ยวข้องรอบ ๆ สถานที่ที่จะก่อสร้างตั้งแต่ ๕๐ คนขึ้นไป
๑๔. คัดเลือกผู้ปฏิบัติงานดีเด่นไปต่างประเทศจังหวัดละ ๑ คน เป็นรุ่น ๆ ไป ให้คัดเลือกให้เข้ม และกติกาไม่ซ้ำคนเดิม (เปลี่ยนคนไป)
๑๕. ฝาก ผอ.กศน.จังหวัด ไปคิดเรื่องนโยบายกศน.เป็นหลัก
๑๖. เบิกเงินให้ครู ม.๖ จบภายใน ๘ เดือน จากนักศึกษารายละ ๑,๕๐๐ คูณจำนวนคนที่เรียน โดยให้ดำเนินการในภาคเรียนนี้ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์และขึ้นป้ายให้ด้วย ให้เอาแบบเรียนขึ้นเว็ป สำหรับงบประมาณค่าหัวจะเร่งให้
๑๗. ให้ดำเนินการจัดสอบภายในจังหวัดเดียวกันพร้อมกัน โดยสัดส่วน ทฤษฎี ๗๐ (ต้องได้ ๕๐ % ขึ้นไป) : ปฏิบัติ ๓๐ รวมแล้ว ๖๐ % ทั้ง ๙ รายวิชา ต้องเป็นวิชาที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ต้องเป็นวิชาชีวิตที่ทุกคนต้องเรียนและใช้ Internet เป็น ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ต้องสามารถพูดสื่อสารได้
๑๘. ขณะนี้ประกาศจัดตั้งสถานศึกษาเทียบระดับ ๔๗๐ แห่งทั่วประเทศ ขอให้พาผู้สมัครเทียบระดับ ( ม.๖ ภายใน ๘ เดือน) จังหวัดละ ๒๐ คน และ ผอ.กศน.จังหวัดทุกคนไปพร้อมกันที่เมืองทองธานี แต่งชุด กศน.
๑๙. เร่งดำเนินการจัดฝึกอบรมอาชีพหลักสูตร OTOP Mini MBA สู่ชุมชน เรื่องศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ขณะนี้โอนเงินให้แล้วทั้งปีให้เป็นตามนี้
- ให้อำเภอไปจัดให้ตำบลละ ๒๐,๐๐๐ บาท โดยสอนอาชีพแล้วมีงานทำอย่างมีคุณภาพ
- จัดสรรให้ กศน.อำเภอ/สส. ๑ คน แห่งละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท
- จัดสรรให้ กศน.จังหวัดที่มี ๘ อำเภอลงมาให้ได้ ๑ ล้านบาท ถ้ามี ๘ อำเภอถึง ๑๘ อำเภอ ได้ ๑.๕ ล้านบาท และจังหวัดที่มี ๑๙ อำเภอขึ้นไป ได้ ๒ ล้านบาท สำหรับ กทม.ได้ ๓ ล้านบาท
- ให้เน้นคุณภาพเป็นหลัก ไม่ต้องดูงาน สอนแล้วมีงานทำ ๕๐ % เน้นให้มีงานทำที่ชัดเจน
- ให้ดำเนินการให้ ชัดเจน ถูกต้องตามนโยบาย
- ค่าวิทยากรให้จ่ายได้ไม่เกินชั่วโมงละ ๖๐๐ บาท สำหรับบุคคลภายนอกให้จ่ายได้ไม่เกินชั่วโมงละ ๑,๒๐๐ บาท การศึกษาดูงานในส่วนของ สส. ให้ ๒๕ % ของงบประมาณที่ให้ไปแต่ต้องไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท/อำเภอ สำหรับค่าวัสดุรายหัวแต่ละวิชาไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
- ระเบียบการดูงาน ๑๒๐ บาท/หัว ที่พัก ๑๐๕ บาท/คน/คืน ค่าเช่ารถให้เหมาจ่ายตามจริง (จะเป็นรถแอร์หรือพัดลมก็ตาม)
- สำหรับงบประมาณอุดหนุนเมื่อสอนเสร็จแล้วสนับสนุนในการประกอบอาชีพ ขณะนี้ยังไม่อนุมัติ
- เรื่องศูนย์ฝึกอาชีพนี้ขอให้ ผอ.กศน.จังหวัด/อำเภอ ไปคุยกับ สส. หากใครไม่สามารถคุยกับ สส. หมายถึงต่อต้าน พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต
๒๐. เปิดโลก กศน. สู่ กศน.อินเตอร์ เพื่อประชาคมอาเซียน
- Einglish Program ต้องให้ได้นักศึกษาอย่างน้อย ๑๕ คนขึ้นไป เก็บเงินคนละ ๖,๐๐๐ บาท สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ นี้ ปีนี้จะได้ ๒,๓๐๐ บาท จึงได้เพิ่มเป็นสองเท่าหากภาคเรียนหน้านักศึกษาลดจะปรับลดลงเพราะภาคเรียนนี้ให้ใช้ฐานของนักศึกษาภาคเรียนที่แล้ว เงินที่ได้เกินทุกอำเภอให้สถานศึกษาทาสีสำนักงานเป็นมิติใหม่ให้น่าดู-น่าอยู่-และน่าทำงาน พร้อมรับการประเมินภายนอก
- เมื่อค่ารายหัวเพิ่ม ให้เพิ่มครู ศรช.ได้ตามจำนวนนักศึกษาได้ ครู ๑ คน/นักศึกษา ๗๐ คน โดยให้จ่ายค่าตอบแทนครู ศรช.และครูสอนคนพิการ เดือนละ ๑๑,๖๘๐ บาทไปก่อน สำหรับ ๑๑,๙๗๐ บาท (ที่ ก.พ.อนุมัติ ตามวุฒิขั้นต่ำของข้าราชการพลเรือน) ให้รอหนังสือเวียนโดยกองคลังจะแจ้งเวียนมาอีกครั้ง โดยให้จ่ายค่าตอบแทนทุกเดือน
- ครูประจำกลุ่มที่ออกคำสั่ง ให้มีนักศึกษาจากเดิม ๓๕ คน ให้เพิ่มเป็น ๕๐ คน จ่ายเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท
- ครูสอนคนพิการ จ่ายเท่าครู ศรช. ทุกเดือนเป็นเวลา ๑๒ เดือนเหมือนกัน
- บรรณารักษ์อัตราจ้าง ซึ่งเพิ่มจากเดิมเป็น ๙,๑๔๐ บาท หากจะขอให้ได้มากกว่านี้หรือได้เท่าครู ศรช. ต้องรอก่อนเพราะอยู่ระหว่างไปคุยกับ รมต.
- ค่าใช้สอย เป็นค่ารถคนละ ๑,๐๐๐ บาทของครูสอนคนพิการ ให้เหมือนเดิม
- ค่าวัสดุ ๓,๐๐๐ บาท/ปี ก็เหมือนเดิม
- ค่าประกันสังคม ๕ % ของค่าตอบแทนก็จัดให้เหมือน
๒๑. เสริมสร้างบ้านหนังสืออัจฉริยะและพัฒนานิสัยรักการอ่านของประชาชน
- งบค่า คูปอง ๔๕๐ ล้าน โอนมาแล้ว ขอให้เป็นโครงการ “บ้านหนังสืออัจฉริยะ” ให้มีการจัดซื้อหนังสือให้ห้องสมุดฯ รวมทั้งอบรมให้ความรู้มาใช้บริการห้องสมุดฯ เพื่อทราบระเบียบ วินัย การเข้าใช้ห้องสมุดฯ การช่วยเหลือและรักษาห้องสมุดด้วย กศน.ได้รับงบประมาณ ๕๐ % ของหมู่บ้าน (ทุกจังหวัด) รวม ๔ หมี่นหมู่บ้าน จัดสรรให้ดังนี้
- นสพ. ๒ ฉบับ/รายสัปดาห์ ๔ ฉบับ / รายปักษ์ ๒ ฉบับ และอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น คู่สร้างคู่สม ขวัญเรือน เป็นต้น โดยส่วนกลางได้ให้หนังสือพิมพ์ทั้ง ๖ มาคุยกัน ประกอบด้วย ไทยรัฐ มาติชน เดลินิวส์ สยามรัฐ ข่าวสด และคม-ชัด-ลึก ได้ตกลงกันเองเพื่อซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือ และทำป้ายหนังสือสำหรับปีแรก (โดยบรรทัดแรก- บ้านหนังสืออัจฉริยะ บรรทัดที่สอง-ชื่อสถานที่ และบรรทัดที่สาม- สำนักงาน กศน.จังหวัด.....)
- ให้ประชาชนเลือกสถานที่ตั้งเป็นมติของชุมชน ที่มีคนมาใช้ประโยชน์และมีอาสาที่มีจิตอาสาขช่วยกันดูแลเพื่อประโยชน์ของชุมชน
- บ้านหนังสือ ใน พ.ร.บ. เป็นห้องสมุดประชาชนประจำหมู่บ้าน สำหรับ ๕ จังหวัดชายแดนจะได้รับงบประมาณ ๑๐๐ % (นายกขอ)
๒๒. เร่งรัดการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนเพื่อการจัดทำแผนป้องกันภัยพิบัติ
- ให้ทำประชาสัมพันธ์ จัดทำป้าย /สื่อ เพื่อเผยแพร่ ภัยน้ำท่วมจากภัยพิบัติ
- อะไรที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ให้จัดการศึกษาให้พวกเขาอยู่ในสถานที่ของพวกเขาอย่างปลอดภัยและพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
- ฝากให้ ผอ.กศน.จังหวัด ไปประชุม/เข้าพบและร่วมกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดให้ ผวจ. ได้รู้จักด้วย
๒๓. เร่งพัฒนาระบบกลไกการกำกับ ติตดตาม และนิเทศเพื่อการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้พิจารณาจัด ผอ.กศน.อำเภอมาพัฒนาใหม่
- จัดให้บุคลากรทุกประเภทมาพัฒนาใหม่
- ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะเปิดสอบ รอง ผอ.สนง.กศน.จังหวัด ๑๗ คน
๒๔. วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ให้นำนักศึกษาเทียบ ม.๖ จบภายใน ๘ เดือน ไปพร้อมกันที่ฮอล ๓ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยขอให้ ผอ.กศน.จังหวัดทั้ง ๗๗ แห่ง/ผอ.สถานศึกษาขึ้นตรง ทุกแห่ง/ผอ.กศน.อำเภอและเขต ๙๒๗ แห่ง ครูของสถานศึกษาที่เทียบระดุบ ๔๗๐ แห่ง และผู้สมัครเทียบระดับอีกจังหวัดละ ๒๐ คน (ที่สมัครไว้แล้ว) งบประมาณจัดนิทรรศการ ๑๐ จังหวัด จังหวัดละ ๕๐,๐๐๐ บาท หากทำดีจะให้ ๒ ขั้น
- ประกันคุณภาพภายนอก รอบ ๓ ในปีนี้มี ๑๔๙ แห่ง เป็นเชิงพื้นที่ ๑๐ จังหวัด และครบรอบ ๕ ปี (คือประเมิน สมศ.เมื่อปี ๒๕๕๑) จะประเมินให้ทันก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ สำนักงาน กศน.จะจัดประชุมชี้แจงในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ฝากให้ ผอ.กศน.จังหวัดลงไปดูทุกสถานศึกษาที่มีรายชื่อประเมินครั้งนี้ด้วย
- ฝากท่านวัทนี สรุปการดำเนินการขอ พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิตตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และบัดนี้ได้ให้ รมต.คนไหนช่วยขับเคลื่อน พ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต
- ศว.และศฝ. ขอปรับรูปแบบใหม่ ให้แต่ละภาคตระเวนจัด (ฝากไปคิดเอง) และขณะนี้ได้จัดโครงการให้ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรม ๓๐๐ กว่าคน แล้ว กำหนดภาคละ ๓ จังหวัด จงหวัดละ ๓ วัน (รวม ๙ วัน)ให้ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ทุกสถานศึกษานำเสนอสิ่งดี ๆ (เป็นการตระเวน ๙ วัน)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหนองคาย/บึงกาฬ(ไปทำต่อเอง)/บุรีรัมย์/สกลนคร
- ภาคเหนือ มีเชียงรายและน่าน
- ภาคกลาง มีนครปฐม/ลพบุรี/ราชบุรี
- ภาคใต้ มีตรัง/สงขลา/นครศรีธรรมราช
- ภาคตะวันออก มีระยอง ชลบุรี ปราจีนบุรี
ไม่มีความเห็น