การกระจายการผลิตลองกองชุมพร ตอนหนึ่ง

เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ ผมได้เข้าไปร่วมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการผลิตลองกองนอกฤดู ของกลุ่มปรับปรุงคุณภาพไม้ผลตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โครงการนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับปัจจัยการผลิตจากงบพัฒนาจังหวัดชุมพรและงบพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ในฐานะผู้เสนอแนวคิดการกระจายการผลิตเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ท่านพินิจ เจริญพานิช จนได้การสนับสนุนงบประมาณ ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการผลิตนอกฤดูมีช่วงระยะเวลาการปฏิบัติกับลองกองค่อนข้างเคร่งครัดหากละเลยผลที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นตามเป้าหมาย สำหรับฤดูกาลนี้ระยะเวลาก็ได้เหลื่อมไปแล้วประมาณ ๒ เดือน ผมจึงต้องเข้ามาวางแผนร่วมกับเกษตร โดยผมได้บอกกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการว่าท่านคือ นักวิจัย เพราะฉะนั้นนักวิจัยต้องจัดเก็บข้อมูลคือมีการบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่มีการปฏิบัติกับต้นลองกองพร้อมทั้งบันทึกการเปลี่ยนแปลงของต้นลองกองหลังจากที่ท่านปฏิบัติ เช่น แตกตายอด ใบอ่อน ใบเพสลาด เริ่มแตกตาดอก โดยโครงการมีสมุดบันทึกให้

        วันนี้สมาชิกทุกคนก็มาประชุมกันครบทุกคน ได้มีการกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติโดยทุกแปลงจะทำเหมือนกัน ที่ประชุมกำหนดให้สมาชิกตัดแต่งให้เสร็จภายในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ แล้วใส่ปุ๋ยอินทรีย์ พร้อมปุ๋ยสูตร ๑๐-๓-๓ ให้เสร็จภายในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕  และในวันนี้สมาชิกจะได้รับปุ๋ยเคมีสูตร ๑๕-๑๕-๑๕ ตามสัดส่วนจำนวนพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ และนัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ทุกคนต้องถือสมุดบันทึกมาทุกคนและมาเล่าสู่กันฟังว่าเกิดการเปลี่ยนอะไรบ้างจากการปฏิบัติช่วงที่ผ่านมา

          การบริหารโครงการกลุ่มจะเก็บปัจจัยการผลิตไว้ที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล โดยความรับผิดชอบของประธานกลุ่ม และจะมอบให้สมาชิกเมื่อมีการประชุมที่สอดคล้องกับกิจกรรมการผลิต (ไม่ได้มอบให้ครบในครั้งเดียว) ซึ่งเป็นมติของที่ประชุม สำหรับเครื่องพ่นสารเคมีมีสมาชิกกลุ่มรับผิดชอบการจัดเก็บ และให้สมาชิกยืมใช้โดยมีกติกาการดูแลรักษาเป็นลายลักษณ์อักษร

          หลังจากมีการพูดคุยกันหลายเรื่องมีสมาชิกถามผมว่า ลองกองชุดนี้ถ้าประสบผลสำเร็จจะเก็บเกี่ยวเดือนไหน ผมก็ตอบว่า เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ ก็คาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นโดย เทียบเคียงกับแผนการปฏิบัติจากเวที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักส่งเสริมฯเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕