พรสวรรค์ของเด็กที่รอการปลดปล่อยจากครู 1 พฤศจิกายน 2555


             ดนตรีบรรเลง บทเพลงชีวิต

        วันนี้ไปเรียนวิชาการศึกษาแบบเรียนรวม ซึ่งเป็นการประเดิมในคาบเเรก อาจารย์ได้เปิดหนังเรื่องหนึ่งให้ดูซึ่งหนังเรื่องนี้ได้สอดแทรกแง่คิดหลายอย่างมาก ดูแล้วรู้สึกดีและใจหวิวขึ้นมาเลยล่ะชื่อเรื่อง “The Chorus ” หรือ “Les Choristes”  ที่ได้ชื่อไทยที่น่าดูชมว่า “ดนตรีบรรเลง บทเพลงชีวิต”  ภาพยนตร์ฝรั่งเศส ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่กินใจผู้ชมเป็นอย่างมากที่ครูคนหนึ่งพยายามที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กที่ก้าวร้าว และดึงพรสวรรค์ของเด็กที่มีอยู่ในตัวด้วย ดนตรี ซึ่งนั่นก็คือการตั้งวงประสานเสียงขึ้นมา เปรียบได้ ว่าเป็น ดนตรีบำบัด อย่างหนึ่ง ซึ่งดนตรีทำให้เด็กเหล่านั้นมีชีวิตที่เปลี่ยนไปได้รับอะไรใหม่ๆที่พวกเขาไม่เคยมีมาก่อนนั้นคือประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำ

เดอะ คอรัส เป็นเรื่องราวของนักแต่งเพลงตกอับนาม เคลต์มอง มอติเออร์  ที่เคยโบกธงขาวให้กับดนตรีมาแล้ว 

เขาได้เดินทางมายังโรงเรียนฟองเลอแต็ง(มั๊ง) เพื่อมารับหน้าที่ครูแนะแนว ซึ่งโรงเรียนนี้ เป็นโรงเรียนที่รวบรวมเด็กยากจน เด็กเหลือขอ และเด็กด้อยโอกาสมาอยู่รวมกัน ครู Mathieu เป็นตัวอย่างของครูที่พยายามแก้ปัญหาเด็กเกเรอย่างมีมนุษยธรรม คำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดของเด็กๆ แล้วค่อยๆโน้มน้าวจูงใจเด็กไปในทางที่ดี นี่จึงจะเป็น การเรียนการสอนที่เป็น Child Center อย่างแท้จริง 

           เรื่องย่อ      

                   ภาพยนตร์การผสมผสานระหว่างบทเพลงประสานเสียงกับการแสดงที่ลงตัวจากประเทศฝรั่งเศส  เป็นหนังได้รับ2 รางวัลจาก Academy Award Nominations Best Foreign Language Film  สำหรับเรื่องราวนั้น จะเป็นเรื่องราวของโรงเรียนดัดสันดานแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Fond de l’ Etang  ( ฟง เดอ เลแต็ง ) และโรงเรียนแห่งนี้ จะมี ผอ. จอมโหด  ราแชง ซึ่งเป็นคนเจ้าระเบียบ   ใช้ระบบการบริหารแบบ ออกกฎ แล้วลงโทษ  ผู้ฝ่าฝืน   และเด็กแสบ อีก 2 คน คือ  ปิแอร์ มอร์ฮอง  กับ  มงแด็ง โดยเด็กทั้งสองคนนี้ มีพื้นฐานของที่บ้านต่างกัน  ปิแอร์ มอร์ฮอง  มีแม่ที่เป็นที่รัก แต่ต้องทำงานหนัก ไม่มีเวลาดูแล เลยมาฝากลูกไว้ที่นี่ ส่วน มงแด็ง เป็นเด็กเหลือขอ  มีพฤติกรรม วายร้าย ประวัติโชกโชน จนโรงเรียน ดัดสันดานที่อื่นเอาไม่อยู่ จึงต้องส่งตัวมาให้ ผอ. จอมโหด ราแชง จัดการ และ ตัวเอกของเรื่อง คือ เคลมองต์ แม็ทธิวว์  นักดนตรีเล็กๆ ครูตกงาน มาสมัครเป็นครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้   

 วันแรกที่ เคลมองต์ แม็ทธิวว์  เข้ามาในโรงเรียน แห่งนี้  ก็ได้พบกับวีรกรรมของเด็กเหล่านี้ตั้งแต่วันแรก ซึ่งทำให้ราแชง โกรธและเรียกเด็กเหล่านั้นมาสอบสวน  เพื่อหาผู้ผิด   ราแชงมักจะค้นหา และ ลงโทษ ผู้กระทำผิด เสมอ แต่เขาก็มักจะพบว่า เด็กเหล่านี้ ดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง เหมือนเดิม ไม่ได้ลดลงเลย แล้วเขาก็ทำการเพิ่มบทลงโทษ โดยหวังว่า เด็กเหล่านี้จะกลัว แล้วประพฤติตัวอยู่ในกฏระเบียบ แต่สิ่งที่ราแชงนั้นฝันไว้ ก็ยังคงเป็นแค่เพียงความฝัน  เด็กเหล่านั้น แค่รอจังหวะ ที่จะทำเรื่องราว ที่ทำให้ ราแชง ปวดหัวเล่น โดยที่สาวไม่ถึงตัวพวกเขาเท่านั้น 

                 และเมื่อ เคลมองต์ แม็ทธิวว์  เข้ามาสอนที่โรงเรียนนี้ เข้าได้สอนพวกเด็กๆ ร้องเพลง  โดยเริ่มต้นจาก การ ทดสอบเสียง ของเด็กทีละคน ทุกคนต่างกัน  ย่อมต้องมีหน้าที่ของตัวโน๊ตที่ต่างกัน  เมื่อแยกแยะโทนเสียงที่เหมาะสมของแต่ละคนได้แล้ว เขาก็พบเพชรน้ำงาม  คือ ปิแอร์ มอร์ฮอง ซึ่งเขามองว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ ที่จะไปได้ไกล แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ  เคลมองต์ แม็ทธิวว์  ก็ไม่ละความพยายาม มีการพูด ชี้นำ  สอนตัวต่อตัว แกมบังคับ  จน ปิแอร์ มอร์ฮอง เริ่มร้องเพลง และวงดนตรีประสานเสียงวงนี้ก็กำเนิดขึ้น เพราะหากขาดเสียงโซปราโน่ ของ ปิแอร์ มอร์ฮอง แล้ววงดนตรีวงนี้ก็ไม่มีชีวิต 

                 แม้จะเบียดเบียนเวลาส่วนตัวของพวกเขา  แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่รัก พวกเขาก็ไม่มองว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เป็นการเบียดเบียนเวลา แต่กลับมองต่างออกไปว่า นั่นคือ ช่วงเวลาที่พวกเขาได้เสพความสุขต่างหาก และเมื่อ ปิแอร์ มอร์ฮอง ได้ร้องเพลง ก็เริ่มรู้สึกรัก  รู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของวง จนถึงกับซ้อมร้องเพลง คนเดียวหลังเลิกเรียน   และในขณะที่เด็กๆกับกำลังจดจ่อกับการร้องเพลงนั้น  ราแชงก็ห้ามไม่ให้พวกเขาเรียนร้องเพลงอีก  แม้ เคลมองต์ แม็ทธิวว์  จะชี้แจงว่า ดนตรี ทำให้พวกเขามีวินัยมากขึ้น และ ก้าวร้าวลดลง แต่ ราแชงก็ไม่ยอม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแอบฝึกร้องเพลงกันที่ห้องพัก ตอนกลางคืน 

                การลงโทษ ที่รุนแรง ที่สุด คือ การไม่ให้พวกเขาทำในสิ่งที่รัก และทำเป็นไม่เห็นว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม   ครั้งหนึ่ง ปิแอร์ มอร์ฮอง ทำพฤติกรรมก้าวร้าว  เคลมองต์ แม็ทธิวว์  จึงไม่ให้ร่วมวงร้อง ทำเป็นเหมือนกับว่าวงนี้ไม่จำเป็นต้องมี ปิแอร์ มอร์ฮอง ก็ได้ ซึ่งช่วงนั้น ปิแอร์ จะเงียบเหงา หงอยไปถนัดตา 

                ส่วน มงแด็งนั้น ก้าวร้าวกว่า ปิแอร์  เคลมองต์ แม็ทธิวว์  ก็พยายามจะใช้วิธีเดียวกัน บำบัด มงแด็ง ครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์เงินหาย แต่ราแชง ไม่มีหลักฐาน แต่ปักใจเชื่อและกล่าวโทษ มงแด็ง  และลงโทษ ขั้นรุนแรง เฆี่ยนตี และขังห้องมืด  ซึ่งทำให้ มงแด็ง ขาดความเชื่อในตัวคน จึงหนีออกจาก  Fond de l’ Etang  ( ฟง เดอ เลแต็ง )  และเมื่อวันที่เขากลับมา เขาได้มาพร้อมไฟ และเผาโรงเรียนนี้จนวอดวาย แต่ยังโชคดีที่วันนั้น ครูแมททริวแอบพานักเรียนออกไปทัศนศึกษา จึงปลอดภัยทุกคน แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ครูแมททริวถูกไล่ออก

 บทสรุป

              นักเรียนแต่ละคนมีพื้นฐานและที่มาที่แตกต่างกัน ครูต้องคอยสังเกตและเอาใจใส่ในพฤติกรรมของนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ครูต้องรู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น แล้วหาวิธีช่วยเหลือ, พูดจาตักเตือนกล่อมเกลาจิตใจเขาให้ค่อยๆ บรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยอาจนำดนตรีหรือกีฬาเข้ามาช่วย เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ทำให้เด็กมีสมาธิและมีอารมณ์เย็นขึ้น  รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น  จนในที่สุดก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่ครูอบรมสั่งสอนและปฏิบัติตามด้วยความสมัครใจของเขาโดย ที่ครูไม่ต้องบังคับ

                จากการดูหนังเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าคนที่เป็นครูต้องมีความอดทนเป็นอย่างสูง ใจต้องเย็นมากๆ วุฒิภาวะทางอารมณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การใช้ไม้แข็งกับนักเรียนไม่ได้ผลเสมอไป ตัวอย่างเช่นในหนัง ผอ.จะยึดหลักแรงมา แรงกลับ ใครทำผิดต้องถูกจับขังห้องมืดโดยที่ ผอ. ไม่เคยไต่สวน หรือให้นักเรียนอธิบายอะไรเลยใช้แต่อำนาจอย่างเดียว การทำแบบนี้อาจจะทำให้นักเรียนกลัวก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้นักเรียนมีความเคารพหรือเกรงใจในตัว ผอ.เลย  ผิดกับครูแมทธิว ที่รู้จักใช้ไม้อ่อนบ้าง แข็งบ้าง แล้วแต่สถานการณ์แต่ก็ทำให้เขาได้เข้าใจนักเรียนมากขึ้น ขณะเดียวกันนักเรียนก็มีความรู้สึกไว้ใจในตัวครู และยอมรับครูแมทธิวมากขึ้นด้วย

           ถ้าในสังคมสมัยนี้มีคนอย่างครูแมททริวอยู่ละก็เด็กๆที่ก้าวร้าวคงน้อยลงทันตาเห็น ครูที่อุทิศตน ทำเพื่อศิษย์โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากเช่นนี้ ควรแก่การเทิศทูนบูชาจริงๆ

               ” การแก้ปัญหาที่รุนแรงกับเด็กไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปเพราะนั่นจะยิ่งทำให้เด็กก้าวร้าวมากขึ้น “

ติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1301971780M0

หมายเลขบันทึก: 507408เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2012 17:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม 2019 16:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ให้ข้อคิดของการเป็นครูที่ดีมากๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท