เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด :
ความฝัน 4 แบบ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2555 ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านของผมคนหนึ่งถูกหวยใต้ดิน 2 ตัว ได้เงินมาหลายพันบาทด้วยกัน ผมเลยลองสอบถามเขาว่าไปได้เลขเด็ดมาจากไหน? เขาก็บอกว่าเขาได้เลยเด็ดมาจากความฝันของเขาเอง ซึ่งเขาบอกว่าพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปนานแล้วมาเข้าฝัน แล้วก็ใส่เสื้อที่มีเลขหวยอยู่บนเสื้อขนาดใหญ่จนมองเห็นได้อย่างชัดเจน พอเช้ามาเขาก็เลยลองนำเอาหมายเลขดังกล่าวไปซื้อหวยดู แล้วก็ปรากฏว่าถูกจริงๆ
ผมได้ฟังดังนั้น ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะตัวเองสนใจเกี่ยวกับเรื่อง “ความฝัน” อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยถามเขาว่า ช่วงเวลาที่เขาฝันว่าอยู่ในช่วงเวลาใด? ซึ่งเขาตอบว่า อยู่ในช่วงระหว่างประมาณ ตี 2 ถึงตี 4 เห็นจะได้
คำตอบของเขาทำให้ผมหมดความสงสัย เนื่องจากเท่าที่ผมได้เคยศึกษามา พบว่าช่วงเวลาระยะเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่ทุกอย่างเงียบสงบที่สุด ทั้งบรรยากาศภายนอกและภาวะจิตของคนเราในยามที่กำลังหลับใหล หากใครฝันอะไรในช่วงนี้ ก็มักจะได้พบกับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ทั้งในเรื่องดีหรือเรื่องร้าย
อันว่า “ความฝัน” นั้น เท่าที่ผมได้ศึกษามาจากตำรับตำราต่างๆ เขามีการแบ่งความฝันออกเป็น 4 แบบใหญ่ๆ นะครับ คือ
1. บุพพนิมิต ความฝันประเภทนี้เป็นการบอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้ง
เรื่องดีและเรื่องร้าย เป็นเหมือนลางสังหรณ์ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “เด จาวู” ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น กรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวร ภูติผี หรือบรรพบุรุษมาเข้าฝัน เป็นต้น
2. จิตอาวรณ์ ความฝันประเภทนี้เป็น “ฝันเฟื่อง” ที่เกิดจากการได้ประสบกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบในยามตื่น พอยามนอนหลับก็เลยเก็บไปฝันต่ออีก เช่น ได้ดูละครที่น้องแพนเค้กแสดง ก็เกิดความหลงใหลประทับใจ พอถึงยามหลับก็เลยฝันว่าได้เดินจูงแขนน้องแพนเค้กไปตามที่ต่างๆ รวมทั้งได้กอดและหอมแก้มน้องแพนเค้กอีกต่างหาก (คิคิคิ)
3. เทพสังหรณ์ ความฝันประเภทนี้เกิดจากเทวดาหรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วยังมีความห่วงใยและผูกพันกับเราอยู่ ก็เลยเขามาเยี่ยมในฝันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ทราบล่วงหน้า ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย เพื่อบอกให้ลูกหลานรู้ตัวและจะได้ระมัดระวังเอาไว้
4. ธาตุกำเริบ ความฝันประเภทนี้เกิดจากสภาพร่างกายมีความแปรปรวน ร่างกายไม่ปกติ เช่น เป็นหวัด เลยฝันว่าจมน้ำ เยี่ยวรดที่นอน เลยฝันว่าน้ำท่วม นอนทับแขนตัวเองจนชา เลยฝันว่าถูกตัดแขนขาด เป็นต้น
ในบรรดาความฝันทั้ง 4 ประเภทนั้น ความฝันที่มีโอกาสจะกลายเป็นความจริงได้ก็คือ “บุพพนิมิต” กับ “เทพสังหรณ์” ยิ่งถ้าหากฝันในช่วงระหว่างตี 2ถึงตี 4 ซึ่งเป็นช่วงที่จิตกำลังดำดิ่งเข้าสู่ภวังค์ด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะกลายเป็นความจริงสูงขึ้นไปอีก
ส่วนความฝันที่ไม่มีโอกาสกลายเป็นความจริงเลย ก็คือ “จิตอาวรณ์” กับ “ธาตุกำเริบ” นะครับ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ เป็นเพียง “ฝันเฟื่อง” หรือฝันทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง เพราะถ้าหากสามารถกลายเป็นความขึ้นมาจริงได้ ป่านนี้ผมคงได้เป็นเจ้าบ่าวของน้องอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ไปตั้งนมนานแล้วละครับ 555
เอาเป็นว่า...ต่อไป หากใครฝันอย่างไร? ก็ลองนำมาเปรียบเทียบกับความฝันทั้ง 4 แบบ ที่ผมได้กล่าวมาดูนะครับ
บางทีล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดต่อๆ ไป อาจจะตกเป็นของท่านก็ได้นะครับ 555
สวัสดีครับ คุณมะเดื่อ
ลองนำเอาความฝันทั้ง 4 แบบ ไปเทียบเคียงดูนะครับ
จะได้ทราบว่าความฝันของคุณมะเดื่ออยู่ในประเภทใดบ้าง
เผื่่อจะได้เล่าสู่กันฟังต่อไปครับ
นานๆจะฝันค่ะ
ปกติหัว ยังไม่ทันถึงหมอน ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ อิอิ
สวัสดีครับ คุณ kunrapee
*การนอนหลับโดยไม่ฝัน คือการนอนหลับสนิทและดีที่สุดนะครับ
** การนอนหลับง่าย ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งด้วยนะครับ
คือฝันว่าตัวเองไปหมู่บ้านแห่งนึง แล้วหนูก้ไปรบหลู่ต้นไม้ที่มีคนผูกคอตายอ่ะค่ะ แล้วก้โดนผีไล่ มันจะเป้นจิงมั้ยค่ะ ฝันตอนประมานตี5ถึง6โมงมั้ง ฝันเสดก้ตื่นเลย ดูนาฬิก้6โมงจะเจ้ดโมง ยุดีๆก้ฝันทั้งที่ไม่เคยคิด