ข้อเท็จจริง
บริษัท น้ำมันสยาม จำกัดเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแห่งประเทศไทย แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สำนักงานใหญ่ของบริษัทนี้ตั้งอยู่ที่รัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
หุ้นจำนวนร้อยละ ๗๐ ในบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด เป็นของบริษัทยู.เอส.ซัมมิท (โอเวอร์ซี) จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแห่งประเทศสาธารณรัฐปานามา แต่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่รัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น บริษัทยู.เอส.ซัมมิท(โอเวอร์ซี) จำกัดยังมีสาขาในประเทศไทย
คำถาม
1.บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มีจุดเกาะเกี่ยวกับประเทศไทยหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ? [1]
2.จะต้องใช้กฎหมายของประเทศใดในการพิจารณาสิทธิของบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด ที่จะบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามกฎหมายไทย ? เพราะเหตุใด ? [2]
3.บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มีสิทธิที่จะบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามกฎหมายไทยหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ? [3]
แนวคำตอบ
โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล ขอตอบว่า
1.บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มีจุดเกาะเกี่ยวที่แท้จริงกับประเทศไทยหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?
โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล นิติบุคคลย่อมมีความสัมพันธ์กับประเทศซึ่งมีอำนาจอธิปไตยเหนือสาระสำคัญของนิติบุคคล กล่าวคือ (๑) นิติบุคคลย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐผู้รับก่อตั้งสภาพบุคคล (๒) นิติบุคคลย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐเจ้าของดินแดนอันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และ (๓) นิติบุคคลย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐเจ้าของสัญชาติของผู้ถือหุ้นที่ครอบงำนิติบุคคล
โดยข้อเท็จจริงของบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด จะเห็นในประการแรกว่า บริษัทนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับประเทศไทยในสาระสำคัญของนิติบุคคล เนื่องจาก บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด เป็นนิติบุคคลในรูปบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย ประเทศไทยจึงมีความสัมพันธ์กับบริษัทนี้ในฐานะรัฐผู้รับก่อตั้งสถานะบุคคลของบริษัท แม้ปรากฏว่า สำนักงานใหญ่ที่แท้จริงของบริษัทตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและผู้ถือหุ้นข้างมากมีสัญชาติอเมริกัน ก็ตาม
จึงสรุปได้ว่า บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มีจุดเกาะเกี่ยวที่แท้จริงกับประเทศไทยอย่างแน่นอน
2.จะต้องใช้กฎหมายของประเทศใดในการพิจารณาสิทธิของบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด ที่จะบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามกฎหมายไทย ? เพราะเหตุใด ?
จะเห็นว่า กรณีตามคำถามเป็นนิติสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐไทยและบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด ซึ่งเป็นเรื่องตามกฎหมายมหาชน โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล นิติสัมพันธ์ดังกล่าวย่อมตกอยู่ภายใต้กฎหมายมหาชนภายในของคู่กรณีในนิติสัมพันธ์ ทั้งนี้ เว้นแต่จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
เมื่อกรณีเป็นเรื่องของสิทธิที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองตามกฎหมายไทย กรณีจึงเป็นไปตามกฎหมายไทยซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐคู่กรณี กฎหมายที่ต้องนำมาใช้ในที่นี้ จึงได้แก่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ นั่นเอง
3.บริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มีสิทธิที่จะบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองตามกฎหมายไทยหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?
กรณีย่อมตกอยู่ภายใต้มาตรา ๖๙ และมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐
โดยผลของมาตรา ๖๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ กฎหมายห้ามมิให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกผู้ใดรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมืองหรือดำเนินกิจการในทางการเมืองจากนิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร ซึ่งมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบ ซึ่งโทษของการฝ่าฝืนปรากฏในมาตรา ๑๑๖ แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งให้หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง กรรมการสาขาพรรคการเมือง หรือสมาชิกผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี
ในขณะที่มาตรา ๗๐ แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ บัญญัติห้ามนิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร ซึ่งมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบบริจาคแก่พรรคการเมืองหรือสมาชิกผู้ใดเพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อดำเนินกิจการในทางการเมือง ซึ่งโทษของการฝ่าฝืนปรากฏในมาตรา มาตรา ๑๑๘ แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งบัญญัติให้ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น เมื่อผู้ถือหุ้นร้อยละ ๙๘ ของบริษัท น้ำมันสยาม จำกัด มาจากบริษัท ยู.เอส.ซัมมิท(โอเวอร์ซี) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนก่อตั้งนิติบุคคลตามกฎหมายปานามา บริษัทนี้จึงไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงินแก่พรรคการเมืองไทย
[1] ข้อสอบในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า ปีการศึกษา ๒๕๔๕ภาคการศึกษาที่ ๒
[2] ข้อสอบในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า ปีการศึกษา ๒๕๔๕ภาคการศึกษาที่ ๒
[3] ข้อสอบในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า ปีการศึกษา ๒๕๔๕ภาคการศึกษาที่ ๒
ไม่มีความเห็น