KM00109 : คิดไปเรื่อย 1 "ใหญ่ที่สุดในโลก"

            ขึ้นชื่อเรื่องแบบนี้อย่าเพิ่งไปคิดเป็นเรื่องอื่นนะครับ หากแต่ช่วงที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสขับรถเดินทางไปหลายจังหวัด สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยตามข้างทางก็คือ "หลวงพ่อ.......ใหญ่ที่สุดในโลก" หรือ "หลวงปู่......ใหญ่ที่สุดในโลก"  ไปจังหวัดนั้นก็ หลวงพ่อ หลวงปู่ องค์นี้ ไปอีกจังหวัด ก็หลวงพ่อ หลวงปู่องค์เดิมอีก ผมเลยเริ่มเกิดความสงสัยว่า ตกลง เอ....แล้วตกลงที่ไหนใหญ่ที่สุดในโลก กันแน่ เพราะโลกก็น่าจะหมายถึงโลกใบกลมๆ แป้นๆ ที่เราอยู่นี่ ก็มีแค่ใบเดียว และคงไม่ได้หมายถึง โลกอื่นเป็นแน่แท้ หรือหากหมายถึง โลกหน้า ผมก็ขอสละสิทธิ์ไม่ไปก่อนแล้วกันตอนนี้ เพราะยังไงสุดท้ายก็คงจะได้ไปเหมือนกัน

            ผมเข้าใจว่า คำว่า "ที่สุดในโลก" นี้ ต้นตำหรับน่าจะมาจากฝรั่งมังค่า เพราะคนฝรั่ง (คำว่า "ฝรั่ง" นี่คนไทยน่าจะหมายถึงคนอเมริกา หรือยุโรป) ชอบเก็บสถิติ กินเยอะที่สุดในโลก กินเร็วที่สุดในโลก ขนมปังใหญ่ที่สุดในโลก ฯลฯ ที่สุดในโลก.......... แม้แต่หนังสือกินเนสส์ (Guinness Book) ที่บันทึกสถิติโลกก็มาจากฝรั่ง (อังกฤษ) เหมือนกัน หากใครเคยดูอเมริกันฟุตบอล  (American football) ก็จะเห็นว่าระหว่างการแข่งขันจะมีการเก็บสถิติเต็มไปหมด ใครวิ่งกี่หลา ปีนี้วิ่งไปแล้วเท่าไหร่ ขว้างไปกี่ครั้ง ใครขว้างลูกได้ไกลสุด นักกีฬามีแฟนมาแล้วกี่คน เรียกว่าเก็บสถิติแทบทุกกระเบียดนิ้ว

            สำหรับบ้านเราก็มี "ที่สุดในโลก" หลายเรื่องเหมือนกัน เท่าีที่ผมเคยได้ยินก็มี ข้าวหลามใหญ่ที่สุดในโลก ธูปใหญ่ที่สุดในโลก ผัดไทยกระทะใหญ่ที่สุดในโลก จูบนานที่สุดในโลก........ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนต่างชาติจะพอเข้าใจหรือไม่ว่า "ข้าวหลามหรือผัดไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลกมันดียังไง" หรือ "ประเทศไทยมีคนจูบนานที่สุดในโลกแล้วอยากมาเมืองไทยจังเลย" เหมือนผมเคยเห็นฝรั่งทำขนมปังยาวที่สุดในโลก ก็ยังไม่รู้สึกอยากกินขนมปังเพิ่มขึ้น หรืออยากไปดูขนมปังชิ้นนั้นสักเท่าไหร่ แต่บางเรื่องก็น่าสนใจเหมือนกัน เช่น แต่งงานใต้ทะเลเยอะที่สุดในโลก เรื่องแต่งงานคงไม่ได้กระตุ้นให้ฝรั่งมาซักเท่าไหร่ (เพราะคงแต่งได้ไม่บ่อยตามต้องการ) แต่ภาพท้องทะเลใต้น้ำในเมืองไทยที่สวยงาม น่าจะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า

           กลับมาเรื่อง "หลวงพ่อ" หรือ "หลวงปู่" ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันบ้าง สำหรับผมแล้วอยากบอกว่าป้ายที่ติดตามท้องถนนไม่รู้ "มันเยอะเกินไป" หรือไม่ หรือกลัวว่าคนจะไปไม่ถูกเลยบอกกันแทบทุกกิโลเมตรเลยทีเดียว และคงไม่มีใครบอกได้ว่า "ใหญ่ที่สุดในโลก" จริงหรือไม่ เพราะผมก็เคยเข้าไปเพื่อไหว้และทำบุญตามวัดที่ป้ายเหล่านี้บอกอยู่บ้าง ก็ต้องยอมรับว่า "ใหญ่" จริงๆ แต่ก็ไม่เคยไปวัด (หมายถึงวัดความสูงหรือความกว้าง) ว่าที่ไหนใหญ่กว่าที่ไหน เพราะการเข้าไปกราบไหว้หรือทำบุญก็เพราะอยากทำมากกว่าอยากไปดูว่า "ใหญ่ที่สุดในโลก" หรือไม่ 

           ผมพอเข้าใจอยู่บ้างว่าการทำบุญเป็นเรื่องที่ดี และผมก็เป็นชาวพุทธคนหนึ่งเช่นกัน จึงสนับสนุนให้ทุกคนหากมีโอกาสก็ควรต้อง "ทำบุญ" หรือ "สร้างบุญ" ตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักตามแนวทางแห่งพุทธ คือ "เพื่อความหลุดพ้น" อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก็มีย่อมความลึกซึ่งแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล การสร้างศาสนสถาน หรือศาสนวัตถุ ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะชักชวนให้คนเข้าวัด หรือทำบุญ โดยระยะหลังนี่จะเห็นว่า  วัด (ซึ่งบางที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นวัดหรือไม่) หลายแห่งก็คิดว่า "หากสร้างอะไรที่ใหญ่ๆ แล้ว คนน่าจะมาทำบุญกันเยอะ" จนหลายคนอาจจะเริ่มคิดไปว่า การทำบุญกับ "หลวงพ่อ" หรือ "หลวงปู่"  องค์ใหญ่ๆ น่าจะได้บุญเยอะ บางคนก็เลยอฐิษฐานกันแบบ "จัดเต็ม" ไปก็มี ดังนั้น สิ่งสำคัญของวัดหรือศาสนาสถานต่างๆ ที่มีโอกาสได้สร้าง "หลวงพ่อ" หรือ "หลวงปู่" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากไปทำบุญ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะไปกราบไหว้สักการะ และทำบริจาคทรัพย์ให้กับศาสนสถานเหล่านั้น ก็คือ ต้องสอนให้เข้าใจผลแห่งบุญเหล่านั้น โดยเฉพาะการบริจาคทรัพย์ว่าเป็นเพียง "การให้ทาน" เท่านั้น ซึ่ง "การให้ทานที่ บริสุทธิ์" นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "จำำนวน" หรือ "ขนาด" ของสิ่งที่ทำ "หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในใจของคนที่ทำทานเอง" (การให้ทานต้องเป็นการบริจาค สลัดสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น ว่าเรา ว่าของเรานั่นแหละออกไป เพราะฉะนั้น ในขณะที่ผู้ใดมีจิตว่างจากความรู้สึกว่าตัวเรา-ว่าของเรา ในขณะนั้นเรียกว่าบุคคลนั้นได้บริจาคทานถึงที่สุด : จากหนังสือแก่นพุทธศาสน์ พุทธทาสภิกขุ) 

           หากเข้าใจอย่างนี้แล้วก็ไม่จำเป็นว่าจะต้อง "ใหญ่ที่สุดในโลก" อย่างเดียว ผมคิดไปเรื่อยว่า น่าจะมีบางวัดติดป้ายบ้างว่า "หลวงพ่อ..........เล็กที่สุดในโลก"  แม้แต่แว่นขยายก็มองไม่เห็น ต้องใช้ "ใจ" ดูเท่านั้น แต่คิดแล้วคงไม่มีใครไปแน่...............